ตามเดิม! “ส.บอล” ยันไม่เลื่อนชิงลีกคัพ “กิเลน-บุรีรัมย์”

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติในทีมประชุมในกรณีที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ขอเลื่อนการแข่งขัน โตโยต้า ลีกคัพ นัดชิงชนะเลิศ ว่า ให้มีการแข่งขันตามเดิม เนื่องจากส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

หลังจากที่สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้เข้ามายื่นหนังสือต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ขอเลื่อนการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ ที่จะพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เนื่องจากกังวลเรื่องนักเตะล้าจากการเดินทางหลังจากภารกิจทีมชาติไทยนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการประชุมเรื่องดังกล่าว โดยมี นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกสมาคมฝ่ายจัดการแข่งขัน, พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ, นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการและโฆษกสมาคมฯ ร่วมประชุม

หลังจากการประชุม นายพาทิศ ในฐานะโฆษกสมาคมฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีข้อสรุปไม่เลื่อนการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ “โตโยต้า ลีกคัพ 2016” ในวันที่ 15 ตุลาคม โดยมีเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. ในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท พรีเมียร์ลีก ไทยแลนด์ จำกัด (พีแอลที) ครั้งล่าสุดนั้น ได้มีการพูดคุยถึงตารางแข่งขัน และรับทราบดีว่าทีมชาติไทยจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 12 ตุลาคม ซึ่งตัวแทนของบุรีรัมย์ กับ เมืองทอง ที่เข้าประชุมในวันนั้นยอมรับได้ถึงการพักเพียง 2 - 3 วันก่อนจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ และทั้ง 18 สโมสร ก็เป็นพยานในเรื่องนี้ได้

2. ในส่วนของ โตโยต้า ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักในการจัดการแข่งขัน ยินดีที่จะให้จัดการแข่งขันในวันที่ 15 ตุลาคม เนื่องจากว่าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าหากว่ามีการเลื่อนการแข่งขันอาจจะต้องไปตกอยู่ในช่วงกลางสัปดาห์ ทำให้ทางสปอนเซอร์เห็นว่าอาจจะไม่เหมาะที่จะเลื่อน เพราะจะส่งผลต่อแฟนบอล ซึ่งทางโตโยต้าเองก็ยอมรับได้ที่วันดังกล่าวจะมีเพียงแฟนบอลของบุรีรัมย์เท่านั้นที่เข้าไปชมในสนามได้

3. ในส่วนของการถ่ายทอดสด ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางช่อง ทรู4ยู นั้น ได้เตรียมการสำหรับการถ่ายทอดสดทั้งการเช่ารถ อุปกรณ์ต่าง ๆ เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังได้มีการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 19 ชิงแชมป์เอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม เอาไว้ ถ้าหากเลื่อนวันการแข่งขันอาจจะทำให้โปรแกรมทับซ้อนกันได้ จึงยืนยันที่จะไม่เลื่อนการแข่งขันออกไป

นายพาทิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกฎของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) นั้น ได้ระบุว่า นักเตะจะต้องกลับคืนสู่สโมสรหลังจากภารกิจทีมชาติก่อนการแข่งขันไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งครั้งนี้มีเวลา 48 ชั่วโมง ก็ยังถือว่าอยู่ในกฎอยู่ และการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะว่าเหลือเวลาในการเตรียมการไม่มาก ทุกอย่างตอนนี้ถือว่าไฟนอลทุกอย่างแล้ว

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *