คอลัมน์ “ตอดทุกเรื่อง” โดย “หญิงตอด”
หลังมีข่าวนักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 16 ปี มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งสูบบุหรี่ หนักถึงมียาเสพติดประเภทกัญชาในครอบครอง ตามด้วยผลงานตกรอบแรกชิงแชมป์เอเชีย ที่อินเดีย
โดยข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดในโลกโซเชียล สร้างความตกใจให้แฟนลูกหนังไทยไม่น้อย แต่ที่น่าตกใจมากกว่าคงเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ทำให้กลายเป็นการเข้าใจผิดกันใหญ่โต
ซึ่งรายละเอียดคือ นักเตะทีมชาติไทย ยู-16 คนหนึ่ง ที่จะไปแข่งขันรอบสุดท้าย ที่ประเทศอินเดีย ถูกจับได้ว่านำกัญชาเข้าไปในแคมป์เก็บตัว และถูกตัดออกจากทีมก่อนที่จะเดินทางแล้ว ซึ่งแข้งรายดังกล่าวไม่ได้ไปเล่นรอบสุดท้ายรายการชิงแชมป์เอเชียแต่อย่างใด
ทว่า “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาสมาคมฟุตบอลฯ กลับออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากทีมชาติไทย ตกรอบแรกศึกชิงแชมป์เอเชีย ทำให้เกิดการเชื่อมโยงไปถึงฟอร์มการเล่นของทีมชาติ ยู-16 ทั้งหมดที่ทำได้ไม่ดี เพราะมีนักเตะที่ไร้วินัยอยู่ในทีม โดยเฉพาะพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้เกิดคำถามว่า เด็กนำสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้เข้าไปภายในแคมป์ได้อย่างไร
อีกทั้งยังมีคนมองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกิดภายในแคมป์ และไม่เหมาะสมที่จะนำมาประกาศให้สาธารณะได้รับรู้ เพราะวงการฟุตบอลกำลังก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ น่าจะมีการคัดกรองเองว่าผู้เล่นมีความเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันหรือไม่
จึงไม่แปลกที่เรื่องนี้จะเป็นข่าวใหญ่โต เพราะส่งให้เกิดภาพลบกลับมายังวงการฟุตบอลไทยทั้งหมด และเหตุการณ์นี้คงจะเป็นที่มาของการที่สมาคมฟุตบอลแต่งตั้ง “โฆษก” ของสมาคมขึ้นมา เพื่อให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน หรือเรียกง่าย ๆ ว่า มีการกรองข้อมูลอะไรสักหน่อย ก่อนข่าวสารจะกระจายออกไป แต่โฆษกน่าจะมาช้าไป การให้ข่าวของสมาคมฟุตบอลฯ ในครั้งนี้ จึงสร้างความเสียหายไม่น้อย เพราะเปรียบเหมือนหันดาบมาแทงตัวเองด้วย
เรื่องพฤติกรรมของนักฟุตบอลที่ไม่เหมาะสม ถือเป็นเรื่องที่ต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เช่นเดียวกันต้องแยกประเด็นว่าผลงานในสนามของเด็กชุดนี้ ที่ตั้งเป้าจะไปบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ต้องพังทลายลงเพราะอะไร ฟอร์มการเล่นที่ไม่เข้าเป้า, ระเบียบวินัยในสนาม - นอกสนาม ใครเป็นรับผิดชอบ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน หนึ่งในผู้เล่นชุดนี้เพิ่งจะโพสต์ข้อความด่าทอแฟนบอลที่วิจารณ์เรื่องฝีเท้าของทีม
สิ่งหนึ่งที่สมาคมฯ ห้ามลืม คือ ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 16 ปี ถือเป็นทีมชาติรุ่นเล็กที่สุดในการส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันของฟีฟา ซึ่งเด็กอายุ 15 - 16 ปี ถือว่าเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ กำลังเข้าสู่วัยรุ่น อยากรู้ อยากลอง การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด จึงสำคัญสำหรับเด็กชุดนี้มาก
สิ่งที่สมาคมฯ ควรจะทำหลังจากนี้ คือ เปิดอกคุยกับเด็ก ผู้ปกครอง แม้ว่าทุกคนจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศก็จริง แต่อย่าลืมว่าน้อง ๆ ก็ยังคือเด็ก แตกต่างจากรุ่นพี่ในชุด ยู-19 หรือ ยู-21 ที่แทบจะทุกคนเข้าสู่กระบวนการของฟุตบอลอาชีพไปแล้ว หลายคนลงเล่นในลีกอาชีพ รู้วิธีวางตัวในสังคม และการรับมือกับความกดดันทั้งในและนอกสนาม เรื่องบางเรื่องผู้ใหญ่ต้องแนะนำ สั่งสอน และให้โอกาสกลับตัวกลับใจในส่วนที่ทำผิดพลาดไป หากเด็กพร้อมจะแก้ไข
เรื่องนี้จึงอยากให้เป็นบทเรียนของสมาคมฟุตบอลฯ ว่า ควรจัดการข้างในบ้านตัวเองให้เรียบร้อย เพราะการนำลูกเค้ามาดูแลให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศแล้ว ต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบพฤติกรรมของนักกีฬาแต่ละคนด้วย ไม่เช่นนั้น นอกจากจะทำลายเด็กแล้วยังทำลายลูกหนังไทยให้ตกต่ำลงไปอีก
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
หลังมีข่าวนักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 16 ปี มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งสูบบุหรี่ หนักถึงมียาเสพติดประเภทกัญชาในครอบครอง ตามด้วยผลงานตกรอบแรกชิงแชมป์เอเชีย ที่อินเดีย
โดยข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดในโลกโซเชียล สร้างความตกใจให้แฟนลูกหนังไทยไม่น้อย แต่ที่น่าตกใจมากกว่าคงเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ทำให้กลายเป็นการเข้าใจผิดกันใหญ่โต
ซึ่งรายละเอียดคือ นักเตะทีมชาติไทย ยู-16 คนหนึ่ง ที่จะไปแข่งขันรอบสุดท้าย ที่ประเทศอินเดีย ถูกจับได้ว่านำกัญชาเข้าไปในแคมป์เก็บตัว และถูกตัดออกจากทีมก่อนที่จะเดินทางแล้ว ซึ่งแข้งรายดังกล่าวไม่ได้ไปเล่นรอบสุดท้ายรายการชิงแชมป์เอเชียแต่อย่างใด
ทว่า “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาสมาคมฟุตบอลฯ กลับออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากทีมชาติไทย ตกรอบแรกศึกชิงแชมป์เอเชีย ทำให้เกิดการเชื่อมโยงไปถึงฟอร์มการเล่นของทีมชาติ ยู-16 ทั้งหมดที่ทำได้ไม่ดี เพราะมีนักเตะที่ไร้วินัยอยู่ในทีม โดยเฉพาะพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้เกิดคำถามว่า เด็กนำสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้เข้าไปภายในแคมป์ได้อย่างไร
อีกทั้งยังมีคนมองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกิดภายในแคมป์ และไม่เหมาะสมที่จะนำมาประกาศให้สาธารณะได้รับรู้ เพราะวงการฟุตบอลกำลังก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ น่าจะมีการคัดกรองเองว่าผู้เล่นมีความเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันหรือไม่
จึงไม่แปลกที่เรื่องนี้จะเป็นข่าวใหญ่โต เพราะส่งให้เกิดภาพลบกลับมายังวงการฟุตบอลไทยทั้งหมด และเหตุการณ์นี้คงจะเป็นที่มาของการที่สมาคมฟุตบอลแต่งตั้ง “โฆษก” ของสมาคมขึ้นมา เพื่อให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน หรือเรียกง่าย ๆ ว่า มีการกรองข้อมูลอะไรสักหน่อย ก่อนข่าวสารจะกระจายออกไป แต่โฆษกน่าจะมาช้าไป การให้ข่าวของสมาคมฟุตบอลฯ ในครั้งนี้ จึงสร้างความเสียหายไม่น้อย เพราะเปรียบเหมือนหันดาบมาแทงตัวเองด้วย
เรื่องพฤติกรรมของนักฟุตบอลที่ไม่เหมาะสม ถือเป็นเรื่องที่ต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เช่นเดียวกันต้องแยกประเด็นว่าผลงานในสนามของเด็กชุดนี้ ที่ตั้งเป้าจะไปบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ต้องพังทลายลงเพราะอะไร ฟอร์มการเล่นที่ไม่เข้าเป้า, ระเบียบวินัยในสนาม - นอกสนาม ใครเป็นรับผิดชอบ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน หนึ่งในผู้เล่นชุดนี้เพิ่งจะโพสต์ข้อความด่าทอแฟนบอลที่วิจารณ์เรื่องฝีเท้าของทีม
สิ่งหนึ่งที่สมาคมฯ ห้ามลืม คือ ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 16 ปี ถือเป็นทีมชาติรุ่นเล็กที่สุดในการส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันของฟีฟา ซึ่งเด็กอายุ 15 - 16 ปี ถือว่าเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ กำลังเข้าสู่วัยรุ่น อยากรู้ อยากลอง การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด จึงสำคัญสำหรับเด็กชุดนี้มาก
สิ่งที่สมาคมฯ ควรจะทำหลังจากนี้ คือ เปิดอกคุยกับเด็ก ผู้ปกครอง แม้ว่าทุกคนจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศก็จริง แต่อย่าลืมว่าน้อง ๆ ก็ยังคือเด็ก แตกต่างจากรุ่นพี่ในชุด ยู-19 หรือ ยู-21 ที่แทบจะทุกคนเข้าสู่กระบวนการของฟุตบอลอาชีพไปแล้ว หลายคนลงเล่นในลีกอาชีพ รู้วิธีวางตัวในสังคม และการรับมือกับความกดดันทั้งในและนอกสนาม เรื่องบางเรื่องผู้ใหญ่ต้องแนะนำ สั่งสอน และให้โอกาสกลับตัวกลับใจในส่วนที่ทำผิดพลาดไป หากเด็กพร้อมจะแก้ไข
เรื่องนี้จึงอยากให้เป็นบทเรียนของสมาคมฟุตบอลฯ ว่า ควรจัดการข้างในบ้านตัวเองให้เรียบร้อย เพราะการนำลูกเค้ามาดูแลให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศแล้ว ต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบพฤติกรรมของนักกีฬาแต่ละคนด้วย ไม่เช่นนั้น นอกจากจะทำลายเด็กแล้วยังทำลายลูกหนังไทยให้ตกต่ำลงไปอีก
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *