คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เมื่อเดือนพฤษภาคมแฟนมวยชาวไทยได้เฮกันดังๆ ไปแล้วกับฟอร์มระดับเทพของ “อำนาจ เกษตรพัฒนา” ที่ไปเอาชนะคะแนนนักมวยญี่ปุ่นถึงถิ่นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกไว้ได้อย่างสวยงาม แต่สดๆ ร้อนๆ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ก็มีอันต้องผิดหวังไปตามๆ กัน เมื่อนักมวยไทยประสบความพ่ายแพ้ในเวทีระดับโลกถึง 2 คนซ้อน
เริ่มจากช่วงดึกๆ คืนวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม ทับทิมแดง ศิษย์หลวงพ่อพูล เดินทางไปชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวตของ สมาคมมวยโลก ที่ว่างอยู่ถึงอังกฤษ กับนักชกเจ้าถิ่น เจมี่ แม็คดอนเนลล์ ก่อนขึ้นเวทีแฟนมวยก็มองกันว่า ทับทิมแดง เป็นรอง เพราะแม้จะชกมาถึง 54 ไฟต์ ชนะ 52 แพ้แค่ 2 แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นการชกในรายการมวยโลกบ่ายสามบ้านเรา ไม่เคยไปชกต่างประเทศมาเลย แต่มาครั้งนี้ต้องออกไปนอกบ้านเป็นคู่รองในรายการใหญ่ สภาพแวดล้อมต่างๆ ดูแล้วเป็นรองเยอะ
ไฟต์นี้ไม่มีการถ่ายทอดสดมาบ้านเรา แต่จากการตามหาคลิปดูหลังการชกภาพที่เห็น “เจ้าวิทย์” นักชกจากบุรีรัมย์เสียเปรียบรูปร่างและช่วงชกอย่างมาก แต่ก็พยายามเดินเบียดตลอด เน้นเป้าใหญ่ตัดลำตัว ลากเกมยาวมาจนยก 10 จังหวะที่เข้าคลุกกันอยู่หมัดของนักชกไทยติดการ์ดอยู่บริเวณสีข้าง นักมวยเจ้าถิ่นสบโอกาสตวัดหมัดฮุกซ้ายเข้าเต็มกราม ส่ง ทับทิมแดง ร่วงลงไปกองกับผืนผ้าใบทันที แม้จะพยายามลุกเร็ว แต่ยังหันรีหันขวางหาทิศไม่เจอ กรรมการยุติการชกทันที พลาดโอกาสก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลกแต่ก็ต้องชื่นชมกับหัวใจนักสู้ของนักชกไทยจริงๆ
พอมาตอนสายๆ วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน แฟนมวยชาวไทยก็เฝ้าหน้าจอรอเชียร์ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ ส.รุ่งวิสัย นักชกหมัดหนักขวัญใจคนใหม่ ที่หอบเข็มขัดของสถาบันสภามวยโลกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตเอาไปให้ คาร์ลอส คูเอดราส นักชกเม็กซิกัน เจ้าของสถิติน่ากลัว ชนะมา 29 ไฟต์รวด ชนะน็อกถึง 24 ไฟต์ ท้าชิงถึง เม็กซิโกซิตี ก่อนชกแฟนมวยชาวไทยก็หวั่นๆ ใจแทน “เจ้าแหลม” พอสมควร เพราะผู้ท้าชิงรายนี้สถิติไม่ธรรมดา แถมเป็นการไปชกถึงถิ่นเขาที่ประเทศเม็กซิโก ที่นักมวยไทยกี่รายๆ แพ้เรียบวุธกลับมายกเว้นตำนานระดับ ชาติชาย เชี่ยวน้อย คนเดียวเท่านั้นเมื่อ 50 ปีมาแล้ว
พอขึ้นเวที นักชกเจ้าถิ่น เจ้าของฉาย “Principe” หรือ “The Prince” หรือ “เจ้าชายแห่งสังเวียน” อาศัยรูปร่างที่ได้เปรียบสูงใหญ่ราวนักชกเฟเธอร์เวต และสเต็ปเท้าที่รวดเร็ว เดินวนยิงหมัดแย็ปและหมัดชุด 1-2-3 จนแชมป์โลกชาวไทยทำอะไรไม่ถนัด แม้จะพยายามเดินเบียดแต่ยังไล่ไม่ทันในช่วงแรก ยก 4 ทั้งคู่หัวชนกันจนเจ้าถิ่นมีแผลแตก และกรรมการสั่งตัดคะแนน “เจ้าแหลม” ทันที ทำให้สถานการณ์เราลำบากขึ้นอีก แต่ยก 5-6-7 ขวัญใจชาวไทยทำได้ดีขึ้น ออกหมัดซ้ายเข้าเต็มๆ ชายโครงผู้ท้าชิงได้หลายหมัดจน “เจ้าชายแห่งสังเวียน” มีอาการสะดุ้งตัวงอจนแฟนมวยชาวไทยได้ลุ้น
แต่ยก 8 เกิดหัวชนกันอีกคราวนี้แผลเดิมที่คิ้วซ้ายนักชกเม็กซิกันแตกยาวและลึก กรรมการยุติการชกและมาดูคะแนนตามกติกา ทำให้ศรีสะเกษเข็มขัดหลุดไปตรงนี้เอง ซึ่งน่าเสียดายมากเพราะเกมกำลังพลิกมาเข้าทางเราแล้ว ไฟต์นี้เป็นไฟต์บังคับเสียด้วยไม่มีออปชันแก้มือ ต้องดูกันต่อไปว่าทีมผู้สนับสนุนจะว่าอย่างไร แต่จากที่ดูทั้ง 2 ไฟต์ จะเห็นว่านักชกไทยปัญหาเดียวกันหมด คือไม่มีหมัดชุด ไม่มีหมัดนำ อาศัยเก็งหมัดเด็ดอย่างเดียว สปีดหมัดเป็นรองมาก รวมทั้งการป้องกันตัวหละหลวมจริงๆ ทีมงานคงต้องพยายามแก้ไขต่อไป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
เมื่อเดือนพฤษภาคมแฟนมวยชาวไทยได้เฮกันดังๆ ไปแล้วกับฟอร์มระดับเทพของ “อำนาจ เกษตรพัฒนา” ที่ไปเอาชนะคะแนนนักมวยญี่ปุ่นถึงถิ่นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกไว้ได้อย่างสวยงาม แต่สดๆ ร้อนๆ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ก็มีอันต้องผิดหวังไปตามๆ กัน เมื่อนักมวยไทยประสบความพ่ายแพ้ในเวทีระดับโลกถึง 2 คนซ้อน
เริ่มจากช่วงดึกๆ คืนวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม ทับทิมแดง ศิษย์หลวงพ่อพูล เดินทางไปชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวตของ สมาคมมวยโลก ที่ว่างอยู่ถึงอังกฤษ กับนักชกเจ้าถิ่น เจมี่ แม็คดอนเนลล์ ก่อนขึ้นเวทีแฟนมวยก็มองกันว่า ทับทิมแดง เป็นรอง เพราะแม้จะชกมาถึง 54 ไฟต์ ชนะ 52 แพ้แค่ 2 แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นการชกในรายการมวยโลกบ่ายสามบ้านเรา ไม่เคยไปชกต่างประเทศมาเลย แต่มาครั้งนี้ต้องออกไปนอกบ้านเป็นคู่รองในรายการใหญ่ สภาพแวดล้อมต่างๆ ดูแล้วเป็นรองเยอะ
ไฟต์นี้ไม่มีการถ่ายทอดสดมาบ้านเรา แต่จากการตามหาคลิปดูหลังการชกภาพที่เห็น “เจ้าวิทย์” นักชกจากบุรีรัมย์เสียเปรียบรูปร่างและช่วงชกอย่างมาก แต่ก็พยายามเดินเบียดตลอด เน้นเป้าใหญ่ตัดลำตัว ลากเกมยาวมาจนยก 10 จังหวะที่เข้าคลุกกันอยู่หมัดของนักชกไทยติดการ์ดอยู่บริเวณสีข้าง นักมวยเจ้าถิ่นสบโอกาสตวัดหมัดฮุกซ้ายเข้าเต็มกราม ส่ง ทับทิมแดง ร่วงลงไปกองกับผืนผ้าใบทันที แม้จะพยายามลุกเร็ว แต่ยังหันรีหันขวางหาทิศไม่เจอ กรรมการยุติการชกทันที พลาดโอกาสก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลกแต่ก็ต้องชื่นชมกับหัวใจนักสู้ของนักชกไทยจริงๆ
พอมาตอนสายๆ วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน แฟนมวยชาวไทยก็เฝ้าหน้าจอรอเชียร์ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ ส.รุ่งวิสัย นักชกหมัดหนักขวัญใจคนใหม่ ที่หอบเข็มขัดของสถาบันสภามวยโลกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตเอาไปให้ คาร์ลอส คูเอดราส นักชกเม็กซิกัน เจ้าของสถิติน่ากลัว ชนะมา 29 ไฟต์รวด ชนะน็อกถึง 24 ไฟต์ ท้าชิงถึง เม็กซิโกซิตี ก่อนชกแฟนมวยชาวไทยก็หวั่นๆ ใจแทน “เจ้าแหลม” พอสมควร เพราะผู้ท้าชิงรายนี้สถิติไม่ธรรมดา แถมเป็นการไปชกถึงถิ่นเขาที่ประเทศเม็กซิโก ที่นักมวยไทยกี่รายๆ แพ้เรียบวุธกลับมายกเว้นตำนานระดับ ชาติชาย เชี่ยวน้อย คนเดียวเท่านั้นเมื่อ 50 ปีมาแล้ว
พอขึ้นเวที นักชกเจ้าถิ่น เจ้าของฉาย “Principe” หรือ “The Prince” หรือ “เจ้าชายแห่งสังเวียน” อาศัยรูปร่างที่ได้เปรียบสูงใหญ่ราวนักชกเฟเธอร์เวต และสเต็ปเท้าที่รวดเร็ว เดินวนยิงหมัดแย็ปและหมัดชุด 1-2-3 จนแชมป์โลกชาวไทยทำอะไรไม่ถนัด แม้จะพยายามเดินเบียดแต่ยังไล่ไม่ทันในช่วงแรก ยก 4 ทั้งคู่หัวชนกันจนเจ้าถิ่นมีแผลแตก และกรรมการสั่งตัดคะแนน “เจ้าแหลม” ทันที ทำให้สถานการณ์เราลำบากขึ้นอีก แต่ยก 5-6-7 ขวัญใจชาวไทยทำได้ดีขึ้น ออกหมัดซ้ายเข้าเต็มๆ ชายโครงผู้ท้าชิงได้หลายหมัดจน “เจ้าชายแห่งสังเวียน” มีอาการสะดุ้งตัวงอจนแฟนมวยชาวไทยได้ลุ้น
แต่ยก 8 เกิดหัวชนกันอีกคราวนี้แผลเดิมที่คิ้วซ้ายนักชกเม็กซิกันแตกยาวและลึก กรรมการยุติการชกและมาดูคะแนนตามกติกา ทำให้ศรีสะเกษเข็มขัดหลุดไปตรงนี้เอง ซึ่งน่าเสียดายมากเพราะเกมกำลังพลิกมาเข้าทางเราแล้ว ไฟต์นี้เป็นไฟต์บังคับเสียด้วยไม่มีออปชันแก้มือ ต้องดูกันต่อไปว่าทีมผู้สนับสนุนจะว่าอย่างไร แต่จากที่ดูทั้ง 2 ไฟต์ จะเห็นว่านักชกไทยปัญหาเดียวกันหมด คือไม่มีหมัดชุด ไม่มีหมัดนำ อาศัยเก็งหมัดเด็ดอย่างเดียว สปีดหมัดเป็นรองมาก รวมทั้งการป้องกันตัวหละหลวมจริงๆ ทีมงานคงต้องพยายามแก้ไขต่อไป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *