ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ยืนยันเดินหน้ายื่นเรื่องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ประชาชนได้ชมฟุตบอลโลกผ่านช่องฟรีทีวีครบทั้ง 64 นัด แม้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งระงับอำนาจของ กสทช.ในการออกกฎมัสต์แฮฟกับทางอาร์เอส
หลังจากที่ศาลปกครองกลางเห็นชอบกับกรณีบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลางเพื่อฟ้อง กสทช.ให้ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือกฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) ซึ่งถือเป็นการบังคับใช้กฎหมายย้อนหลัง เนื่องจาก บมจ.อาร์เอส ได้ลิขสิทธิ์มาก่อนประกาศ กฎมัสต์แฮฟ ของ กสทช.
โดย ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า “เบื้องต้นยอมรับคำตัดสินของศาล แต่คดีดังกล่าวถือว่ายังไม่ถึงที่สุด ซึ่งทาง กสทช.ยังยืนยันที่จะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองชั้นสูงสุดเพื่อให้ประชาชนได้ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกครบทั้ง 64 นัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนเคยได้รับตลอดมา”
“ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถของ กสทช.ในการเรียกร้องสิทธิ์ให้กับประชาชน ภายใต้กฎมัสต์ แฮฟ ซึ่งเบื้องต้นคุ้มครองเพียงรายการฟุตบอลโลก 2014 เท่านั้น ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าในอีก 4 ปีข้างหน้าจะมีการประกาศดังกล่าวอีกหรือไม่ ส่วนทางด้านของอาร์เอสที่ต้องการจำหน่ายกล่องรับสัญญานนั้น ล่าสุด กสทช.ยังไม่มีการประกาศให้ทางอาร์เอสจำหน่ายกล่องฟุตบอลโลก แต่จะเริ่มได้เมื่อไหร่นั้นต้องรอการประชุมเพื่อหาทางข้อสรุปของ กสทช.ต่อไป”
นอกจากนี้ ดร.นที ศุกลรัตน์ ยังได้กล่าวถึงกรณีการของทีวีดิจิตอล ที่ได้ให้ผู้ประมูลแต่ละช่องส่งผังรายการเข้ามา “ล่าสุดทางอาร์เอสได้ส่งผังรายการเข้ามาแล้ว ซึ่งไม่มีการถ่ายทอดฟุตบอลโลกรวมอยู่ด้วย โดยกำหนดการสามารถส่งได้ถึงก่อนออกอากาศในวันที่ 25 เมษายน 2557 ซึ่งหากทางอาร์เอสมีการเปลี่ยนแปลงโดยนำการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเข้ามาเพื่อหารายได้จากเอกชน ทาง กสทช.สามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที”