ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน “กสทช.” ชี้คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ห้ามใช้ “มัสต์แฮฟ” มีผลแค่ฟุตบอลโลก 2014 เชื่อปี 2018 ต้องรับชมผ่านฟรีทีวีทุกคู่ ครวญฟุตบอลโลกเป็นสิทธิ์ประชาชนไม่ควรถูกใครมาพรากไป
จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ “อาร์เอส” สามารถดำเนินการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2014 ผ่านฟรีทีวี 22 นัด จากทั้งหมด 64 นัด เนื่องจากเล็งเห็นว่าการออกประกาศ หลักเกณฑ์ รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (มัสต์แฮฟ) ของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ว่าเกิดขึ้นหลังการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการดังกล่าวกับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟา”
อย่างไรก็ตาม ดร.นที ยืนยันว่าคำพิพากษาดังกล่าวเป็นการยืนยันความถูกต้องของ กฎมัสต์ แฮฟ เป็นอย่างดี “ขอน้อมรับผลคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นไปตามมติของเสียงข้างมากในที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองกลาง ทว่าคำพิพากษายืนยันความถูกต้องของการประกาศกฎ มัสต์แฮฟ ของ กสท.และ กสทช.”
ส่วนการที่ มัสต์แฮฟ ไม่มีผลกับฟุตบอลโลก 2014 นั้น ดร.นที ชี้แจงว่า “การที่ มัสต์แฮฟ ไม่มีผลกับฟุตบอลโลก 2014 ก็เป็นดุลย์พินิจของศาล อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในฟุตบอลโลกครั้งต่อไป หรือปี 2018 และรายการอื่นๆ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎดังกล่าวอยู่ดี”
ทั้งนี้ รองประธาน กสทช.เผยต่อไปอีกว่า “ที่ผ่านมาเราได้ชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาตั้งแต่ พ.ศ.2513 จากการถ่ายทอดผ่านฟรีทีวี ประชาชนได้รับชมกันมาเป็นเวลานาน ดังนั้นการรับชมฟุตบอลโลกผ่านฟรีทีวีจึงควรเป็นสิทธิ์ที่ไม่ควรมีใครมาพรากไปจากประชาชน”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *