xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยลีก-ยูโร” ดูฟรีดีไหม? / แมวดำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

เดือนมีนาคมกำลังจะผ่านพ้นไป ขณะที่อุณหภูมิรอบตัวเราสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เฉพาะสภาพอากาศที่ร้อนแรง สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง “อาร์เอส” กับ “กสทช.” คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ก็ใกล้ถึงจุดแตกหัก จากการออกกฎ “มัสต์แฮฟ” ที่มีฟุตบอลโลก 2014 ต้องนำเสนอผ่าน “ฟรีทีวี” ทั้งหมด 64 นัด ไม่ใช่ 22 นัด ส่งผลให้แผนการขายกล่องชมมหกรรมลูกหนังโลกของ “เฮียฮ้อ” แทบจะเป็นหมันไปในพริบตา

โดยก่อนหน้านี้ค่ายเพลงดังแห่งนี้ทำการเปิดตัว “กล่องฟุตบอลโลก 2014” ไปตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยว่าเตรียมวางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศในราคากล่องละ 1,590 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ แถมตั้งเป้าขายให้ได้ 1 ล้านกล่องทั่วประเทศ และวางกำไรจากการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ไว้ราว 650 ล้านบาท ทว่าโดนติดเบรกโดย “กสทช.” ที่ระบุว่า จะมีโทษปรับหากไม่มีการถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีครบ 64 นัด ซึ่งถ้ายังดื้อแพ่งอาจมีมาตรการลงโทษอื่นๆ ตามมาด้วย ว่ากันตามตรงตอนนี้เราเห็นได้ชัดว่า “เฮียฮ้อ” ดูเหมือนจะมีทางเลือกเดียวคือต้องนำลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาให้ชมผ่านฟรีทีวี

ซึ่งเรื่องนี้เท่าที่ติดตามความคิดเห็นของคนในแวดวงสื่อสารมวลชนทั้งหลายดูเหมือนจะแสดงความเห็นใจต่อ “เฮียฮ้อ” กันไม่น้อย ในรายของ “พี่ดี้” นิติพงษ์ ห่อนาค ผู้บริหารค่ายเพลง สหภาพการดนตรี ยอมรับอยากดูฟุตบอลโลกฟรีๆ แบบไม่เสียเงิน แต่รู้สึกสงสารเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่น้อย “บอกตรงๆ ฉันก็อยากดูบอลโลกฟรี หมดทุกแมตช์ และไม่อยากซื้อกล่องของเฮีย มันหาที่วางกล่องไม่ได้ เต็มไปหมด จะดูอะไรที ก็ต้องไปซื้อกล่องมาวางข้างทีวี...แล้วก็ไม่ได้อยากดูช่องอื่นเลย แต่....คิดแบบสามัญสำนึก...เฮียฮ้อไปซื้อมา จะให้เรามาดูฟรี อันนี้ถึงอยากดูฟรี แต่ก็สงสารเฮีย ถ้า กสทช.หรือภาครัฐ จ่ายเงินซื้อคืนในราคาที่เฮียแกก็ไม่ได้ไม่เสีย....ก็น่าจะแฟร์ ใจเขาใจเรา”

ขณะที่ “ดีเจปุ๋ย” โชคชัย เจี่ยเจริญ อีกหนึ่งกูรูในแวดวงการสื่อ ได้แสดงความเห็นใจ “เฮียฮ้อ” ไว้ว่า “ผมคิดว่า กสทช.ควรจ่ายเงินซื้อ แล้วขายต่อให้ “ทีวีพูล” ก็ได้ โดยควบคุมการโฆษณาให้เหมาะสม ไม่ให้รบกวนการรับชมจนเกินไป และเป็นไปในทางเดียวกัน คือ มีโฆษณาได้ในช่วงก่อนแข่ง และระหว่างพักครึ่ง”

แม้หลายฝ่ายจะมองว่าการกระทำครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นการบีบบังคับขืนใจกันเกินไป ควรต้องให้ความเป็นธรรมกับ “อาร์เอส” ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมองว่าเป็นเรื่องดีที่คนไทยควรได้รับชมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายโดยไม่ต้องเสียสตางค์ แต่ต้องไม่ลืมว่าทุกวันนี้ไม่เพียงแต่กรณีฟุตบอลโลกเท่านั้น หากแต่ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร” รวมไปถึงฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ที่ต่างก็มีเจ้าของลิขสิทธิ์ ทว่าทั้งสองรายการต่างไม่ได้อยู่ในกฎมัสต์แฮฟนี้เลย ทำให้มองดูเหมือนว่าเป็นการเลือกปฏิบัติกับ “อาร์เอส” มากไปหรือไม่

โดยผมได้สอบถามไปยัง พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.ถึงการที่คนไทยในปัจจุบันต่างก็ให้ความสำคัญกับฟุตบอลยูโร ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ “แกรมมี่” และ ไทยพรีเมียร์ลีก ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ “ทรูวิชั่นส์” โดยเฉพาะรายการหลังนี้เราไม่สามารถรับชมผ่านฟรีทีวีได้เลยในฤดูกาลนี้ ได้คำตอบน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง “แม้จะมีการกำหนดในกฎมัสต์แฮฟว่า 7 รายการแข่งขันกีฬาที่คนไทยควรได้รับชมผ่านฟรีทีวี จะไม่มีฟุตบอลยูโร หรือ ไทยพรีเมียร์ลีก แต่สิ่งเหล่านี้สามารถนำเสนอเพิ่มเติมได้ ผมคิดว่ารายการอื่นๆ ถ้าจะเพิ่มก็ต้องมีกระบวนการพิจารณาโดยรอบคอบ แต่คงยังไม่มีการพิจารณาในเร็วๆ นี้”

เชื่อเหลือเกินว่าคุณพี่นที พูดแบบนี้ทั้ง แกรมมี่ และ ทรูวิชั่นส์ คงรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กันบ้าง...

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น