สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) เตรียมรับมือกับความกดดันให้ทบทวนเกี่ยวกับสิทธิ์เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ หลังจาก “เทเลกราฟ” สื่อดังของอังกฤษ อ้างพบหลักฐานะการจ่ายเงินจากอดีตรองประธานองค์กรลูกหนังใหญ่ที่สุดของโลกจากตรินิแดด เชื่อมโยงถึงเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการ
รายงานระบุ แจ็ค วอร์เนอร์ อดีตรองประธาน ฟีฟา จากตรินิแดด แอนด์ โตเบโก รับเงิน 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 39.6 ล้านบาท) จากบริษัทที่ควบคุมโดย โมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม อดีตประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย เมื่อเดือนธันวาคมปี 2010
พร้อมกันนี้ กิจการของบรรดาอดีตกรรมการบริหารฟีฟาเหล่านี้ยังพัวพันถึงกัน โดยเฉพาะที่ชื่อ เคมโก ได้ขอเงิน 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อไปดำเนินภายในระหว่างปี 2005-2010 นอกจากนี้ลูกชายของ วอร์เนอร์ ทั้ง 2 คนและลูกจ้างยังได้จ่ายเงินล่วงหน้า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 33 ล้านบาท) ให้กับบริษัทกาตาร์เจ้านี้ด้วย ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นคืนก่อนที่สมาชิกองค์กรลูกหนังทั้ง 22 คนจะโหวตเจ้าภาพบอลโลกปี 2022
เมื่อเดือนมีนาคมปี 2013 เอฟบีไอ ได้เบาะแสการทุจริตที่เกิดขึ้นภายใน ฟีฟา โดยบริษัทของลูกชาย วอร์เนอร์ ที่ชื่อว่า ดาร์ยาน นั้นมีฐานอยู่ใน ไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ตกเป็นพยานในคดีนี้ด้วย ส่วนการโหวตเจ้าภาพบอลโลกปี 2018 และ 2022 ตอนนั้น ฮัมมัน ยังมีอิทธิพลอยู่ ก่อนที่จะถูกสั่งแบนในภายหลัง เพราะติดสินบนระหว่างชิงเก้าอี้จาก เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ คนปัจจุบัน แต่ไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ฟีฟา แถลงยืนยันถึงความโปร่งใสที่ตัดสินใจให้ กาตาร์ เป็นเจ้าภาพ ทั้งที่สภาพอากาศร้อนจัดไม่เหมาะกับเตะฟุตบอล ว่า “คณะกรรมการจัดแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 ได้มีการโหวตอย่างเคร่งครัดตามกฎระเบียบและจริยธรรม ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่รับทราบข้อกล่าวหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนอกเหนือเรื่องของฟุตบอลเลย”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *