คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
หากพูดถึงเป้าหมายของ นิวยอร์ก นิกส์ ก่อนเปิดฤดูกาล 2013/14 การเข้าถึงรอบชิงแชมป์สายฝั่งตะวันออก คงไม่โดนใจบอร์ดบริหารนัก ทว่าสถานการณ์ปัจจุบันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ แค่ถีบตัวเองเข้าสู่เพลย์ออฟในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ก็น่าจะทำให้แฟนๆ มีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง
ณ ตอนนี้ นิกส์ สถิติชนะแค่ 25 แพ้ 40 เกม อยู่อันดับ 10 ของฝั่งตะวันออก ตามหลัง แอตแลนตา ฮอว์คส โควตาสุดท้าย (อันดับ 8) อยู่ 3 เกมครึ่ง กับโปรแกรมที่เหลือในมือ 17 เกมสุดท้ายในฤดูกาลปกติ ตามทฤษฎีก็ยังถือว่ามีโอกาสสำหรับ “บิ๊กแอปเปิล” เนื่องจาก “เหยี่ยวน้อย” หลังจากปฏิรูปทีม สถานการณ์ดูแย่กว่าเดิม ซึ่งเกิด นิวยอร์ก ฉุดตัวเองเข้าสู่โพสต์ซีซันได้จริง ก็มีโอกาสโดน อินเดียนา เพเซอร์ส ย้ำแค้นสูง หรือถ้าเจอ ไมอามี ฮีต แชมป์เก่า พูดตามตรงโอกาสต่อกรด้วยสุดแสนลำบาก
จะอย่างไรก็ตาม เมื่อจบซีซัน เจมส์ โดแลน เจ้าของทีม และ สตีฟ มิลส์ ประธานทีมควบตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป มีคิวไล่เรียงเช็กบิล ซึ่งคนที่ต้องรับผิดชอบก่อนใครเพื่อนคือ ไมค์ วูดสัน หัวหน้าโค้ช ที่ดูเหมือนศรัทธาในล็อกเกอร์รูมไม่หลงเหลืออยู่แล้ว แต่ก่อนเข้าสู่กระบวนการหาผู้กุมบังเหียนคนใหม่ นิกส์ มีข่าวเตรียมเพิ่มเติมในส่วนของผู้บริหาร ชื่อของ ฟิล แจ็คสัน โผล่ขึ้นมาท่ามกลางความสนใจ
อดีตผู้เล่นที่เคยพานิกส์ เป็นแชมป์ 2 สมัยเมื่อปี 1970 และ 1973 เตรียมคืนถิ่น แน่นอนว่าแฟนๆ น่าจะให้การต้อนรับอักโข ด้วยชื่อชั้นระดับ “บิ๊กฟิล” โค้ชอัจฉริยะผู้เคยพาทั้ง ชิคาโก บูลส์ และ แอลเอ เลเกอร์ส เป็นแชมป์ NBA รวมกันถึง 11 สมัย สรรพคุณย่อมสามารถเรียกสปิริตทีม เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้เล่น “บิ๊กเนม” เข้าสู่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน ได้ไม่ยาก
เพียงแต่ ฟิล แจ็คสัน คือผู้กอบกู้ตัวจริงหรือไม่ เรื่องนี้คงต้องดูกันยาวๆ เพราะสิ่งที่ นิกส์ ต้องพะวงอีกอย่างคือ การที่ คาร์เมโล แอนโธนีย์ ถือสิทธิ์เป็น “ฟรีเอเยนต์” ย้ายทีมได้ตามอำเภอใจ และการที่ แจ็คสัน เคยเอ่ยปากวิจารณ์ “เมโลแมน” เมื่อปี 2012 ทำนองน่าจะเล่นเพื่อทีมมากกว่านี้ อาจมีความตะขิดตะขวงเกิดขึ้นในใจซุปตาร์ จนเลือกที่อำลาไปร่วมทีมอื่น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง มองในมุมกลับก็ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้ล้างไพ่ใหม่กันสำหรับ นิกส์
เนื่องจากเมื่อกาง “เพดานเงินเดือน” ดูแล้ว แจ็คสัน ต้องก่ายขมับจะขยับตัวยากเหลือเกิน นี่ยังมีภาระในส่วนของทั้ง อมาเร สเตาดาไมร์, ทายสัน แชนด์เลอร์ และ อันเดรีย บาร์ญานี ที่ค่าเหนื่อยกินแคปมหาศาล ไหนจะผู้เล่นเจ้าปัญหาอย่าง เจ.อาร์.สมิธ ที่จะมีใครมารับเซ้งหรือไม่อีก แต่ดั่งคำเปรียบเปรยที่ว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด แฟรนไชส์บาสเกตบอลคงประสบความสำเร็จไม่ได้ภายในชั่วข้ามคืนฉันนั้น
นิกส์ คงต้องเจอกับปีที่กระเสือกกระสนอีกสักซีซัน จากนั้นเมื่อปลดภาระไปได้หมด คราวนี้ “ตลาดฟรีเอเยนต์” หลังจบฤดูกาล 2014/15 ถือว่ามีความน่าตื่นเต้นยิ่ง เพราะ เควิน เลิฟ ราชารีบาวนด์มีคิวผละ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส เช่นเดียวกับ ลามาร์คัส อัลดริดจ์ (ปอร์ทแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส), มาร์ค กาซอล (เมมฟิส กริซลีย์ส), โทนี พาร์เกอร์ (ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส) โยกย้ายกันสนุก รวมถึง ราจอน รอนโด หากไม่โดน บอสตัน เซลติกส์ เทรดทิ้งเสียก่อน และมีหรือที่บรรดาดาวดังจะปฏิเสธโอกาสโยกมาโกยความสำเร็จในตลาดใหญ่อย่างมหานครนิวยอร์ก
ในส่วนของเฮดโค้ชใหม่ นิกส์ เคยมีข่าวว่า เจฟฟ์ แวน กันดี เตรียมรีเทิร์น แต่พอมีกระแส “บิ๊กฟิล” โดดเข้ามา ชื่อของ สตีฟ เคอร์ ซึ่งเคยทำงานร่วมกันที่ชิคาโก กลายเป็นตัวเลือกมีสิทธิ์แซงทางโค้ง แม้ไม่เคยมีประสบการณ์โค้ช แต่อดีตการ์ดตัวแม่นก็เคยจับงานบริหารมาบ้าง เป็นผู้จัดการทั่วไป ฟีนิกซ์ ซันส์ อยู่ช่วงหนึ่ง หรืออย่างน้อย เคอร์ ก็เคยได้สัมผัสประสบการณ์ตรงจากคำสั่งสอนของยอดโค้ชอย่าง แจ็คสัน และ เกร็ก โพโพวิช มาแล้ว (ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส) จึงน่าจะนำมาถ่ายทอดสู่ผู้เล่นรุ่นน้องได้ไม่มากก็น้อย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
หากพูดถึงเป้าหมายของ นิวยอร์ก นิกส์ ก่อนเปิดฤดูกาล 2013/14 การเข้าถึงรอบชิงแชมป์สายฝั่งตะวันออก คงไม่โดนใจบอร์ดบริหารนัก ทว่าสถานการณ์ปัจจุบันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ แค่ถีบตัวเองเข้าสู่เพลย์ออฟในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ก็น่าจะทำให้แฟนๆ มีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง
ณ ตอนนี้ นิกส์ สถิติชนะแค่ 25 แพ้ 40 เกม อยู่อันดับ 10 ของฝั่งตะวันออก ตามหลัง แอตแลนตา ฮอว์คส โควตาสุดท้าย (อันดับ 8) อยู่ 3 เกมครึ่ง กับโปรแกรมที่เหลือในมือ 17 เกมสุดท้ายในฤดูกาลปกติ ตามทฤษฎีก็ยังถือว่ามีโอกาสสำหรับ “บิ๊กแอปเปิล” เนื่องจาก “เหยี่ยวน้อย” หลังจากปฏิรูปทีม สถานการณ์ดูแย่กว่าเดิม ซึ่งเกิด นิวยอร์ก ฉุดตัวเองเข้าสู่โพสต์ซีซันได้จริง ก็มีโอกาสโดน อินเดียนา เพเซอร์ส ย้ำแค้นสูง หรือถ้าเจอ ไมอามี ฮีต แชมป์เก่า พูดตามตรงโอกาสต่อกรด้วยสุดแสนลำบาก
จะอย่างไรก็ตาม เมื่อจบซีซัน เจมส์ โดแลน เจ้าของทีม และ สตีฟ มิลส์ ประธานทีมควบตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป มีคิวไล่เรียงเช็กบิล ซึ่งคนที่ต้องรับผิดชอบก่อนใครเพื่อนคือ ไมค์ วูดสัน หัวหน้าโค้ช ที่ดูเหมือนศรัทธาในล็อกเกอร์รูมไม่หลงเหลืออยู่แล้ว แต่ก่อนเข้าสู่กระบวนการหาผู้กุมบังเหียนคนใหม่ นิกส์ มีข่าวเตรียมเพิ่มเติมในส่วนของผู้บริหาร ชื่อของ ฟิล แจ็คสัน โผล่ขึ้นมาท่ามกลางความสนใจ
อดีตผู้เล่นที่เคยพานิกส์ เป็นแชมป์ 2 สมัยเมื่อปี 1970 และ 1973 เตรียมคืนถิ่น แน่นอนว่าแฟนๆ น่าจะให้การต้อนรับอักโข ด้วยชื่อชั้นระดับ “บิ๊กฟิล” โค้ชอัจฉริยะผู้เคยพาทั้ง ชิคาโก บูลส์ และ แอลเอ เลเกอร์ส เป็นแชมป์ NBA รวมกันถึง 11 สมัย สรรพคุณย่อมสามารถเรียกสปิริตทีม เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้เล่น “บิ๊กเนม” เข้าสู่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน ได้ไม่ยาก
เพียงแต่ ฟิล แจ็คสัน คือผู้กอบกู้ตัวจริงหรือไม่ เรื่องนี้คงต้องดูกันยาวๆ เพราะสิ่งที่ นิกส์ ต้องพะวงอีกอย่างคือ การที่ คาร์เมโล แอนโธนีย์ ถือสิทธิ์เป็น “ฟรีเอเยนต์” ย้ายทีมได้ตามอำเภอใจ และการที่ แจ็คสัน เคยเอ่ยปากวิจารณ์ “เมโลแมน” เมื่อปี 2012 ทำนองน่าจะเล่นเพื่อทีมมากกว่านี้ อาจมีความตะขิดตะขวงเกิดขึ้นในใจซุปตาร์ จนเลือกที่อำลาไปร่วมทีมอื่น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง มองในมุมกลับก็ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้ล้างไพ่ใหม่กันสำหรับ นิกส์
เนื่องจากเมื่อกาง “เพดานเงินเดือน” ดูแล้ว แจ็คสัน ต้องก่ายขมับจะขยับตัวยากเหลือเกิน นี่ยังมีภาระในส่วนของทั้ง อมาเร สเตาดาไมร์, ทายสัน แชนด์เลอร์ และ อันเดรีย บาร์ญานี ที่ค่าเหนื่อยกินแคปมหาศาล ไหนจะผู้เล่นเจ้าปัญหาอย่าง เจ.อาร์.สมิธ ที่จะมีใครมารับเซ้งหรือไม่อีก แต่ดั่งคำเปรียบเปรยที่ว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด แฟรนไชส์บาสเกตบอลคงประสบความสำเร็จไม่ได้ภายในชั่วข้ามคืนฉันนั้น
นิกส์ คงต้องเจอกับปีที่กระเสือกกระสนอีกสักซีซัน จากนั้นเมื่อปลดภาระไปได้หมด คราวนี้ “ตลาดฟรีเอเยนต์” หลังจบฤดูกาล 2014/15 ถือว่ามีความน่าตื่นเต้นยิ่ง เพราะ เควิน เลิฟ ราชารีบาวนด์มีคิวผละ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส เช่นเดียวกับ ลามาร์คัส อัลดริดจ์ (ปอร์ทแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส), มาร์ค กาซอล (เมมฟิส กริซลีย์ส), โทนี พาร์เกอร์ (ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส) โยกย้ายกันสนุก รวมถึง ราจอน รอนโด หากไม่โดน บอสตัน เซลติกส์ เทรดทิ้งเสียก่อน และมีหรือที่บรรดาดาวดังจะปฏิเสธโอกาสโยกมาโกยความสำเร็จในตลาดใหญ่อย่างมหานครนิวยอร์ก
ในส่วนของเฮดโค้ชใหม่ นิกส์ เคยมีข่าวว่า เจฟฟ์ แวน กันดี เตรียมรีเทิร์น แต่พอมีกระแส “บิ๊กฟิล” โดดเข้ามา ชื่อของ สตีฟ เคอร์ ซึ่งเคยทำงานร่วมกันที่ชิคาโก กลายเป็นตัวเลือกมีสิทธิ์แซงทางโค้ง แม้ไม่เคยมีประสบการณ์โค้ช แต่อดีตการ์ดตัวแม่นก็เคยจับงานบริหารมาบ้าง เป็นผู้จัดการทั่วไป ฟีนิกซ์ ซันส์ อยู่ช่วงหนึ่ง หรืออย่างน้อย เคอร์ ก็เคยได้สัมผัสประสบการณ์ตรงจากคำสั่งสอนของยอดโค้ชอย่าง แจ็คสัน และ เกร็ก โพโพวิช มาแล้ว (ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส) จึงน่าจะนำมาถ่ายทอดสู่ผู้เล่นรุ่นน้องได้ไม่มากก็น้อย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
