“เจ้าเพชร” อำนาจ รื่นเริง ยอดกำปั้นวัย 34 ปี โชว์ฟอร์มสุดแจ๋ว ดักต่อยกำปั้นฟิลิปปินส์ครบ 12 ยก ผู้ตัดสินชูมือชนะเป็นเอกฉันท์ คว้าเข็มขัดแชมป์มวยโลกรุ่นฟลายเวต สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) มาครองได้อย่างสวยงาม
การแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก “ที่ว่าง” รุ่นฟลายเวต (112 ปอนด์) ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ระหว่าง “เจ้าเพชร” อำนาจ เกษตรพัฒนา หรือ อำนาจ รื่นเริง อดีตนักชกมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย รองแชมป์โลกอันดับ 7 ชาวไทย วัย 34 ปี กับ ร็อคกี ฟูเอนเตส รองแชมป์อันดับ 5 และแชมป์ภาคตะวันออกไกล (OPBF) ชาวฟิลิปปินส์ วัย 27 ปี เมื่อวันพุธที่ 22 มกราคม 2557 ณ เวทีมวยชั่วคราวอาคารลิปตพัลลภ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เดิมทีแชมป์โลกรุ่นนี้เป็นของ โมรูตี เอ็มทาลาเน ชาวแอฟริกาใต้ ที่ประกาศสละเข็มขัด หลังไม่ยอมบินมาป้องกันตำแหน่งกับ “เจ้าเพชร” ในวันนี้ ทำให้เข็ดขัดแชมป์รุ่นนี้ว่างลง และเป็นโอกาสของกำปั้นชาวได้กับ ฟูเอนเตส ที่จะดวลกันเพื่อชิงบัลลังก์แชมป์
เริ่มต้นยกแรกนักชกที่มีสถิติชนะน็อกถึง 20 ครั้ง สาวเท้าเข้าหานักชกไทยทันที ขณะ อำนาจ เองก็ดักต่อยทำคะแนนเป็นระยะ ส่วนยก 2 รูปเกมยังคงเป็นแบบเดิม ช่วงปลายยกกำปั้นไทยได้จังหวะปล่อยหมัดบวกอย่างจะแจ้ง
ในยกที่ 3 กำปั้นไทย ยังเน้นการชกอย่างรัดกุม กลางยกยังปล่อยหมัดชุด 1-2 เข้าเป้าอย่างจะแจ้ง มาถึงยกที่ 4 อำนาจ เหวี่ยงนักชกคู่แข่งลงไปกองกับพื้น จนผู้ตัดสินบนเวทีต้องเรียกมาเตือน จากนั้นนักชกไทยยังปล่อยหมัดเข้าเป้าได้อีกหลายหมัด ส่วนการแข่งขันในยกที่ 5-6 นั้นยังเป็นไปในรูปแบบเดิม ฟูเอนเตส ยังคงก้มหน้าก้มตาหมายเอาความสดของอายุที่อ่อนวัยกว่าเข้าปะทะ ขณะที่ “เจ้าเพชร” ยังไม่ยอมเข้าปะทะโดยตรงอย่างเดิม
มาถึงยกที่ 7 เริ่มเห็นความบอบช้ำบนใบหน้าของนักชกฟิลิปปินส์อย่างเห็นได้ชัด แต่เจ้าตัวยังคงเร่งเกมเข้าหาอย่างต่อเนื่อง ล่วงมาถึงยกที่ 8 ฟูเอนเตส เดินเข้าหา อำนาจ เร็วกว่าในยกที่ผ่านๆ มา แต่ยังขาดความแม่นยำทำให้การออกหมัดวืดไปหมด เข้าสู่การชกในยกที่ 9 เกมของคู่ชกชาวฟิลิปปินส์ ยังไม่ดีขึ้น และดูเหมือนรูปเกมทั้งหมดไม่มีทีท่าว่าจะพลิกไปไหน โดย อำนาจ ยังครองเกมได้เหนือกว่าเรื่อยมาจนครบ 12 ยก
หลังจากนั้นผู้ตัดสินชูมือให้ อำนาจ เป็นฝ่ายชนะคะแนน อย่างเป็นเอกฉันท์ 117-111, 116-112 และ 116-112 พร้อมกับคว้าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) มาครองได้สำเร็จ หลังจากเทิร์นโปรชกมวยอาชีพได้เพียง 18 เดือน พร้อมเพิ่มสถิติการชกเป็นชนะ 12 ไฟต์รวด โดยแยกเป็นชนะน็อก 5 ไฟต์ด้วยกัน
