คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เขียนถึง ซู ซิหมิง ให้แฟนๆ อ่านมาก็หลายหน ตั้งแต่ โอลิมปิก 2012 ที่คว้าเหรียญทองไปได้แบบยอกใจคนไทยทั่วประเทศ จนก้าวเข้าสู่วงการมวยอาชีพเต็มตัวและล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “ไอ้มังกรหมัดสิงโต” ก็ก้าวขึ้นเวทีเป็นไฟต์ที่ 4 แล้ว
3 ครั้งแรกยังเป็นการชิมลางกำหนดแค่ 4-6-6 ยกตามลำดับเท่านั้น เพิ่งมาไฟต์นี้ที่ขยับขึ้นชกกำหนด 8 ยก โดยฝั่งนักมวยไทยอย่าง หยกทอง ก่อเกียรติยิม ไปเป็นคู่ไต่อันดับ แฟนก็คงไม่คุ้นชื่อซักเท่าไหร่ เพราะอายุเพิ่ง 19 ปีชกมาแล้ว 18 ไฟต์ ชนะ 15 (น็อกเอาต์ 11 ไฟต์) แพ้ 3 (แพ้น็อก 2) ที่ผ่านมาก็ชกกับนักมวยไทยด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ ในกำหนดแค่ 6 ยก หรือ 8 ยกแค่นั้นเหมือนกัน เรียกว่า ซู ซิหมิง ก็ส่องกล้องดีแล้วจริงๆ
ไปชกกันจริงๆ ปรากฏว่า หยกทอง ทำได้ดีพอสมควร ชิงต่อยใส่นักมวยเลือดมังกรได้สวยๆ หลายหมัด แต่สุดท้ายก็ทานไม่อยู่ รับหมัดตรงขวาของ ซู ซิหมิง ไปเต็มๆ แพ้น็อกไปในยกที่ 7 แต่ก็ถือว่ายืนได้นานกว่าที่หลายๆ คนคาดไว้ เรียกว่าชกได้คุ้มค่าตัว ส่วนทางฝ่าย “ไอ้มังกรหมัดสิงโต” ก็เพิ่มสถิติเป็นชก 4 ไฟต์ชนะรวด แต่เพิ่งชนะน็อกเป็นไฟต์แรก ซึ่งก็ทำให้สถิติดูดีขึ้น หลังจาก 2-3 ไฟต์แรก โดนวิจารณ์ว่าหมัดเบาเหมือนนุ่น ไม่โดนใจตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา จะทำให้ชื่อขายลำบาก เริ่มชนะน็อกได้แบบนี้ทีมผู้สร้างค่อยสบายใจ
จากนี้นักมวยเลือดมังกรรายนี้ ก็คงไต่อันดับไปเรื่อยๆ สะสมกระดูกในระดับ 12 ยกอีกซัก 2-3 ไฟต์ จากนั้นทาง บ็อบ อารัม บิ๊กค่ายท็อปแรงค์ เตรียมดันขึ้นชิงแชมป์โลกทันที ซึ่งตำแหน่งแชมป์โลกที่ ซู ซิหมิง และโปรโมเตอร์เล็งไว้ ก็ไม่ใช่ของใครเลย เป็นเข็มขัดรุ่นฟลายเวทของสถาบัน ไอบีเอฟ ที่ “เจ้าเพชร” อำนาจ รื่นเริง เพิ่งคว้ามาได้ไม่นานนี้เอง ไฟต์นี้ อำนาจ ก็บินไปดูถึงขอบเวที โดยข่าวจากฝ่ายท็อปแรงค์บอกว่า อำนาจ ควักกระเป๋าซื้อตั๋วเครื่องบินมาดูเองซะด้วย ทางทีมงานแค่จองห้องพักให้และหาตั๋วให้เท่านั้น เพื่อแสดงว่าทาง อำนาจ ก็อยากดูฟอร์มคู่แข่งติดขอบเวทีด้วยสองตา
ถ้าคู่นี้เจอกันจริงก็คงเป็นคู่ที่แฟนมวยไทยอยากดูมากที่สุดคู่หนึ่งเหมือนกัน เพราะ อำนาจ รื่นเริง เคยเอาชนะ ซู ซิหมิง มาได้แล้วในการพบกันแบบสากลสมัครเล่น มาตอนนี้ทั้งคู่ก้าวเข้ามาในแบบอาชีพด้วยกันแล้ว ถ้าเจอกันก็คงใส่สนุก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งคู่ก็ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวไปให้ถึงวันที่จะได้เจอกันจริงๆ ให้ได้ก่อน ทาง “เจ้าเพชร” เองก็มีคิวต้องป้องกันตำแหน่งในเร็วๆ นี้ และดีไม่ดีน่าจะต้องป้องกันอีก 1-2 ครั้งด้วยซ้ำ กว่าที่ ซู ซิหมิง จะสะสมกระดูกจนพร้อมขึ้นท้าชิง ทางฝ่าย ซู ซิหมิง เองก็ต้องทำฟอร์มให้สวยๆ ให้พร้อมขึ้นทาบบัลลังก์โลกเร็วๆ
เขียนถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่า ทีมงานของ อำนาจ รื่นเริง ก็คงต้องติดอาวุธให้ดี ถ้าถึงคิวที่จะเจอกันจริงๆ เพราะจากไฟต์ที่ผ่านๆ มา จะเห็นว่า อำนาจ ใช้ฝีมือและประสบการณ์จากสมัยชกสมัครเล่น ดักต่อยเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ ซึ่งแบบนี้มันเข้าทาง อาตี๋ซู อยู่แล้ว ที่สำคัญทางทีมงานของ “ไอ้มังกรหมัดสิงโต” เขาเพิ่มน้ำหนักหมัดให้ ซู ซิหมิง ไว้แล้ว ถ้าเราไม่เตรียมตัวให้พร้อมจริงๆ แฟนมวยชาวไทยอาจต้องแค้นกันอีกรอบ
เขียนถึง ซู ซิหมิง ให้แฟนๆ อ่านมาก็หลายหน ตั้งแต่ โอลิมปิก 2012 ที่คว้าเหรียญทองไปได้แบบยอกใจคนไทยทั่วประเทศ จนก้าวเข้าสู่วงการมวยอาชีพเต็มตัวและล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “ไอ้มังกรหมัดสิงโต” ก็ก้าวขึ้นเวทีเป็นไฟต์ที่ 4 แล้ว
3 ครั้งแรกยังเป็นการชิมลางกำหนดแค่ 4-6-6 ยกตามลำดับเท่านั้น เพิ่งมาไฟต์นี้ที่ขยับขึ้นชกกำหนด 8 ยก โดยฝั่งนักมวยไทยอย่าง หยกทอง ก่อเกียรติยิม ไปเป็นคู่ไต่อันดับ แฟนก็คงไม่คุ้นชื่อซักเท่าไหร่ เพราะอายุเพิ่ง 19 ปีชกมาแล้ว 18 ไฟต์ ชนะ 15 (น็อกเอาต์ 11 ไฟต์) แพ้ 3 (แพ้น็อก 2) ที่ผ่านมาก็ชกกับนักมวยไทยด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ ในกำหนดแค่ 6 ยก หรือ 8 ยกแค่นั้นเหมือนกัน เรียกว่า ซู ซิหมิง ก็ส่องกล้องดีแล้วจริงๆ
ไปชกกันจริงๆ ปรากฏว่า หยกทอง ทำได้ดีพอสมควร ชิงต่อยใส่นักมวยเลือดมังกรได้สวยๆ หลายหมัด แต่สุดท้ายก็ทานไม่อยู่ รับหมัดตรงขวาของ ซู ซิหมิง ไปเต็มๆ แพ้น็อกไปในยกที่ 7 แต่ก็ถือว่ายืนได้นานกว่าที่หลายๆ คนคาดไว้ เรียกว่าชกได้คุ้มค่าตัว ส่วนทางฝ่าย “ไอ้มังกรหมัดสิงโต” ก็เพิ่มสถิติเป็นชก 4 ไฟต์ชนะรวด แต่เพิ่งชนะน็อกเป็นไฟต์แรก ซึ่งก็ทำให้สถิติดูดีขึ้น หลังจาก 2-3 ไฟต์แรก โดนวิจารณ์ว่าหมัดเบาเหมือนนุ่น ไม่โดนใจตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา จะทำให้ชื่อขายลำบาก เริ่มชนะน็อกได้แบบนี้ทีมผู้สร้างค่อยสบายใจ
จากนี้นักมวยเลือดมังกรรายนี้ ก็คงไต่อันดับไปเรื่อยๆ สะสมกระดูกในระดับ 12 ยกอีกซัก 2-3 ไฟต์ จากนั้นทาง บ็อบ อารัม บิ๊กค่ายท็อปแรงค์ เตรียมดันขึ้นชิงแชมป์โลกทันที ซึ่งตำแหน่งแชมป์โลกที่ ซู ซิหมิง และโปรโมเตอร์เล็งไว้ ก็ไม่ใช่ของใครเลย เป็นเข็มขัดรุ่นฟลายเวทของสถาบัน ไอบีเอฟ ที่ “เจ้าเพชร” อำนาจ รื่นเริง เพิ่งคว้ามาได้ไม่นานนี้เอง ไฟต์นี้ อำนาจ ก็บินไปดูถึงขอบเวที โดยข่าวจากฝ่ายท็อปแรงค์บอกว่า อำนาจ ควักกระเป๋าซื้อตั๋วเครื่องบินมาดูเองซะด้วย ทางทีมงานแค่จองห้องพักให้และหาตั๋วให้เท่านั้น เพื่อแสดงว่าทาง อำนาจ ก็อยากดูฟอร์มคู่แข่งติดขอบเวทีด้วยสองตา
ถ้าคู่นี้เจอกันจริงก็คงเป็นคู่ที่แฟนมวยไทยอยากดูมากที่สุดคู่หนึ่งเหมือนกัน เพราะ อำนาจ รื่นเริง เคยเอาชนะ ซู ซิหมิง มาได้แล้วในการพบกันแบบสากลสมัครเล่น มาตอนนี้ทั้งคู่ก้าวเข้ามาในแบบอาชีพด้วยกันแล้ว ถ้าเจอกันก็คงใส่สนุก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งคู่ก็ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวไปให้ถึงวันที่จะได้เจอกันจริงๆ ให้ได้ก่อน ทาง “เจ้าเพชร” เองก็มีคิวต้องป้องกันตำแหน่งในเร็วๆ นี้ และดีไม่ดีน่าจะต้องป้องกันอีก 1-2 ครั้งด้วยซ้ำ กว่าที่ ซู ซิหมิง จะสะสมกระดูกจนพร้อมขึ้นท้าชิง ทางฝ่าย ซู ซิหมิง เองก็ต้องทำฟอร์มให้สวยๆ ให้พร้อมขึ้นทาบบัลลังก์โลกเร็วๆ
เขียนถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่า ทีมงานของ อำนาจ รื่นเริง ก็คงต้องติดอาวุธให้ดี ถ้าถึงคิวที่จะเจอกันจริงๆ เพราะจากไฟต์ที่ผ่านๆ มา จะเห็นว่า อำนาจ ใช้ฝีมือและประสบการณ์จากสมัยชกสมัครเล่น ดักต่อยเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ ซึ่งแบบนี้มันเข้าทาง อาตี๋ซู อยู่แล้ว ที่สำคัญทางทีมงานของ “ไอ้มังกรหมัดสิงโต” เขาเพิ่มน้ำหนักหมัดให้ ซู ซิหมิง ไว้แล้ว ถ้าเราไม่เตรียมตัวให้พร้อมจริงๆ แฟนมวยชาวไทยอาจต้องแค้นกันอีกรอบ