xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาไร้ทางออก เมื่อ “กีฬา” ไม่พอเลี้ยงชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิทยา อยากเป็นทหาร
ASTV ผู้จัดการรายวัน – จบลงไปแล้วสำหรับศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 27 “เนปิดอว์เกมส์ 2013” ที่พม่า ระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคม 2556 ซึ่งทัพนักกีฬาไทยประกาศศักดา ผงาดครองเจ้าเหรียญทองได้สำเร็จ จากผลงาน 107 เหรียญทอง 94 เหรียญเงิน และ 81 เหรียญทองแดง พร้อมรับเงินอัดฉีดกันถ้วนหน้า แต่กระนั้นกลับมีนักกีฬาหลายรายที่ออกมาโอดครวญพร้อมตัดพ้อปัญหาชีวิตว่าต้องการความช่วยเหลือด้านความมั่นคงเกี่ยวกับเรื่องการงานจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากอำลาทีมชาติไปแล้วเพื่อไม่ให้บั้นปลายชีวิตต้องลำบาก

ปัญหานักกีฬาขาดความมั่นคงในอาชีพเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นทุกขณะ เช่น กรณีของ พิทยา ตีบนอก เจ้าของเหรียญทองยกเหล็ก ซีเกมส์ 4 สมัยซ้อน ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ออกมาขอความช่วยเหลือผ่านสื่อว่าตนอยากให้ผู้ใหญ่ช่วยฝากฝังเข้ารับราชการเป็นทหารควบคู่ไปด้วย เพราะหากยกน้ำหนักอย่างเดียวก็คงหาเลี้ยงชีพไม่พอ เงินอัดฉีดที่ได้มาก็ร่อยหรอระหว่างฝึกซ้อม เช่นเดียวกับ “อุ้ม” ณัชฐานันท์ จันทร์กระจ่าง เงือกสาว วัย 26 ปี เจ้าของสถิติ 15 เหรียญทองตลอดการลงแข่งซีเกมส์ ที่ออกมาเปรยอาจอำลาสระเพราะมารดาเป็นห่วงว่าจะไม่มีงานทำที่มั่นคงหากยังว่ายน้ำต่อไป รวมถึง “น้องอุ๊” ตรีวดี ยงพันธ์ กับ อัจจิมา เอ่งฉ้วน 2 ลมกรดสาวดาวรุ่งที่วอนผู้ใหญ่ใจดีช่วยสนับสนุนเรื่องหน้าที่การงานให้หลังใกล้ที่จะเรียนจบ เพราะปัจจุบันมีรายได้แค่เบี้ยเลี้ยงในการซ้อมวันละไม่กี่บาทเท่านั้น

เรื่องนี้ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวเรือใหญ่ผู้ดูแลภาพรวมทั้งหมดได้กล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะช่วยเหลือตามที่นักกีฬาต้องการได้ “เรื่องความมั่นคงทางด้านอาชีพของนักกีฬานั้นคงต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะช่วยเหลือ เนื่องจากการบรรจุเข้ารับราชการเป็นเรื่องของโควตาของแต่ละหน่วยงาน ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไม่มีอำนาจเข้าไปสั่งการ เช่น นักกีฬาที่อยากเป็นทหารหรือตำรวจก็ต้องให้หน่วยงานนั้นเป็นผู้รับโดยตรง เราทำได้เพียงช่วยประสานหรือส่งหนังสือเวียนขอควาอนุเคราะห์แจ้งให้ทราบว่ามีนักกีฬาต้องการเข้ารับราชการเท่านั้น”

“ทั้งนี้ที่ผ่านมาในส่วนของการแข่งขันมหกรรมกีฬาอย่างโอลิมปิกเกมส์ ทางตำรวจและทหารก็มีการรับนักกีฬาที่ทำผลงานดีบรรจุเข้าทำงานหลายรายแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าในระดับที่รองลงมาอย่างเอเชียนเกมส์ หรือซีเกมส์ ยังเป็นไปได้ยาก เพราะมีนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จหลายราย ตามความคิดผมถ้าจะรับเข้าทำงานก็คงต้องรับทั้งหมดจะเลือกรับแค่บางคนก็คงไม่ถูกต้องนัก”

พร้อมกันนี้ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงปัญหาสำคัญว่าเป็นเรื่องของโควตาในแต่ละกระทรวง “นอกจากหน่วยงานทหารและตำรวจแล้ว ถ้าจะบรรจุเข้าหน่วยงานอื่นก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี หรือถ้าได้ก็เป็นแค่ตำแหน่งอัตราจ้าง เพราะโควตาของแต่ละกระทรวงจะถูกกำหนดโดยกระทรวงการคลังว่าแต่ละปีจะรับกี่อัตรา ซึ่งผู้ที่จะเข้าทำงานก็ต้องสอบ ก.พ.(คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) เพื่อบรรจุทางเดียว แต่ทั้งนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรงก็มีเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้แก่นักกีฬาแต่ละคนที่ทำผลงานได้เข้าเป้าอยู่แล้ว โดยล่าสุดได้เพิ่มให้เป็นเหรียญทองละ 2 แสนบาท ซึ่งรวมทั้งหมดในซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมาก็ราว 100 กว่าล้านบาทแล้ว เพราะเราต้องแจกทุกคน อย่างเช่น เรือพาย หรือ ฟุตบอล ที่ทีมหนึ่งมีนักกีฬาเป็นสิบคน”

ขณะที่ นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพ และสิทธิประโยชน์ ได้เผยว่าทาง กกท.ได้ช่วยเหลือนักกีฬาทีมชาติมาโดยตลอดและไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด “เรื่องการจะเข้ารับราชการเป็นตำรวจหรือทหารนั้นเราคงช่วยไม่ได้ แต่ทาง กกท.ก็มีนโยบายรองรับและช่วยเหลือนักกีฬาทีมชาติมาโดยตลอด โดยไม่ต้องมีเกณฑ์วัดว่าติดทีมชาติมาแล้วกี่ครั้งหรือทำผลงานได้ดีเพียงใด ขอแค่เป็นนักกีฬาที่เคยรับใช้ชาติพอ”

“โดยทาง กกท.จะเปิดรับสมัครตำแหน่งผู้ช่วยปฏิบัติการหรือพนักงานในอัตราจ้างสำหรับนักกีฬาทีมชาติตลอดทั้งปี ซึ่งนักกีฬารายใดที่ต้องการสามารถเข้ามายื่นใบสมัครทิ้งไว้ได้เลย และเมื่อมีตำแหน่งว่างเราจะเรียกเข้ามาพิจารณาทันที โดยฐานเงินเดือนก็เป็นไปตามที่ภาครัฐกำหนดคือปริญญาตรี 15,000 บาท ส่วนปริญญาโท ก็ 19,000 บาท หลังจากนั้นหากมีประสบการณ์ทำงานครบ 6 เดือนก็สามารถสอบบรรจุเป็นพนักงานประจำได้ โดยมีสวัสดิการรองรับเหมือนพนักงานรัฐวิสาหกิจทุกประการ”

สุดท้าย “รองเสือ” กล่าวว่า “ทาง กกท.ไม่เคยทอดทิ้งนักกีฬาไทยแน่นอน ตอนนี้ก็มีนักกีฬาหลายสิบรายที่เลิกเล่นแล้วเข้ามาทำงานกับเราทั้งนักกีฬาปกติและนักกีฬาคนพิการ ซึ่งคนไหนยังสามารถเล่นกีฬาได้อยู่ เราก็ยินดีที่จะปล่อยให้เข้าแข่งขันด้วย รวมถึงนักกีฬาอื่นๆที่ไม่ได้ทำงานกับเรา แต่ทาง กกท.ก็มีสวัสดิการเรื่องค่ารักษาพยาบาลเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยคอยช่วยเหลืออยู่แล้วเช่นกัน ส่วนนักกีฬาเยาวชนก็มีโครงการสปอร์ตฮีโร่ที่รองรับ”
เงือกอุ้ม ชั่งใจอำลาสระ
สมศักย์ ชี้ช่วยเหลือลำบาก
สกล ยันกกท.ไม่ทอดทิ้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น