ทัพช้างศึกทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 27 เดินทางถึงกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ เป็นที่เรียบร้อยเพื่อเตรียมลงฟาดแข้งรอบตัดเชือกกับ สิงคโปร์ ในวันที่ 19 ธันวาคม นี้ ด้าน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ ชี้ลอดช่องอาศัยเกมโต้กลับโดยใช้กองหน้าที่มีความเร็ว ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู แต่เชื่อหากไม่ประมาทจะผ่านได้แน่นอน
ทัพนักเตะทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จในฐานะแชมป์กลุ่มบี โดยมีคิวพบกับ สิงคโปร์ อันดับ 2 กลุ่มเอ วันที่ 19 ธันวาคม นี้ ที่สนาม เซย์ยาร์ติริ สเตเดียม กรุงเนปิดอว์ เวลา 19.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในศึกฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศเมียนมาร์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทัพช้างศึกได้เคลื่อนพลจากเมืองย่างกุ้งสู่กรุงเนปิดอว์เป็นที่เรียบร้อย ด้วยรถบัสที่ทางเจ้าภาพจัดให้โดยมีรถตำรวจนำขบวน ใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง และได้เข้าพักที่โรงแรมโรยัล โลตัส
โดย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมไทย ได้เตรียมนำลูกทีมลงฝึกซ้อม โดยเน้นการรีแล็กซ์เบาๆในเย็นวันเดียวกัน พร้อมกล่าวถึงเกมในรอบต่อไปว่า “เกมกับสิงคโปร์เราจะได้ผู้เล่นตัวหลักกลับมาลงสนามอีกครั้งหลังจากได้พักในแมตช์ที่แล้ว จะมีเพียง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ รายเดียวที่ยังมีอาการบาดเจ็บข้อท้าพลิกอยู่ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะยังมีผู้เล่นคนอื่นทดแทนได้”
“เท่าที่ได้ดูฟอร์มการเล่นของสิงคโปร์แล้วเป็นสไตล์รับแล้วรอจังหวะโต้กลับ โดยใช้กองหน้าที่มีความเร็วอย่าง ซาฮิล ซูไฮมี ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูในรอบคัดเลือก แต่ถึงอย่างไรก็ยังมั่นใจว่าเรายังดีกว่า ขอเพียงไม่ประมาทก็จะผ่านได้แน่นอน ส่วนรองชิงฯนั้นยังไม่ขอพูดถึง เราต้องผ่านรอบนี้ไปให้ได้ก่อนจากนั้นจะเจอใครก็ไม่ใช่งานง่ายเหมือนกัน” เฮดโค้ชวัย 40 ปีกล่าว
นอกจากนี้ “ซิโก้” ยังได้กล่าวถึงปัญหาสภาพอากาศที่จะต้องเจอหลังจากในรอบแรกที่เมืองย่างกุ้งต้องลงเล่นท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าว แต่รอบตัดเชือกที่กรุงเนปิดอว์จะพบกับอากาศที่เย็นกว่าว่า “เราจะลงแข่งขันช่วง 19.30 น.ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หนาวเย็นเป็นพิเศษ เท่าที่ทราบน่าจะมีอุณหภูมิต่ำสุดที่ 13 องศา ดังนั้นจึงถือเป็นปัญหาของทีมพอสมควร แต่เรายังพอมีเวลาให้นักเตะได้ปรับตัวอีก 2 วันก่อนแข่ง และผมได้กำชับทีมแพทย์ให้ดูแลนักเตะอย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นไข้หวัด”