xs
xsm
sm
md
lg

“โปรโค้ช” อมลกานต์ ยังไม่สายลุ้นไป LPGA

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“โปรโค้ช” อมลกานต์ ผลชีวิน
ASTV ผู้จัดการรายวัน - “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่เคยสร้างชื่อในฐานะกุนซือทีมชาติไทยช่วงปี 2547-50 ปัจจุบันก็ยังคร่ำหวอดอยู่ในวงการกีฬา พร้อมกับทายาทที่เชื้อไม่ทิ้งแถวอย่างลูกสาวคนโต อมลกานต์ หรือ “โปรโค้ช” ที่บินไปเรียนไกลจบปริญญาตรีจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะหันมาเอาดีด้านเทิร์นโปรนักกอล์ฟเต็มตัว โดยนอกจากจะประสบความสำเร็จในการเรียน หลังจากนี้เธอตั้งเป้าหมายจะพาตัวเองไปลงแข่งในเวทีระดับ แอลพีจีเอ ทัวร์ ให้ได้ ด้วยการใช้พื้นฐานการเรียนที่ดีเป็นบันไดไปสู่ระดับโลก

อมลกานต์ ผลชีวิน ลูกสาวคนโตของ “โค้ชหรั่ง” น่าจะเหมาะกับคำว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” เริ่มคลุกคลีกับวงการก้านเหล็กตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ในวันที่คุณพ่อจับนั่งรถกอล์ฟไปออกรอบด้วยกันและยื่นพัตเตอร์มาให้ลอง จากนั้นจึงเกิดเป็นความชอบและพัฒนาฝีมือมาโดยตลอด ช่วงเวลาสำคัญที่สุดที่กีฬากอล์ฟและการเรียนเติบโตขึ้นไปพร้อมๆ กันของ “โปรโค้ช” คือการที่ได้เดินทางไปผจญภัยยังต่างแดนสมัยไปเรียนไฮสคูลที่รัฐเนวาดา และจบด้วยเกรดเฉลี่ย 3.8 จากนั้นเข้าเรียนต่อที่สาขาการตลาด มหาวิทยาลัย มิสซูรี สเตท เมืองสปริงฟิลด์ ในโควตานักกีฬา และได้รับเกียรติให้เป็นกัปตันทีมกอล์ฟหญิงของมหาวิทยาลัยด้วย

หลังหันมาเทิร์นโปรเต็มตัวทันทีที่เรียนจบในปี 2011 “โปรโค้ช” เล่าว่า “การที่ต้องเล่นกอล์ฟควบคู่ไปกับการเรียนและต้องทำเกรดเฉลี่ยทุกเทอมให้ดีกว่า 2.5 เพื่อให้ได้ทุนจากมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เรื่องง่าย สอนให้เรามีวินัย บริหารจัดสรรเวลาเป็น และถือเป็นความภูมิใจมากที่เรียนจบเองโดยไม่ต้องขอเงินจากทางบ้านเพราะการไปเรียนต่างประเทศต้องมีค่าใช้จ่ายต่อเทอมสูง โดยได้ให้คำสัญญากับคุณพ่อไว้ตลอดว่าหากไม่ได้ทุนจะกลับเมืองไทยทันที”

สำหรับปัจจุบันแม้ว่า นักกอล์ฟสาวดีกรีเยาวชนทีมชาติไทยที่เดินทางแข่งใน “เลดี เอเชียน ทัวร์” จะยังไม่มีแชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียว แต่กับเป้าหมายสูงสุดยังเป็นการคว้าการ์ดทัวร์ไปแข่งใน แอลพีจีเอ ทัวร์ ไม่ต่างจากโปรสาวไทยรายอื่นๆ พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า การเสียเวลาเรียนไปกว่า 6 ปี ในเมืองมะกันจะเป็นประโยชน์ต่อการปรับตัวและใช้ชีวิตในเมืองหนาวเมื่อต้องไปเล่นกอล์ฟอาชีพที่อเมริกา ซึ่ง “โปรโค้ช” ในวัย 23 ปี ยืนยันเองว่า การเริ่มเล่นกอล์ฟ 10 ขวบ เสียเวลาเรียน 6 ปี ก่อนเล่นอาชีพยังไม่สายเกินไปแน่นอน

เมื่อถูกถามถึงเป้าหมายหลักระหว่างการเรียนต่อในระดับปริญญาโทและเล่นกอล์ฟอาชีพ อมลกานต์ ชี้ว่า “ตอนนี้ไม่ได้คิดถึงเรื่องเรียนต่อ หลังจากเรียนจบปริญญาตรีสำเร็จเราเรียนมาหนักมากๆ จากนั้นตั้งเป้าขอมุ่งมั่นกับการเล่นกอล์ฟเต็มที่ เพื่อทำตามความฝันของตัวเองให้ได้ แต่ก็จะไม่โฟกัสไกลเกินไป โค้ชด้านจิตวิทยาแนะนำว่าให้ตั้งเป้าหมายระยะสั้นก่อนกับการเป็นแชมป์ในช่วง 3-5 เดือนให้ได้ จากนั้นค่อยๆ ยกระดับเป้าหมายต่อ เราไม่ควรมองไกลเกินไปจนบางทีไม่รู้ว่าจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างไร”

พร้อมกันนี้ “โปรโค้ช” ยังได้มองวงการกอล์ฟหญิงของไทยที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น และนักกอล์ฟเยาวชนไทยรุ่นใหม่ๆ ที่จะก้าวขั้นมาเป็นนักกอล์ฟอาชีพว่า ต้องใส่ใจในเรื่องการเรียนเป็นอันดับแรกและแบ่งเวลาให้เป็น อย่างน้อยต้องเรียนจบในระดับปริญญา นักกอล์ฟสมัยใหม่ในต่างประเทศจะเก่งได้ต้องมีความรู้คู่กับฝีมือ น้อยมากที่จะมีพรสวรรค์เหมือน ลิเดีย โค (นิวซีแลนด์) หรือ เล็กซี ธอมป์สัน (สหรัฐฯ) ที่เทิร์นโปรและเก่งตั้งแต่เด็กค่อยๆ ไต่เต้าจากมือสมัครเล่นไปก่อนไม่ใช่ก้าวกระโดดพรวดเดียว

ปิดท้ายที่เรื่องคนรู้ใจนอกสนาม สวิงสาววัย 23 ปี เปิดใจว่า ตอนนี้มีคนสนิทที่คุยๆ อยู่บ้างแล้ว แต่ยังไม่เปิดตัวชัดเจน ส่วนทางคุณพ่อไม่ได้ห้ามเรื่องนี้ แต่ในฐานะนักกอล์ฟขอมุ่งมั่นกับการทำหน้าที่ในสนามเพื่อโอกาสประเดิมแชมป์แรกปลดล็อกไปสู่ความสำเร็จ
ลีลาบนกรีน
เป้าหมายสูงสุด แอลพีจีเอ ทัวร์
อ.ชาญวิทย์ พ่อก้านเหล็กสาว
กำลังโหลดความคิดเห็น