“วาวรินกา-กาสเกต์” ม้า (นอกสายตา) พร้อมพยศ

เอเยนซี - ศึกเทนนิสรายการใหญ่ส่งท้ายปี 2013 “เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์” เปิดฉากแข่งขันไปแล้วเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ บนสังเวียนเดิมนั่นคือ โอทู อารีนา ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แม้ทุกสายตาจับจ้องไปที่การลุ้นแชมป์ของสองตัวเต็งอย่าง ราฟาเอล นาดาล หวดจอมแกร่งชาวสเปน กับ โนวัค ยอโควิช จากเซอร์เบีย แต่กระนั้นบรรดาม้านอกสายตาอย่าง สตานิสลาส วาวรินกา จากสวิสเซอร์แลนด์ และ ริชาร์ด กาสเกต์ ของฝรั่งเศส ก็เป็นตัวละครที่ควรค่าแก่การจับตา ซึ่งทั้งคู่อาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการลุ้นแชมป์ปีนี้ก็เป็นได้

การชิงชัยโทรฟีพร้อมเงินรางวัลมากกว่า 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 39 ล้านบาท) บนสังเวียนฮาร์ด คอร์ต ของเหล่านักหวดทั้ง 8 คนที่ทำผลงานที่สุดในปีนี้ มีหน้าใหม่สอดแทรกเข้ามา 2 รายได้แก่ วาวรินกา กับ กาสเกต์ ที่ชิงตั๋วมาได้จาก ปารีส มาสเตอร์ส ศึกสุดท้ายชนิดส้มหล่น เพราะคู่แข่งสำคัญอย่าง มิลอส ราโอนิค จากแคนาดาพลาดท่าตกรอบสาม ด้วยน้ำมือ โทมัส เบอร์ดิช

โดย วาวรินกา ประเดิมชัยแมตช์แรกไปแล้วในสายเอ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2556 จากการพลิกเอาชนะ เบอร์ดิช มือ 5 จากสาธารณรัฐเช็ก 2-1 เซต 6-3, 6-7 (0/7), 6-3 ทำให้โอกาสเข้าสู่รอบตัดเชือกของหวดวัย 28 ปี เปิดกว้าง แม้ต้องเผชิญกับ 2 นักเทนนิสจอมแกร่งจากสเปนอย่าง ราฟาเอล นาดาล หรือ ดาบิด เฟร์เรร์ ขณะที่ กาสเกต์ ซึ่งอยู่สายบี ต้องฮึดขึ้นมา เมื่อเปิดตัวพ่าย ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร มือดีจากอาร์เจนตินา 1-2 เซต 7-6 (7/4), 3-6, 5-7 หากต้องการเข้าสู่รอบรองชนะเลิศจำเป็นต้องโค่นทั้ง ยอโควิช และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ไปให้ได้

สำหรับ วาวรินกา เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับการจับตามองมาตั้งแต่สมัยจับมือ“เฟดเอ็กซ์” คว้าเหรียญทองประเภทชายคู่โอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน แม้ผลงานมีขึ้นมาลง แต่ปีนี้เค้นฟอร์มเข้าฝักเก็บแชมป์ที่โปรตุเกส รวมถึงเข้าชิงรายการสำคัญอย่าง มาดริด มาสเตอร์ส, เนเธอร์แลนด์ และ อาร์เจนตินา จนขยับขึ้นมาติดท็อป 10 โลกได้เป็นครั้งแรกในชีวิต พร้อมประกาศกร้าวหลังจบเกมที่ผ่านมาด้วยว่าขอมีลุ้นแชมป์ที่เมืองผู้ดีเหมือนคนอื่นบ้าง

“ชัยชนะแมตซ์แรกที่ โอทู อารีนา ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษสุด มีแฟนๆ ชาวสวิสข้ามาเชียร์มากมาย แม้หลายคนอยากเห็น โรเจอร์ (เฟเดอเรอร์) เป็นแชมป์ แต่อยากบอกว่าผมเองก็มีโอกาส” ขณะที่ บอริส เบ็คเกอร์ ตำนานมือ 1 โลกจากเมืองเบียร์ อดีตแชมป์ไฟนอลส์ 3 สมัย ชื่นชม วาวรินกา ว่าเล่นได้ดี โดยเฉพาะไม่เสียเสิร์ฟแรกให้อีกฝ่ายเลย ซึ่งรอบแบ่งกลุ่มอีก 2 แมตช์ที่เหลือหากล้ม เฟร์เรร์ ได้ก็มีโอกาสเข้าสู่รอบต่อไป เนื่องจากสถิติเฮดทูเฮด แม้เป็นรองคู่แข่ง แต่ก็ไม่ห่างกันมาก (ชนะ 4 แพ้ 7 แมตช์) ผิดกับ นาดาล เจอกันมา 11 ครั้ง วาวรินกา แพ้รวดและน่าจะเป็น “เอล มาทาดอร์” ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่มมากกว่า

ด้าน กาสเกต์ น้องใหม่อีกคนของทัวร์นาเมนต์ จองานหนักแน่นอนเมื่ออกตัวด้วยความพ่ายแพ้ เพราะถูกจับให้อยู่สายแข็ง แถมสถิติเฮดทูเฮดที่เจอกับ “โนเล” หรือ “เฟดเอ็กซ์” ยังห่างกันมาก (เฟเดอเรอร์ 2-10, ยอโควิช 1-9) ทว่าหากพลิกดูการเจอกันแต่ละครั้งก็ยืดเยื้อ สร้างความลำบากใจให้ทั้งคู่ได้ไม่น้อย โดย กาสเกต์ มีลูกแบ็คแฮนด์ที่หนักหน่วง เป็นอาวุธลับที่ใช้แผลงฤทธิ์ใส่คู่แข่งได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ในอดีต ดาวิด นัลบานเดียน อดีตมือ 3 ของโลกจากอาร์เจนไตน์ ก็เคยพิสูจน์ตัวเองในฐานะมวยรองให้เห็นมาแล้วเมื่อปี 2005 ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ด้วยการพลิกสถานการณ์เอาชนะทั้ง กิลเยร์โม โคเรีย กับ อิวาน ลูบิซิช ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนทะลุเข้าไปปราบ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงจนคว้าแชมป์มาครองได้ แม้เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์เป็นครั้งแรกก็ตาม

ปิดท้ายที่การประกาศรางวัลยอดเยี่ยมในสาขาต่างๆ ของ เอทีพี ทัวร์ ปรากฏว่าตำแหน่งผู้เล่นคัมแบ็กยอดเยี่ยมตกเป็นของ นาดาล ตามที่สื่อทุกสำนักคาดการณ์ จากผลงานยอดเยี่ยมสลัดอาการบาดเจ็บหัวเข่าเรื้อรังกลับมาคว้าแชมป์ เอทีพี และ แกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพน กับ ยูเอส โอเพน ไปถึง 10 รายการ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมทวงตำแหน่งมือ 1 โลก กลับคืนมาได้อีกครั้งในรอบ 2 ปี ส่วน เฟเดอเรอร์ คว้ารางวัล สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก สปอร์ตสแมนชิป (ผู้เล่นน้ำใจนักกีฬายอดเยี่ยม) จากการโหวตของเพื่อนร่วมอาชีพอย่างท่วมท้น