สตีเฟน ลี นักสอยคิวชาวอังกฤษ ถูกลงโทษแบน 12 ปีจากการประกาศของ สมาคมสนุกเกอร์และบิลเลียดอาชีพโลก (ดับเบิลยูพีบีเอสเอ) เมื่อวันพุธที่ 25 กันยายน 2556 หลังพัวพันการล็อกผลการแข่งขันถึง 7 แมตช์ อย่างไรก็ตามจากนี้เจ้าตัวยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ตามกฎต่อไป
ลี ปัจจุบันวัย 38 ปี อดีตมือ 5 ของโลก ถูกสอบสวนและพบหลักฐานว่ามีความผิดจริง เพราะล็อกผลการแข่งขัน 7 แมตช์ระหว่างปี 2008 ถึง 2009 นอกจากโทษแบนหนักถึง 12 ปีแล้วยังโดนปรับเงิน 38,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.9 ล้านบาท)
เจสัน เฟอร์กูสัน ประธานสมาคมสนุกเกอร์และบิลเลียดอาชีพโลก (ดับเบิลยูพีบีเอสเอ) เผยว่า “เราไม่ภูมิใจเลยที่ต้องออกมาจัดการปัญหาที่ค่อนข้างตึงเครียดแบบนี้ อย่างไรก็ตามได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสมาคมฯ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีเรื่องของการทุจริตเกิดขึ้นอีก”
“การต่อต้านทุจริตของผู้เล่นถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งหากเราพบว่ามีส่วนพัวพันการล็อกผลการแข่งขันแมตช์ใดก็ตาม สมาคมฯ ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั่วโลกและถือเป็นสิ่งที่เราต้องการจะบอกถ้าเกิดเรื่องแบบนี้คุณก็จะถูกขับออกจากวงการกีฬา” เฟอร์กูสัน ทิ้งท้าย
ก่อนหน้านี้ รอนนี โอซุลลิแวน แชมป์โลก 5 สมัยชาวอังกฤษ ได้เปิดประเด็นผ่าน “ทวิตเตอร์” เครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำนองยอมรับว่าทุกวันนี้วงการสนุกเกอร์โลกมีการล็อกผลการแข่งขันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้สมาคมสนุกเกอร์และบิลเลียดอาชีพโลก ต้องออกมาตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้