“บิ๊กแป๊ะ” ถิรชัย วุฒิธรรม ในฐานะประธานพิจารณาไต่สวนสิทธิ์การทำทีม ประชุมสรุป 3 แนวออก แก้ปัญหาโปรแกรมตกค้างของ “กูปรี” ศรีสะเกษ เอฟซี เป็นที่เรียบร้อย พร้อมยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อสโมสรที่ต้องการรักษาสิทธิ์เล่นในลีกสูงสุดต่อไป แต่สุดท้ายต้องให้สมาคมฟุตบอลฯเป็นผู้ตัดสิน ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานทีพีแอล แย้มการ “เพิ่มทีม” เป็น 1 ใน 3 แนวทาง
ความคืบหน้าหลังจากที่ “กูปรีอันตราย” ศรีสะเกษ เอฟซี ทีมในศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ได้รับไฟเขียวจากศาลปกครอง ให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จนได้สิทธิ์ทำทีมคืนจากข้อพิพาทที่ อีสาน ยูไนเต็ด ฟ้องร้อง โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ นายถิรชัย วุฒิธรรม ประธานพิจารณาไต่สวนสิทธิ์การทำทีม นำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาในส่วนของโปรแกรมที่ตกค้างอยู่ในฤดูกาลนี้
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายถิรชัย วุฒิธรรม, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด, นายวีระ คำมี ฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ, พ.อ.โกวิท อุทัยฉาย ฝ่ายพิจารณามารยาทวินัยและข้อประทวงสมาคมฟุตบอลฯ และ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อัยการกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมหารือกันที่ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน
ภายหลังจากการปิดห้องพูดคุยกว่า 2 ชั่วโมง นายถิรชัย ได้เผยว่า ขณะนี้ได้มีข้อสรุปออกมา 3 แนวทาง ซึ่งทุกทางออกไม่ส่งผลกระทบต่อ ศรีสะเกษ แน่นอน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีทางใดบ้าง เพราะทั้งหมดต้องส่งให้ทางสภากรรมการของสมาคมฟุตบอลฯเป็นผู้ตัดสินใจ
“เรายึดหลักในการพิจารณา ประกอบไปด้วย คำสั่งศาล, ระเบียบการแข่งขันของทีพีแอล และสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งที่ประชุมมีสรุป 3 แนวทาง แต่คงไม่อาจเปิดเผยในตอนนี้ได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ได้มอบหมายให้คุณวีระ คำมี ร่างคำวินิจฉัยเพื่อเสนอต่อสภากรรมการสมาคมฯ และตัดสินใจว่าจะเลือกแนวทางใด โดยทั้ง 3 แนวทาง ผมบอกได้เพียงว่าไม่มีใครได้รับผลกระทบ รวมถึง ศรีสะเกษ ที่ต้องการรักษาสิทธิ์การเล่นไทยพรีเมียร์ลีกต่อไป อย่างไรก็ตามสภากรรมการสมาคมฯ อาจไม่เลือกทั้ง 3 แนวทางก็ได้ แต่ก็ต้องพิจารณากันเองว่าจะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างไร” บิ๊กแป๊ะกล่าว
ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ได้แย้มว่าการเพิ่มทีมเป็น 1 ใน 3 แนวทาง “ทีพีแอล ต้องยึดคำสั่งของสมาคมฯเป็นหลัก ซึ่งการเพิ่มทีมเป็น 1 ใน 3 แนวทางที่เสนอให้กับสมาคมฯ แต่ทั้งนี้คงต้องรอให้สมาคมฯเป็นฝ่ายสรุปอีกครั้ง”
