เอเยนซี - แกรนด์ สแลม ลำดับสุดท้ายของปี 2013 “ยูเอส โอเพน” ครั้งที่ 133 เตรียมเปิดฉากดวลแร็กเกตกันคืนวันที่ 26 สิงหาคมนี้ตามเวลาประเทศไทย ณ ฟลัชชิง เมโดวส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องยอมรับว่าประเภทชายเดี่ยวมีเรื่องราวที่น่าสนใจให้ติดตามมากกว่าฟากฝ่ายหญิง โดยเฉพาะ 4 เรื่องราวนับจากนี้ที่มีโอกาสเกิดขึ้นและถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะคือบันทึกบทใหม่ให้พูดถึงกันต่อไป
1. “เมอร์เรย์” ภารกิจป้องแชมป์
ชัยชนะจากการคว้า วิมเบิลดัน ที่บ้านเกิด ส่งให้ แอนดี เมอร์เรย์ เปล่งประกายความเป็นซูเปอร์สตาร์ออกมาอย่างชัดเจน ทว่าหลังความสำเร็จอันหอมหวานเมื่อ 2 เดือนก่อนผ่านพ้นไป หวดหนุ่มเลือดสกอต ตื่นมาเผชิญกับโลกความจริงอีกครั้งเพื่อป้องกันแชมป์ แกรนด์ สแลม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่อเมริกา ซึ่งผลงานลงเล่นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง 2 รายการที่ แคนาดา และ ซินซินเนติ จอดป้ายก่อนกำหนดถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก ส่วน ยูเอส โอเพน ปีนี้อยู่สายบนร่วมกับ โนวัค ยอโควิช มือ 1 โลกชาวเซิร์บ มีโอกาสโคจรมาเจอกันรอบตัดเชือก เพราะล่าสุดตกมารั้งมือ 3 การพบกันบนฮาร์ดคอร์ตของทั้งคู่สูสีกินกันไม่ลงจริงๆ ขณะที่ “โนเล” หลังนั่งบัลลังก์ความกระหายก็ดูจะตกลงไป ดังนั้นคงอยากจะมุ่งมั่นกับรายการนี้มากเป็นพิเศษเพื่อทิ้งทวนปี 2013
2. “อิสเนอร์” อัศวินของมะกัน
นับตั้งแต่ แอนดี ร็อดดิก จอมเสิร์ฟหนักคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพน เมื่อปี 2003 ไม่น่าเชื่อว่าถัดจากนั้นเป็นต้นมาไม่มีนักหวดจากแผ่นดินอเมริกันก้าวขึ้นไปหยิบแชมป์รายการนี้แม้แต่คนเดียว ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่แฟนๆ เจ้าถิ่นจะจับตาไปยัง จอห์น อิสเนอร์ หวดหนุ่มร่างโย่งมือ 17 ของโลก ในฐานะความหวังสูงสุด ซึ่งถ้านับผลงานปีนี้ถือว่าน่าประทับใจไม่น้อย โดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องหวดวัย 28 ปี ซิวแชมป์ที่ แอตแลนตา และเข้าชิงอีก 2 รายการที่ วอชิงตัน กับ ซินซินเนติ ก่อนแพ้ให้ ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร และ ราฟาเอล นาดาล ตามลำดับ ขณะที่ผลงาน สแลม ยูเอสฯ ดีที่สุดเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายเมื่อปี 2011 ก่อนแพ้ แอนดี เมอร์เรย์ สูสี 1-3 เซต ดังนั้นน่าสนใจยิ่งว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอัศวินม้าขาวได้หรือไม่
3. แกรนด์ สแลม สั่งลาของ “เฟดเอ็กซ์”
เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีที่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ลงชิงชัย แกรนด์ สแลม ในฐานะมือ 7 ของรายการ ตามแรงกิงของ เอทีพี ทัวร์ จากผลงานร่วง วิมเบิลดัน รอบสองที่อังกฤษ แม้จะพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นตัวเองและหันมาใช้แร็กเกตใหม่ที่มีหน้าไม้ใหญ่กว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ช่วยกู้สถานการณ์ของหวดวัย 32 ปีให้ดีขึ้นและยังคงเคลื่อนไหวได้ช้าเหมือนเดิม ขณะลูกยิงวินเนอร์สงามๆ ดังสมัยก่อนก็ไม่ค่อยมีให้เห็น ส่วนผลจับสลากปีนี้อยู่สายล่างร่วมกับ ราฟาเอล นาดาล คู่แข่งตลอดกาลจากสเปน ซึ่งทำให้มีโอกาสเจอกันในรอบ 8 คนสุดท้าย ด้วยฟอร์มที่ถดถอยของ “เฟดเอ็กซ์” ระหว่างทางยังต้องฝ่าด่านคู่แข่งฝีมือดีอีกหลายราย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบวกสถิติสแลมเพิ่มและอาจทำให้เจ้าตัวต้องเริ่มพิจารณาถึงอนาคตอีกครั้ง หากทัวร์นาเมนต์นี้ล้มเหลวอีก
4.ได้เวลา “ปอโตร” คืนฟอร์ม
ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร มือ 6 ของโลก ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างเซอร์ไพรส์ปราบ เฟเดอเรอร์ นัดชิง ยูเอส โอเพน เมื่อปี 2009 พร้อมมองว่าจะขึ้นมาสอดแทรก 4 จตุรเทพของวงการ ทว่าโชคร้ายเจออาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ข้อมือเล่นงานนานหลายปี ทว่าตอนนี้คืนฟอร์มหยิบโทรฟีไปแล้ว 2 รายการที่ ร็อตเทอร์ดัม และทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องที่ วอชิงตัน เอาฤกษ์เอาชัยก่อนแข่งที่ ฟลัชชิง เมโดวส์ ส่วนศึก วิมเบิลดัน ที่ผ่านมายังเข้าถึงรอบตัดเชือกก่อนจะแพ้ โนวัค ยอโควิช มือ 1 โลกจากเซอร์เบีย แบบสุดมัน 2-3 เซต ซึ่งถ้ามีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งในรอบ 8 คนสุดท้ายบนฮาร์ดคอร์ตที่ช่ำชองทั้งคู่ ก็เรียกได้ว่าคู่คี่สูสีสามารถออกได้ทั้ง 2 หน้าเหมือนกัน