ราฟาเอล นาดาล อดีตนักหวดลูกสักหลาดหมายเลข 1 ของโลกชาวสเปน คว้าแชมป์ศึกเทนนิสเอทีพี ทัวร์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มาครอง หลังปราบ จอห์น อิสเนอร์ ม้ามืดชาวอเมริกัน 2 เซตรวด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา
ศึกเทนนิส เอทีพี ทัวร์ ระดับมาสเตอร์ 1000 รายการ “เวสเทิร์น แอนด์ เซาเธิร์น โอเพน” ณ เมืองซินซินเนติ มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 90 ล้านบาท) เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว ระหว่าง ราฟาเอล นาดาล กับ จอห์น อิสเนอร์
ทั้งคู่ต่างดวลกันอย่างสูสี ไม่มีใครเสียเบรกพอยต์ เป็นเหตุให้ต้องตัดสินกันถึงช่วงไทเบรก ปรากฏว่า ราฟาเอล นาดาล มือ 4 รายการ พิชิต จอห์น อิสเนอร์ ซึ่งกระหน่ำเสิร์ฟ 11 เอซ 2-0 เซต 7-6 (10-8) และ 7-6 (7-3) นับเป็นแชมป์ชาวสแปนิชคนแรกในรอบ 11 ปี ต่อจาก คาร์ลอส โมยา และเป็นแชมป์บนฮาร์ดคอร์ต 2 รายการติดเป็นครั้งแรก พร้อมขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของโลก แทน แอนดี เมอร์เรย์
หวดกล้ามโตวัย 26 ปี กล่าว “เราเล่นตั้งแต่รอบแรกกับ 50 นักเทนนิสดีสุดในโลก สำหรับทัวร์นาเมนต์อื่น คุณอาจโชคดีตอนจับสลากแบ่งสาย แต่ไม่ใช่ที่นี่ การคว้าแชมป์ 2 รายการติดไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสภาพสนามและอากาศมันไม่เหมือนกัน คุณท้าทายสภาพร่างกายและขีดจำกัดในการเล่นเทนนิส คุณต้องมุ่งมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ ระหว่าง 2 สัปดาห์ที่ต้องลงสนามทุกวัน”
อย่างไรก็ตาม ราชาคอร์ตดิน ยังพร้อมที่จะบอกว่าการชูโทรฟี 2 รายการติด (มอนทรีอัล และ ซินซินเนติ) เป็นสัญญาณที่ดีก่อนลุยแกรนด์สแลมรายการสุดท้ายของปี ยูเอส โอเพน วันจันทร์ที่ 26 ส.ค. นี้ โดยเผยว่า “ความหมายหนึ่งเดียวของมัน คือ ผมกำลังท็อปฟอร์ม และหวังเป็นอย่างยิ่งผมสามารถรักษามาตรฐานจนถึง ยูเอส โอเพน สัปดาห์หน้า นั่นคือเป้าหมายของผม ผมจะซ้อมครั้งแรกวันพุธนี้ ที่เมืองนิวยอร์ก ผมจะทำงานหนักระหว่าง 2-3 วันแรก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับรายการนี้”