"บิ๊กก๊อง" วิรัช ชาญพานิช ไขข้อข้องใจแก่สโมสรสมาชิกถึงสาเหตุที่ยอมรับหลักเกณฑ์ 72 เสียงโหวต พร้อมยืนยันยังไม่ได้แพ้ ย้ำจุดยืนคือต้องการเปลี่ยนแปลงนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเหมือนเดิม แย้มเตรียมเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีต้นทุนทางสังคมสูงมานั่งประธานคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง
ภายหลังจากที่้ นายวิรัช ชาญพานิชย์ ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ตกลงข้อสรุปกับ "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฯ ในเรื่องจำนวนเสียงของสโมสรสมาชิกที่จะใช้โหวตอย่างสมานฉันท์ โดยใช้ 72 เสียงโหวต ประกอบด้วย ไทยพรีเมียร์ลีก 18 ทีม, ดิวิชัน 1 18 ทีม, ลีกภูมิภาค อันดับ 1-5 ของทั้ง 6 โซน รวม 30 ทีม และทีมแชมป์กับรองแชมป์ ถ้วย ข, ค, และ ง รวม 6 ทีม
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายวิรัช และ นายอดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ พร้อมด้วยสโมสรสมาชิกจำนวน 113 สโมสร ได้ร่วมประชุมเพื่อทำความเข้าใจและกำหนดแนวทางขั้นต่อไปร่วมกัน ที่สโมสรกองทัพบก (วิภาวดี)
โดย "บิ๊กก๊อง" ได้เปิดผยถึงสาเหตุที่ยอมรับใน 72 เสียง และไม่ทำการจัดเลือกตั้งเองในวันนี้(24 ส.ค. 56)ตามที่เคยเอ่ยวาจาไว้ว่า "การประชุมวันนี้เป็นการชี้แจงให้สโมสรสมาชิกรับทราบและเข้าใจ ว่า ณ เวลานี้หากเราไม่ปฏิบัติตาม ฟีฟา ผมเชื่อว่าเรื่องราวจะไม่จบ เพราะถ้าเราจะจัดการเลือกตั้งกันเองก็จะถูกผู้บริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบันฟ้องร้องเพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งจะทำให้ทุกอย่างต้องชะงัก ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือยอมรับธรรมนูญใหม่เพื่อให้มีการเลือกตั้งเพื่อไม่ให้ประเทศเกิดความเสียหาย”
“ธรรมนูญใหม่นี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต โดยเสียงจาก ด.2 ยึดเอาแรงกิง 1-5 เฉพาะครั้งนี้เท่านั้น แต่อนาคตผมสัญญาว่าหากได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ จะปรับการแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทาน โดยให้ทุกทีมได้แข่งขันระบบลีกเพื่อให้มีความเป็นอาชีพมากขึ้น และเมื่อนั้นก็จะทำให้ทุกทีมมีสิทธิ์มีเสียง แต่คงต้องใช้เวลา”
"และผมยืนยันว่าเราไม่ได้แพ้ จุดยืนเรายังคือต้องการเปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลไทยเหมือนเดิม โดยเฉพาะตัวนายกสมาคมฯ หลังจากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนการหาเสียง ซึ่งผมยืนยันอีกว่าจำนวน 72 เสียงที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นพวกของเรามากกว่า และผมก็จะเดินทางไปพูดคุยกับสโมสรต่างๆที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับผม ซึ่งเสียงที่มีอยู่ตอนนี้ เมื่อรวมกับเสียงอื่นๆที่จะเข้ามา น่าจะทำให้ชนะการเลือกตั้งได้"
ขณะที่ในเรื่องของการตั้งคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง ทั้งหมด 5 คน ที่ทางฝั่ง "บิ๊กก๊อง" ได้สิทธิ์เป็นผู้เฟ้นหาประธาน 1 คน และกรรมการ อีก 2 คน ส่วนที่เหลืออีก 2 คน เป็นฝั่งสมาคมฟุตบอลฯเป็นผู้เลือกนั้น อดีตผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวว่า เตรียมเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ จากหลายๆด้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลไว้ในใจแล้ว รวมถึงจากหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ที่มีต้นทุนทางสังคมสูง ด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องจากยังไม่มีการตอบรับอย่างเป็นทางการ
ด้าน “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ กล่าวว่าตนเองได้ปรึกษากับพรรคพวกในระดับนานาชาติและได้รับคำตอบว่า “ฟีฟา จะส่งหนังสือเพื่อออกคำสั่งให้สมาคมฯ ขับไล่ 108 สโมสร ที่จัดการเลือกตั้งเองออกจากการเป็นสมาชิกภาพของสมาคมฯ และเมื่อนั้นทุกอย่างจะเข้าทางผู้บริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบันทุกอย่าง สิ่งที่คุณวรวีร์พูดชักชวนคุณวิรัชให้มาบริหารงานร่วมกัน ผมคิดว่าเป็นการหยอดคำหวานมากกว่าและเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เนื่องจากไม่มีการพูดคุยนอกรอบหรืออย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงอย่าเชื่อว่าการบริหารงานของคุณวรวีร์จะมีทิศทางที่ดีขึ้น นอกเสียจากนายกสมาคมฯ ไม่ใช่คุณวรวีร์”