"บิ๊กก๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ กับ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ตกลงหารือร่วมกันได้อย่างลงตัว สรุปใช้จำนวน 72 เสียงในการโหวตเลือกนายกสมาคมฟุตบอลฯคนใหม่ แต่แก้ที่มาของดิวิชั่น 2 เป็นอันดับ 1-5 แทน ส่วนที่เหลือคงเดิม พร้อมกำหนดดีเดย์วันเลือกตั้งภายใน 45 และทั้งคู่ยืนยันว่ายินดีร่วมงานด้วยกันหากใครคนใดได้เป็นนายกฯก็ตาม
ความเคลื่อนไหวกรณีข้อพิพาทเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คนใหม่ ที่คาราคาซังมานาน ล่าสุดทุกอย่างก็ได้ข้อสรุปแล้ว หลังจากที่ นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฯ พร้อมด้วย นายวิรัช ชาญพานิชย์ ผู้ท้าชิงฯ และตัวแทนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟา) ได้ร่วมกันหารือในหัวของ 21 เรื่องผู้แทนและการออกเสียงลงคะแนน ในร่างข้อบังคับฉบับใหม่ ที่ขอสงวนไว้ก่อนหน้านี้ ตลอดช่วงเช้าของวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ก่อนที่จะได้ข้อสรุปและนำไปให้สโมสรสมาชิกลงมติรับรอง
โดยในส่วนของจำนวนเสียงโหวตนั้นจะใช้ 72 เสียงตามเดิม แต่แก้ไขในรายละเอียดที่มาของทีมที่มีสิทธิ์ในส่วนของลีกภูมิภาค(ดิวิชัน 2) โดยจะใช้การจัดอันดับ 1-5 ตามแรงกิงในเลกแรกของฤดูกาล 2013 ทั้ง 6 โซน รวม 30 ทีม ขณะที่ระดับอื่นคงเดิมคือ ไทยพรีเมียร์ลีก 18 ทีม, ดิวิชัน 1 18 ทีม และถ้วย ข, ค, ง ทีมแชมป์และรองแชมป์ในแต่ละถ้วย รวม 6 ทีม ซึ่งสโมสรสมาชิกจำนวน 152 ทีม, สภากรรมการ 13 คน และผอ.ศูนย์ภูมิภาค 3 คน ที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ด้าน นายวรวีร์ ได้กล่าวว่า ปัญหาในการเลือกตั้งที่มีมาทั้งหมดก็สามารถสรุปได้ลงตัวในวันนี้ ทุกฝ่ายเห็นพ้องตรงกันอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยหลังจากนี้ทางสมาคมฟุตบอลฯจะเร่งดำเนินการนำร่างข้อบังคับฉบับใหม่นี้ไปจดทะเบียนกับกรมการปกครองภายใน 14 วัน ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะเร่งดำเนินการทันที ส่วนถ้อยความหรือความหมายต่างๆที่ยังไม่สอดคล้องกับกฎหมายนั้นในที่ประชุมจะให้ทางสมาคมฯปรับปรุงภายหลัง พร้อมมั่นใจว่าจะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย และสามารถจัดการเลือกตั้งให้ได้ภายใน 45 วันนับจากนี้ (วันที่ 7 ตุลาคม )
พร้อมกันนี้ในการหารือของทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตกลงที่จะตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 5 คน เข้ามาดูแลเช่นกัน โดยจะให้ทางฝั่งนายวิรัช เป็นผู้เลือกประธาน 1 คน และกรรมการอีก 2 คน ส่วนทางฝั่งสมาคมฯจะเลือกกรรมการ อีก 2 คน อีกทั้งจัดตั้งคณะกรรมการอุทธรณ์ 3 คน โดยทางฝั่งสมาคมฯจะเลือกประธานและกรรมการ อย่างละ 1 คน ส่วนกรรมการอีก 1 คนให้ "บิ๊กก๊อง" เลือก
โดย "บังยี" กล่าวต่อว่า "ผมกับคุณวิรัชได้ตกลงกันแล้วว่าจากนี้ไม่ว่าใครได้เป็นนายกฯคนใหม่ก็ตาม อีกฝ่ายก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ จากนี้ทางสมาคมฯจะเร่งนำร่างข้อบังคับฉบับใหม่นี้ไปจดทะเบียนให้เร็วที่สุดเพื่อให้ทันภายใน 45 วัน ส่วนที่อาจเลยกำหนดที่ทางฟีฟาให้มาคือวันที่ 30 กันยายนนี้นั้น ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะทุกฝ่ายเห็นพ้องตรงกันและฟีฟาก็เตรียมที่จะประชุมในวันที่ 2 กันยายน จึงอาจมาสิทธิ์ที่จะเลื่อนกำหนดการใช้ออกไปก่อนได้"
"ส่วนเรื่องใบมอบอำนาจนั้น จากนี้จะใช้เป็นแบบสากล โดยจะให้คณะกรรมการเลือกตั้งส่งแบบฟอร์มไปให้แต่ละสโมสร และให้แต่ละสโมสรกำหนดชื่อผู้ที่จะมาลงคะแนน สโมสรละ 1 คน และตอบกลับมาล่วงหน้าก่อนเวลาที่กำหนด" อดีตนายใหญ่บอลไทย 3 สมัย กล่าว
ขณะที่ นายวิรัช เผยว่า ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน จำนวนเสียงที่ออกมาก็บาลานซ์กันทั้งคู่ ซึงทุกอย่างอาจจบก่อน 45 วันก็เป็นได้ และในอนาคตก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน และผมก็ไม่มีปัญหาที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสังคม ส่วนเรื่องจำนวนเสียงแบบนี้แล้วมั่นใจว่าจะชนะขนาดไหนนั้นยังตอบไม่ได้ จากนี้ก็ต่างฝ่ายต่างแสดงนโยบายหาเสียง โดยพรุ่งนี้(24 สิงหาคม)ทางฝั่งตนก็จะประชุมชี้แจงให้แต่ละสโมสรรับทราบ ที่สโมสรกองทัพบก เวลา 09.00 น.
