xs
xsm
sm
md
lg

“อาร์ต” รับผิดคนเดียว วอน ส.แบดลดโทษ “เอ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาร์ต ขอรับผิดคนเดียว วอนสมาคมฯ ลดโทษ เอ (รูปจากแฟ้มภาพ)
“อาร์ต” บดินทร์ อิสระ แจงผ่านเฟซบุ๊กของ เจน ปิยะทัต ยอมรับความผิดแต่เพียงผู้เดียว หลังก่อเหตุทะเลาะวิวาท ศึกแคนาดา โอเพน พร้อมวอนสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ลดโทษแก่ มณีพงศ์ จงจิตร อดีตคู่หู ให้กลับไปลุยศึกชิงแชมป์โลก ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ต้นเดือนสิงหาคมนี้

ความเคลื่อนไหวกรณีทะเลาะวิวาทระหว่าง บดินทร์ อิสระ และ มณีพงศ์ จงจิตร ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ศึกแคนาดา โอเพน ซึ่งทางสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยได้ออกมาแบนห้ามบดินทร์ ลงแข่งขันทั้งในและต่างประเทศเป็นระยะเวลา 2 ปี ส่วน มณีพงศ์ โดนโทษแบนห้ามลงแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ 3 เดือนเช่นกัน ทำให้ไม่มีสิทธิ์ลงแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก “เวิลด์ แชมเปียนชิปส์” ที่เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน

ล่าสุดทาง บดินทร์ อิสระ นักแบดมินตันทีมชาตไทยได้โพสต์ข้อความยอมรับผิดอย่างเป็นทางการผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายเจน ปิยะทัต ประธานสโมสรแกรนนูลาร์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ความว่า

หนังสือชี้แจงเหตุการณ์

ตามที่ข้าพเจ้าได้ก่อเหตุวิวาทกับคู่แข่งขัน ในรอบชิงชนะเลิศ แบดมินตันประเภทชายคู่ ณ ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 นั้น บัดนี้ ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดและเสียใจในเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าเป็นคนก่อขึ้นเป็นอย่างมาก โดยขอลำดับเหตุการณ์ และจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งจนบานปลายถึงขนาดนี้ ดังนี้

สาเหตุเริ่มต้นเกิดมาจากความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างข้าพเจ้าและอดีตคู่ขา มณีพงษ์ จงจิตร เมื่อครั้งที่ตัดสินใจแยกทางกันเดิน โดยมีปัญหาคาใจที่ไม่ได้เปิดใจคุยกัน เป็นบาดแผลทางใจเรื่อยมา เมื่อมีโอกาสพบปะกันในทัวนาเมนต์ต่างๆ เราต่างคนต่างเลือกที่จะไม่สบตากัน ทำท่าทีเพิกเฉยเย็นชาต่อกันมาตลอด จนกระทั่งในวันเกิดเหตุ ข้าพเจ้าต้องทำการแข่งขันกับคู่ของมณีพงษ์ ซึ่งก่อนการแข่งขัน ข้าพเจ้าก็ได้เตรียมใจมาระดับหนึ่ง รวมทั้งได้พูดคุยกับคู่ขา (ภควัฒน์) เกี่ยวกับการวางแผนการเล่นและความกดดันที่จะต้องเจอทั้งในเกมและนอกเกม

แต่เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น เมื่อเพียงแต้มแรกเท่านั้น ท่าทางแสดงความดีใจ และเสียงร้องดีใจเมื่อได้แต้มจากคู่แข่ง กลับทำให้ข้าพเจ้าเสียการควบคุมอารมณ์ตนเองอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับข้าพเจ้ามาก่อนเลย จนกระทั่งข้าพเจ้าได้เป็นฝ่ายเริ่มเปิดสงครามทางคำพูดผ่านข้ามตาข่ายไปยังฝ่ายคู่แข่งอย่างหยาบคายและไร้มารยาททางการกีฬา ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้ามีทางเลือกมากมายที่จะรับมือกับท่าทางการแสดงความดีใจเหล่านั้น แต่ข้าพเจ้ากลับเลือกวิธีที่ผิด ทำให้เกมการแข่งขันที่น่าจะสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชม กลายเป็นโศกอนาถกรรมทางการกีฬาอย่างที่ไม่ควรจะเป็นเกิดขึ้น

หลังจากได้มีเวลาทบทวนตัวเองและได้ดูภาพบันทึกในมุมต่างๆ ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจและละอายใจเป็นอย่างยิ่งต่อการกระทำของข้าพเจ้า เพราะเมื่อคิดย้อนกลับไปถึงนาทีนั้น ท่าทางการแสดงความดีใจและโห่ร้องที่ได้แต้มของฝ่ายตรงข้ามนั้น มิได้มีความแตกต่างจากท่าทางการแสดงออกทั่วไปที่มณีพงษ์และตัวข้าพเจ้าได้แสดงออก เวลาได้แต้มเมื่อสมัยที่ยังแข่งขันร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน และยังรู้สึกว่าบางครั้งบางช่วงจังหวะของการแข่งขันแต้มสำคัญ เราทั้งคู่ยังแสดงท่าทีดีใจมากกว่าแต้มแรกในวันเกิดเหตุด้วยซ้ำไป แต่ในจังหวะนั้น แม้ระหว่างการแข่งขันข้าพเจ้าจะได้รับการตักเตือนจากผู้ฝึกสอนและคู่ของข้าพเจ้าและกรรมการในสนาม ให้ตั้งสมาธิกับเกมการแข่งขัน แต่ข้าพเจ้ากลับปล่อยให้อารมณ์ แรงกดดันและความโกรธจากเรื่องส่วนตัว มาบดบังความคิดและสติ จนพาลมองไปว่าเป็นท่าทีที่ยั่วยวน และเป็นจุดเริ่มของการใช้ความรุนแรงโดยขาดสติในช่วงจังหวะเปลี่ยนแดน

อีกทั้งข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างมากที่การกระทำของข้าพเจ้าได้ส่งผลไปยังให้มณีพงศ์ อดีตคู่ขาและเพื่อนรักของข้าพเจ้า ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากนี้ นอกจากจะเจ็บตัวจากการกระทำของข้าพเจ้าแล้ว ยังอาจต้องเสียสิทธิในการลงทำการแข่งขันชิงแชมป์โลก ในต้นเดือนหน้านี้ ในฐานะนักกีฬาด้วยกัน คงเข้าใจดีการแข่งขันชิงแชมป์โลกนั้นสำคัญเพียงใด ต้องตั้งใจแข่งขัน ทำผลงานจนกว่าจะมีคะแนนสะสมได้อันดับมายากเย็นแค่ไหนกว่าจะได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขัน แต่มณีพงศ์อาจจะต้องสูญเสียความตั้งใจนั้นไปกับการกระทำของข้าพเจ้า โดยที่ไม่ใช่ความผิดของตัวมณีพงษ์เลย เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็ว ไม่มีใครคาดคิด และทางเลือกของมณีพงษ์มีน้อย และมณีพงษ์ก็เลือกที่จะวิ่งหนีและใช้ไม้แบดป้องกันตัว ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เขาทำได้ในตอนนั้น บาดแผลที่ใบหูของข้าพเจ้านั้น ก็เกิดจากการป้องกันตัวของทางมณีพงษ์ มิได้เกิดจากความตั้งใจที่จะทำให้ข้าพเจ้าบาดเจ็บ

บัดนี้ ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว มิได้มีสาเหตุจากคู่แข่งของข้าพเจ้าหรือผู้อื่นผู้ใด ข้าพเจ้าสมควรถูกลงโทษแล้วจากทางสมาคม แต่ที่ได้เขียนหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ฉบับนี้ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทุกคนเข้าใจ รวมทั้งอยากวิงวอนให้ทางสมาคมฯ ลดโทษให้กับมณีพงษ์ เพื่อให้เขาได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกด้วยเถิดครับ มณีพงษ์สมควรได้สิทธินั้น และข้าพเจ้าเองก็จะขอเป็นกำลังใจแรงหนึ่งเชียร์ให้เขาประสบผลสำเร็จจากการแข่งขัน เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของวงการประเทศไทยให้กลับมาด้วยครับ

บดินทร์ อิสระ
กำลังโหลดความคิดเห็น