ASTV ผู้จัดการรายวัน - สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ได้มีการตัดสินลงโทษ "อาร์ต" บดินทร์ อิสระ ด้วยการแบน 2 ปีจากเดิมตลอดชีวิต ขณะที่ “เอ” มณีพงศ์ จงจิตร โดน 6 เดือนแต่ลดเหลือกึ่งหนึ่งคือ 3 เดือน จากกรณีสร้างความเสื่อมเสียใหักับประเทศชาติและวงการขนไก่ไทยที่กำลังไปได้สวย ด้วยการมีเรื่องทะเลาะวิวาทกลางคอร์ตนัดชิง แคนาดา โอเพน ประเภทชายคู่ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาจนกลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลก
แน่นอนว่าจากเปลือกนอกที่ทุกคนเห็นตอนนี้ บดินทร์ ถูกตราหน้าไปแล้วว่าเป็นพวกเลือดร้อนและจากนี้สังคมจะมีที่ให้ยืนต่อในวงการหรือไม่ ก็ไม่อาจทราบได้ เนื่องจากเป็นฝ่ายที่คุมอารณ์ไม่อยู่ ปล่อยหมัดใส่ มณีพงศ์ เพื่อนเก่าที่เคยช่วยกันสร้างชื่อเข้าถึงรอบ 8 คู่สุดท้ายศึก โอลิมปิก ลอนดอน เกมส์ 2012 อาจเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบที่เปลี่ยนชีวิตของหนุ่มวัย 22 ปีไปเลยก็ว่าได้
ซึ่งกว่าจะมาเป็น บดินทร์ เช่นทุกวันนี้ก็เหมือนกับเด็กหนุ่มทั่วไปที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่พ่อ-แม่แยกทางกัน ทำให้ต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของลุงกับป้า เจ้าตัวเผยว่า “ยอมรับว่าชีวิตช่วงดังกล่าวนั้น ทำให้ผมเปลี่ยนไปมาก เป็นเด็กเกเรและหนีเรียน เที่ยวกับเพื่อนตลอด แต่ช่วงมัธยมต้นมีคนแนะนำให้มาเป็นนักกีฬาแบดมินตัน ประกอบกับการมีครอบครัวเร็วตั้งแต่อายุ 22 ปี ทำให้ตัดสินใจกลับเนื้อกลับตัว”
“ตั้งแต่มีลูกสาว คือน้อง มินิ ทำให้ต้องรับผิดชอบทั้งในฐานะคุณพ่อมือใหม่ และหัวหน้าครอบครัวให้ดีที่สุด ผมเป็นลูกผู้ชายพอ เมื่อกล้าทำก็ต้องกล้าที่จะรับ ตลอดจนหน้าที่ในฐานะนักกีฬาทีมชาติ แม้ว่าทุกวันนี้ยังต้องเดินหน้าฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ลืมจะคุยกับลูกทุกวันด้วยการสอนการบ้าน หรืออ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนเป็นประจำ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ ผมก็ยังติดต่อท่านอยู่เสมอ แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม” อาร์ต เปิดใจ หลังเหตุการณ์งามหน้าที่ แคนาดา
บทลงโทษแบน 2 ปี ถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แต่สำหรับ บดินทร์ ที่ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาพอสมควรเมื่อเทียบกับหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แม้จะมีท้อและสิ้นหวังบ้าง ซึ่งทั้งภรรยาและลูกที่หนุนหลังเสมอมาก็น่าจะช่วยให้ผ่านไปได้
บดินทร์ กล่าวว่า “ผมมีลูกสาวเป็นแรงผลักดันอยู่เสมอจากการที่ได้สักคำว่า MINI อยู่ที่แขนด้านซ้ายไว้เตือนความจำและคิดอยู่เสมอว่าจะต้องสู้ต่อไปเพื่อให้ครอบครัวอยู่สุขสบายให้ได้ แม้ว่าไม่ได้เล่นแบดมินตันถึง 2 ปี ซึ่งผมก็อยากเป็นโค้ชให้กับสโมสรแกรนนูลาร์ และฝึกซ้อมร่วมกับรุ่นน้องในค่ายเหมือนเดิม เพราะผมคงไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ เพราะชีวิตมีแต่กีฬานี้อย่างเดียวเท่านั้น หรืออาจจะมีทำอย่างอื่น ก็คงแล้วแต่ทางพี่ เจน ปิยะทัต”
ขณะที่ “ท็อป” ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ คู่หูคู่ซี้ที่เพิ่งจับคู่กันเมื่อต้นปี 2013 และอยู่ในเหตุการณ์ฉาวโฉ่ที่ แคนาดา กล่าวถึงรุ่นน้องวัย 23 ปีว่า “ผมเห็น อาร์ต ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เป็นคนเลือดร้อนแบบนี้แต่ไหนแต่ไร บางครั้งก็บ้าระห่ำทำอะไรก็ต้องทำให้ถึงที่สุด หากคุณท้าเขาจะใส่เกินร้อย เช่น ท้ากินพริกก็จะหยิบหนึ่งกำมือแล้วกินสดๆ ให้ดู ทำให้เป็นคนชอบกินอาหารเผ็ดตั้งแต่นั้นมา”
พร้อมกันนี้ ภควัฒน์ ได้เผยถึงความประทับใจอดีตตบขนไก่ชายคู่มือ 7 ของโลกรายนี้ว่า “ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า บดินทร์ เป็นคนที่น่าคบ แม้ว่าจะมีนิสัยรุนแรง แต่มีความเป็นมิตรและความเป็นสุภาพบุรุษ เขารักเพื่อนมาก สามารถเก็บความลับได้ ขณะเดียวกันยังปกป้องแทนอีกด้วย”
สุดท้าย “พี่เจน” เจน ปิยะทัต ประธานสโมสรแกรนนูลาร์ ที่รับช่วงดูแล “อาร์ต” บดินทร์ หลังแยกทางจากสมาคม กล่าวว่าเป็นคนที่มีระเบียบวินัยและไฮเปอร์มากกับการฝึกซ้อม “ผมกล้าการันตีเลยว่าอารมณ์ร้อนที่เกิดขึ้นจากนักกีฬาของผม เป็นเพียงแค่เปลือกนอกที่ทุกคนเห็นแวบแรกแล้วตัดสินทันที แต่จริงๆ แล้ว อาร์ต เป็นคนที่สนุกสนาน ถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนรัก ส่วนเรื่องโดนแบนและการหักเงินเดือน เราไม่นิ่งนอนใจและอาจจะให้เป็นโค้ชสโมสร ส่วนเรื่องครอบครัวทางเราก็อุปการะบุตรของนักกีฬาเรื่องค่าเทอมตลอดอยู่แล้ว”