ASTV ผู้จัดการรายวัน - นับถอยหลังอีกไม่กี่อึดใจการแข่งขันกีฬาระดับเอเชีย “เอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียล อาร์ต เกมส์” จะมีคิวเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ นอกจากทัวร์นาเมนต์นี้จะเป็นงานเตรียมความพร้อมต่างๆ ของเจ้าภาพก่อนรับศึกใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้าอย่าง เอเชียน เกมส์ ปี 2014 แล้ว ยังเป็นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องวัดศักยภาพนักกีฬาไทยด้วย ซึ่งปีนี้ไทยตั้งเป้าไว้ที่ 13 เหรียญทอง ส่วนจะมีกีฬาชนิดใดบ้างที่เป็นความหวังลองไปพิจารณากันได้ดังต่อไปนี้
ฟุตซอล
เป็นความหวังอันดับหนึ่งของทัพนักกีฬาไทยในการลุ้นเหรียญทอง “อินชอนเกมส์” ซึ่งความแข็งแกร่งของทีมโต๊ะเล็กทั้งชายและหญิงนั้นเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วเอเชีย โดยเฉพาะทีมชายภายใต้การคุมทีมของ วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ กุนซือเลือดดัตช์ เคยผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 3 ครั้ง (2005, 2007, 2009) ขณะที่ทีมหญิงของโค้ช พัทยา เปี่ยมคุ้ม ผลงานอุ่นเครื่องยอดเยี่ยมถล่ม ออสเตรเลีย ถึงถิ่น 2 นัดรวม 9-4 และ มาเลเซีย อีก 2 นัดรวม 15-3
สำหรับรอบแบ่งกลุ่มที่เพิ่งเปิดฉากเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ขุนพลโต๊ะเล็กทั้งสองทีมทำผลงานร้อนแรง โดยฝ่ายชายซึ่งอยู่กลุ่มบีร่วมกับ ภูฏาน และ มาเลเซีย ก็ประเดิมถล่ม ภูฏาน เละทะ 29-1 เล่นเอา เฮอร์มันส์ ยิ้มแก้มปริ ด้านฝ่ายหญิงที่อยู่กลุ่มเดียวกับ อิหร่าน, ฮ่องกง, เวียดนาม, มาเลเซีย ไม่น้อยหน้าอัด เวียดนาม 4-1 แม้ว่าจะพ่าย อิหร่าน 0-1 ในนัดที่สอง แต่ยังมีโอกาสแก้ตัวอีกมาก ขณะที่ ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นคู่ต่อกรที่แข็งแกร่งที่สุดยืนรออยู่ข้างหน้า แต่หากรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ต่อเนื่อง โอกาสลุ้นเหรียญทองคงไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม
มวยไทย
เกือบไม่ได้บรรจุเข้ารายการนี้เสียแล้ว สำหรับกีฬามวยไทย หลังฝ่ายจัดการแข่งขันเล็งนำชนิดกีฬาที่ชาติของตัวเองถนัดและมีลุ้นอย่าง เบสบอล กับ ซอฟท์บอล บรรจุลงไปมากกว่า แต่สุดท้าย ดร.ศักดิ์ชัย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือจากองค์กรกีฬาของไทยก็ทำให้เหล่าขุนพลนักชกไทยทั้งชายและหญิง ได้เข้าไปวาดลวดลายที่อินชอนในที่สุด ปีนี้บรรดานักชกที่ส่งขึ้นสังเวียนทั้งหมด 5 ราย ซึ่งมี อ.สุรัตน์ เสียงหล่อ รับหน้าที่เป็นเฮดโค้ช หมายมั่นปั้นมือกระชากเหรียญทองกลับมาคล้องคอทั้งหมด
ว่ายน้ำ
ถือเป็นกีฬาที่มีโอกาสลุ้นหยิบเหรียญทองเป็นเหรียญแรกของทัพกีฬาไทย ซึ่งเหล่าขุนพลเงือกหนุ่ม-สาวทีมชาติไทยที่ปีนี้ส่งดาวรุ่งลงสระเป็นส่วนใหญ่ หวังเหรียญทองติดมือ 2 รายการ ความหวังอันดับหนึ่งหนีไม่พ้น “เงือกอุ้ม” ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ที่จะลงชิงชัยในประเภท 50 เมตรหญิง ในวันแรก วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน ก่อนไปลุ้นกันต่อในประเภท 100 เมตรหญิงจาก “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด ท่ามกลางคู่ต่อสู้สุดหินอย่าง จีน, ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ที่พร้อมกระโจนล่าเหรียญในประเภทนี้เช่นกัน
สนุกเกอร์
ทัพนักกีฬาสนุกเกอร์ของไทย ภายใต้การดูแลของ “เฮียฮง” สุนทร จารุมนต์ ผู้จัดการทีมและมี “ต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ สอยคิวมือพระกาฬรับหน้าที่เป็นติวเตอร์ ส่งทีมชุดผสมนำโดยตัวเก๋าอย่าง “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล อดีตแชมป์โลกบิลเลียดปี 2542 ที่บินไปล่าเหรียญทองประเภทบิลเลียด พร้อมด้วยดาวรุ่งวัย 21 ปีอย่าง “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ ที่เพิ่งคว้าแชมป์เยาวชนเอเชียมาหมาดๆ ลงชิงชัยในประเภทสอยคิวชายเดี่ยว ซึ่งทัพคิวสปอร์ต วางเป้าไว้ที่ 1 เหรียญทองเป็นอย่างน้อย รวมถึงเหรียญเงินและทองแดงจากดาวรุ่งดวงอื่นๆ