“เฮียฮง” สุนทร จารุมนต์ ผู้จัดการทีมสนุกเกอร์ทีมชาติไทย มั่นใจฝีมือ “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล พิชิตเหรียญทองเอเชียน อินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ หลังคู่แข่งสำคัญเริ่มหมดสภาพ ล่าสุดเล็ง พูล 9-10 ลูก อาจเป็นม้ามืดคว้า 1 ใน 3
ความเคลื่อนไหวโค้งสุดท้ายทัพนักกีฬา “คิวสปอร์ต” ทีมชาติไทยชุดสู้ศึกเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย. - 6 ก.ค.นี้ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่สโมสรทีบีซี.สนุกเกอร์ฯ “เฮียฮง” นายสุนทร จารุมนต์ ผู้จัดการทีมชาติไทย และ “คิวทอง” ศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมฯ ได้เดินทางมากล่าวโอวาทและให้กำลังใจกับนักกีฬาทั้งหมด และขอให้ทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และดีที่สุด เพื่อนำความสำเร็จตามเป้าหมายกลับมาให้ได้ นอกจากนี้ยังได้ประกาศอัดฉีดให้เงินรางวัลแห่งความสำเร็จ เหรียญทอง 2 แสนบาท, เหรียญเงิน 1 แสนบาท และ เหรียญทองแดง 5 หมื่นบาท เทียบเท่ากับรัฐบาล
ทั้งนี้ “เฮียฮง” นายสุนทร เปิดเผยว่า ระยะเวลาอีก 10 กว่าวันที่เหลืออยากให้นักสอยคิวทีมชาติไทยทุกคนมีสมาธิกับเกมและตั้งใจฝึกซ้อมเต็มที่ เพราะเมื่อไปถึงสังเวียนการชิงชัยแล้วจะมาซ้อมหรือหาข้อแก้ตัวอีกไม่ได้ เนื่องจากมีเวลาฟิตซ้อมดูแลตัวเองมาหลายเดือนแล้ว ยิ่งกีฬาชนิดนี้เป็นที่คาดหวังของคนไทยทั้งชาติว่า จะคว้า 1 เหรียญทองกลับมา ดังนั้นทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ยิ่งนักสอยคิวชุดนี้เป็นการผสมผสานระหว่าง ตัวเก๋า กับ ดาวรุ่งที่มีประสบการณ์สูงในเวทีอาชีพโลก ย่อมทำให้คู่แข่งสำคัญอย่าง จีน, อินเดีย และ อิหร่าน เกรงกลัว อย่างไรก็ตามส่วนตัวจากที่ตัวเองติดตามผลงานการฝึกซ้อมของนักกีฬาชุดนี้มาตลอด มีความเชื่อมั่นว่า “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล อดีตแชมป์บิลเลียดโลก หรือ เจ้าของฉายา “ก้มเป็นลง” ที่ผ่านสังเวียนมาแล้วอย่างโชกโชน จะสามารถคว้าเหรียญทองให้กับสมาคมและประเทศชาติได้ แม้ว่า จะมีอายุมากแล้วก็ตามแต่ฝีมือชั้นเชิงต่างๆ ยังน่ากลัว
ที่สำคัญไปกว่านั้นเนื่องจากคู่แข่งสำคัญของ รมย์ อย่าง ปันกาด แอดวานนี่ นักแทงเบอร์ 1 ของอินเดีย ติดภารกิจสอยคิวอาชีพโลกที่อังกฤษ ขณะที่ ปีเตอร์ กิลคริสต์ อดีตแชมป์โลกชาวอังกฤษ ที่โอนสัญชาติมาเล่นให้กับสิงคโปร์ฝีมือตกต่ำไปมาก แถมช่วงหลังๆ ที่ปะทะฝีมือกัน รมย์ จับทางถูกเอาชนะมาได้ตลอด จะมีที่น่ากลัวอีกคนก็คือ ไมค์ รัสเซลล์ ที่โอนสัญชาติจากชาวเมืองผู้ดีไปเล่นให้กาตาร์เท่านั้นเอง แต่ไม่รู้ว่า จะมาได้หรือไม่ หากมาไม่ได้ก็เป็นโอกาสของ รมย์ ค่อนข้างสูง ส่วนสนุกเกอร์เรามี 2 นักแทงตัวชูโรง อย่าง “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ อดีตแชมป์เยาวชนโลก และ “แจ๊ค เชียงใหม่” สุพจน์ แสนหล้า อดีตแชมป์เอเชีย ที่จะลงในประเภททีมและบุคคลก็มีโอกาสคว้าเหรียญทองไม่ใช่น้อย ขอเพียงแค่ทั้งคู่ออกคิวให้ได้ตามฟอร์มและมาตรฐานที่ฝึกซ้อมมา คู่แข่งคงมี จีน กับ อินเดีย เท่านั้นเอง ยิ่งหนนี้ นพพล จากเดิมที่จะไม่ได้ลงแข่งขันเพราะติดแข่งอาชีพโลกอยู่ แต่เมื่อได้ตัวมาช่วยทีมทำให้ทุกอย่างดีขึ้นแน่
ขณะที่ “คิวทอง” นายศักดา ได้กล่าวว่า เวลานี้นักกีฬาทุกคนพร้อมเต็มที่ หากเปรียบเป็นม้าก็พร้อมจะวิ่งออกจากซองแล้ว หลายคนผ่านประสบการณ์เวทีระดับนี้มาอย่างโชกโชน นอกเหนือจากสนุกเกอร์ กับ บิลเลียด ที่เป็นความหวังหลักสำคัญของเราแล้ว ส่วนตัวยังมองว่า พูล 9-10 ลูก ที่มี “นัท แปดริ้ว” นิธิวรรธก์ กาญจนศรี, “ชิม ศิษย์ต่าย” กอบกิจ พลาจิณ, “ไอซ์ ทีบีซี” สิรภัทร ชิดชมนาท, อมรรัตน์ อ่วมด้วง, สิรภัทร ชิดชมนาท และ นิชา ปฐมเอกมงคล ก็มีโอกาสเป็นม้ามืดสอดแทรกคว้า 1 ใน 3 เหรียญใดเหรียญหนึ่งได้เช่นเดียวกัน หลังได้รับเทคนิคพิเศษจาก รามอน โอ มิสติกา โค้ชพูลชาวฟิลิปปินส์ทำให้ทุกคนพัฒนาดีขึ้นมาก เพียงแต่ในวันแข่งขันจริงจะมีโชคหรือดวงมาเกี่ยวข้องหรือไม่เท่านั้นเอง