"มาดามมล" นฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ กฎหมาย สวัสดิการ และ สิทธิประโยชน์ด้านการกีฬา หวั่นการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไม่โปร่งใส แนะให้มีการถ่ายทอดสดทางช่องทีสปอร์ต ที่เป็นสถานีของรัฐบาล และย้ายสถานที่ประชุมจากหนองจอกมาที่ หน่วยงานของรัฐบาล ชี้การกีฬาแห่งประเทศไทยต้องดูแลให้ยุติธรรม
นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ กฎหมาย สวัสดิการ และ สิทธิประโยชน์ด้านการกีฬา เปิดเผยว่า ทางคณะอนุกรรมการได้เชิญ นายสังเวียน บุญโต รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร มาร่วมประชุมหารือร่วมกันเกี่ยวกับ ปัญหาเรื่องสิทธิประโยชน์ของนักกีฬา และ การดำเนินงานของแต่ละสมาคมฯ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ นักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งในการเก็บตัว และรางวัลในการแข่งขันอย่างเต็มที่ เพื่อหวังให้เป็นหลักประกันที่ดีต่อไปในอนาคต ที่ห้องประชุม 104 อาคารรัฐสภา 2
สำหรับในเรื่องเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาต่างๆ ที่ประชุมจะมุ่งเน้นในสมาคมใหญ่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องการเลือกตั้ง อาจจะมีหลายสมาคมฯ แต่ก็ขอพูดถึง ฟุตบอล, มวย, ยิงปืน อยากให้เข้าใจว่า ทางคณะอนุกรรมการฯ ก็เข้าใจบทบาทของกกท.ต่อเรื่องของลิขสิทธิ์และสิทธิประโยชน์ จึงได้ เชิญทาง รองผู้ว่ากกท. สังเวียน บุญโต มาให้ข้อมูล เรื่องสิทธิประโยชน์ ต่างๆ โดยทาง กกท.ชี้แจงว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยว ถ้ามีเรื่องรายได้ ทุกอย่างจะอยู่ในความดูแลของแต่ละสมาคมฯ ที่จะต้องส่งเรื่องงบดุลให้กกท.ทุกๆ ปี ทางกกท.ไม่มีอำนาจเข้าไปดูแล ไปล้วงลึก และไม่มีบทบาท มีแต่อำนาจในการดูแลเฉพาะในเรื่องกฎหมาย ที่เกี่ยวกับพรบ.กีฬา เพราะฉะนั้นเรื่องสิทธิประโยชน์ กกท.จะเข้าไปดูแลอย่างเดียว แต่ไม่มีในเรื่องแบ่งประโยชน์ เพราะไม่มีกฎหมายกำหนดไว้
ส่วนเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่ยังไม่สรุปว่าวันไหน แต่ในวันที่ 15 มิ.ย.จะมีการประชุมอีกครั้ง ทางคณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าอาจจะมีการยุ่งยากเกิดขึ้นได้ สืบเนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เมื่อ 2 ปีก่อน มีการนำสารวัตรทหาร เข้ามาดูแลเยอะมาก นำทหารมาในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีมันดูไม่น่าเหมาะสม แต่ในครั้งนี้ เราเห็นว่าอาจจะมีความรุนแรง เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทางอนุกรรมาธิการ จึงได้แนะนำ ทางกกท. และ ทาง นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้เตรียมความพร้อม 2 ข้อ
ข้อแรก ย้ายสถานที่ประชุมจากหนองจอก ที่ทำการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มาอยู่ในสถานที่ราชการ และควบคุมบุคคลที่เข้าประชุม เน้นสโมสรสมาชิก ที่ส่งชื่อให้กกท. โดยนายทะเบียนของสมาคมฯ จะเป็นคนตรวจรายชื่อส่งให้ทางกกท.ดูแล อีกที จะมีกรรมการต่างๆ คอยกำกับดูแลให้เหมาะสม เรื่องที่ 2 ให้มีการถ่ายทอดไปสู่ประชาชนและสังคม เพื่อให้มีความสนใจ โดยใช้ทีวีของรัฐ เพื่อไม่ให้สับสนในการนำเสนอ ก็คือ ทีสปอร์ต ให้เป็นตัวกลางที่จะบันทึกเหตุการณ์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานในการจัดการเลือกตั้งที่อาจจะมีปัญหาภายหลัง อันนี้จะใช้เทคโนโลยีที่จะช่วยบริการในความโปร่งใส ทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้หมด ทางคณะอนุกรรมการฯ จะทำหนังสือไปถึงผู้ว่าฯ กกท. ให้ทางสมาคมฯ ส่งจดหมายแจ้งสมาชิกสโมสรล่วงหน้า 7 วัน ก่อนการประชุมเลือกตั้งจะเริ่มขึ้น เพื่อให้การประชุมที่มีปัญหาได้เคลียร์ เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง ไม่งั้นเสียหายกกท.ที่กำกับดูแลสมาคมกีฬาว่าไม่มีน้ำยา และทำให้วงการกีฬาเสื่อม ถ้าเกิดปัญหาการกระทบกระทั่งของทั้ง 2 ฝ่าย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการนำเสนอข่าว ที่มีข่าวว่าการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลครั้งนี้จะต้องให้ประธานสโมสรมาเอง ห้ามไม่ให้ตัวแทนมาประชุมแทน ไม่สามารถทำได้ ไม่สามารถจำกัดสิทธิของบุคคลหรือองค์กร ที่มีสิทธิมอบอำนาจได้ ถ้ามีการมอบเอกสารครบก็จะประชุมได้ จะมาบอกว่าห้ามมอบอำนาจ เพราะเป็นกติกาของฟีฟ่า สมาคมฟุตบอลฯ จะทำแบบนี้ได้อย่างไร เพราะเป็นสิทธิขององค์กรที่จะทำได้ ถ้ามีเอกสารครบใครก็ห้ามไม่ได้ ทางกกท.ต้องทำให้ชัดเจน ถ้ามีกฎแบบนี้จะทำให้เกิดความสับสน เพราะฉะนั้นการปล่อยข่าวแบบนี้ทำให้สมาชิกสโมสรเกิดความสับสน กกท.ต้องมีความชัดเจนและกำกับดูแลในจุดนี้