ลำปาง - ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย สั่งผู้ว่าฯ ลำปาง ชะลอจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาจังหวัดลำปาง หลังแกนนำเสื้อแดงร้องประชุมใหญ่สมาคมฯมีพิรุธ ทำ “ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร” นักการเมืองใหญ่ฝันค้างนั่งนายกสมัย 3
รายงานข่าวแจ้งว่า นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางให้ชะลอการจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาจังหวัดลำปางออกไปก่อนจนกว่า กกท.จะรับรอง
โดยระบุว่า เนื่องจากในการประชุมใหญ่ และเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาจังหวัดลำปาง เมื่อ 13 มี.ค.56 ที่ผ่านมา โดยทาง กกท.ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยนั้น ปรากฏว่ามีกลุ่มที่อ้างว่าเป็นสมาชิกของสมาคมฯ จำนวนหนึ่ง นำโดยนายดาชัย อุชุโกศลการ ประธานสโมสรฟุตซอลลำปางยูไนเต็ด แกนนำคนเสื้อแดงที่กำลังเดินเครื่องทางการเมืองใหม่ในนามกลุ่ม “พรรคพลังลำปาง” มาชุมนุมด้านหน้าสำนักงานสมาคมกีฬาจังหวัดลำปาง เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้แทนของ กกท.ให้ชะลอการเลือกตั้งนายกสมาคมฯออกไปก่อน และต้องการเข้าร่วมประชุมด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในอาคารของสมาคมฯ จนกระทั่งมีกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น ขณะที่ภายในอาคารฯ มีการเลือกนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร อดีตนักการเมืองใหญ่ลำปาง เป็นนายกสมาคมฯ สมัยที่ 3 โดยมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมเพียง 15 คนจาก 15 แห่งเท่านั้น
ทั้งนี้ กกท.ระบุในหนังสือว่า มีข้อสงสัยในหลายประเด็นที่จะต้องให้ทางสมาคมชี้แจงเพิ่มเติม คือ
1. ในประชุมในวันดังกล่าวมีวาระการประชุมเกี่ยวกับการรับรองงบดุล การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาจังหวัดลำปาง โดยผู้แทนของ กกท.ได้ขอให้ทางสมาคมฯ ตรวจสอบสถานะสมาชิกภาพของสมาคมทั้งหมดก่อน เนื่องจากการประชุมต้องมีสมาชิกครบองค์ประชุม ประกอบกับตามระเบียบวาระการประชุมต้องมีการรับรองงบดุลและวาระการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2528 มาตรา 57 ประกอบกับการที่คณะกรรการของสมาคมดำรงตำแหน่งกรรมการเกิน 2 ปี และต้องการดำรงตำแหน่งกรรมการในวาระที่ 3 ต้องมีสมาชิกรับรองคะแนนเสียง 3 ใน 4 ของสมาชิกทั้งหมด แต่เมื่อพิจารณารายชื่อของสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมขณะนั้น เห็นได้ว่ามีจำนวนสมาชิกสามัญเพียง 15 แห่งเท่านั้น โดยสมาชิกสามัญบางแห่งมีคุณสมบัติ ไม่เป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมฯ แต่สมาคมฯ มิอาจชี้แจงข้อเท็จจริงได้ว่าขณะปัจจุบันสมาคมฯ มีจำนวนสมาชิกที่มีคุณสมบัติตามข้อบังคับของสมาคมฯ ทั้งหมดเท่าใด และแยกออกเป็นแต่ละประเภทเท่าใด หลักเกณฑ์ วิธีการในการรับสมัครสมาชิกเป็นเช่นใด
2. จำนวนบุคคลที่มาประชุม เพื่อเรียกร้องสิทธิในฐานะสมาชิกขอเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 ของสมาคมฯ แต่ไม่ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมประชุม ซึ่งตามข้อบังคับของสมาคมฯ ในการประชุมใหญ่ประจำปี สมาชิกมีสิทธิและหน้าที่ในการเข้าร่วมประชุม
3. จากพยานเอกสารซึ่งทางสโมสรฟุตซอลลำปางยูไนเต็ด ลงวันที่ 11 ก.พ. 2556 ถึงผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เรื่องขอให้ตรวจสอบการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาจังหวัดลำปาง ในวันที่ 13 มีนาคม 2556 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบริสุทธิ์ยุติธรรม เบื้องต้นรับฟังได้ว่า มีการยื่นใบสมัครและรับเป็นสมาชิกของสมาคมกีฬาจังหวัดลำปาง แต่เมื่อถึงวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 บุคคลดังกล่าวที่มีรายชื่อกลับไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้
ดังนั้น กกท.เห็นว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 ของสมาคมฯ อาจไม่เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมาย กล่าวคือ มีการกีดกันความเป็นสมาชิกของบุคคล ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของ กกท. และคุณสมบัติของสมาชิกจำนวนสมาชิกที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด สมาคมฯไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงถือได้ว่า การกระทำของสมาคมฯฝ่าฝืนข้อบังคับของ กกท.และข้อบังคับของสมาคมกีฬาจังหวัดลำปาง
ดังนั้น จึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางชะลอการรับจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาจังหวัดลำปางออกไปก่อน จนกว่าจะได้รับการรับรองจาก กกท.
ขณะเดียวกัน กกท.ยังได้ส่งหนังสืออีกฉบับไปถึงนายกสมาคมกีฬาจังหวัดลำปาง ซึ่งในวันที่ 13 มีนาคม 2556 นั้นสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมจำนวน 15 คน ได้มีมติเอกฉันท์ให้นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร เป็นนายกสมาคมฯ สมัยที่ 3 ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับสมัครสมาชิก หลักเกณฑ์ วิธีการ พิจารณา คุณสมบัติของสมาชิก รวมทั้งจำนวนสมาชิกทั้งหมดจนถึงวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 และขอให้ชะลอการยื่นจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาจังหวัดลำปางออกไปก่อนจนกว่าจะได้รับการรับรองจาก กกท.เช่นกัน
ด้านนายดาชัยได้ให้สัมภาษณ์ว่า กรณี กกท.มีหนังสือให้ชะลอการจดทะเบียนกรรมการสมาคมฯ แสดงให้เห็นแล้วว่า ในวันที่มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ไม่โปร่งใสและไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งดูได้จากการบันทึกรายงานการประชุมซึ่งนายแสงชัย ต้นทัพไทย นิติกร 6 ผู้แทน กกท.เข้าร่วมประชุมด้วยได้มีการแย้งเอาไว้
ดังนั้น ตนกับบุคคลต่างๆ ที่ได้สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมฯ จำนวน 42 คน ที่สมาคมฯไม่รับรองนั้น จะรอติดตามการทำงานของ กกท. และจะดูการชี้แจงของสมาคมฯ ว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคงใช้เวลาประมาณ 30 วัน แต่ทั้งนี้ตนมั่นใจว่า กกท.จะต้องให้สมาคมฯ เลือกตั้งนายกสมาคมฯ ใหม่อย่างแน่นอน
