“เซราะกราว” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รับทรัพย์อื้อซ่าการันตีแล้วกว่า 30 ล้านบาท ตามระเบียบของเงินรางวัล ค่าเดินทาง และค่าขายบัตร ของสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) หลังผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2013 ซึ่งสูงกว่าเงินรางวัลทีมชนะเลิศศึกไทยพรีเมียร์ลีก ที่จะได้ 10 ล้านบาท ร่วม 3 เท่า
หลังจากที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากประเทศไทย โชว์ฟอร์มเยี่ยม ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2013 ได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ส่งผลให้ขุนพลเซราะกราว ยังการันตีการรับทรัพย์อื้อซ่า ตามระเบียบของสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี)
เริ่มจากในส่วนของเงินรางวัล ตั้งแต่รอบแรก ซึ่งทีมชนะได้ 40,000 เหรียญสหรัฐฯ และ เสมอได้ทีมละ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ นั้น ผลงานบุรีรัมย์ ในกลุ่มอี ชนะ 1 เสมอ 4 แพ้ 1 รวมแล้วจะได้ไป 120,000 เหรียญสหรัฐฯ, สำหรับทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ไป 50,000 เหรียญสหรัฐฯ และ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายอีก 80,000 เหรียญสหรัฐฯ เท่ากับว่า ตอนนี้ บุรีรัมย์ ได้เงินรางวัลของการแข่งขันแล้ว 250,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7,500,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีเงินสนับสนุนค่าเดินทาง สำหรับทีมเยือน ซึ่งทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ได้รับตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม (รอบเพลย์ออฟ บุรีรัมย์ ได้เล่นในบ้าน) เอเอฟซี จัดให้นัดละ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ รวมการไปเยือน 3 นัด 90,000 เหรียญสหรัฐฯ บวกกับรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ได้ค่าเดินทางนัดละ 40,000 เหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ ปราสาทสายฟ้า เข้ารอบไปแล้ว ก็จะได้ค่าเดินทาง 50,000 เหรียญสหรัฐฯ รวมค่าเดินทางที่ได้แน่ๆ คือ 180,000 สหรัฐฯ หรือ 5,400,000 บาท
ทำให้ถึงเวลานี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะได้เงินจากการแข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2013 แน่นอนแล้ว 430,000 เหรียญสหรัฐฯ (เงินรางวัล 250,000 เหรียญสหรัฐฯ+ค่าเดินทาง 180,000 เหรียญสหรัฐฯ) หรือประมาณ 12,900,000 บาท สูงกว่าเงินรางวัลทีมชนะเลิศศึกไทยพรีเมียร์ลีก ที่จะได้ 10 ล้านบาท
ส่วนเงินรางวัลที่ยอดทีมจากแดนอีสานของไทย มีโอกาสได้เพิ่มอีกคือ หากผ่านรอบ 8 ทีม ทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ จะได้ 120,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3,6000,000 บาท ถ้าเลยเถิดถึงแชมป์จะได้ 1,500,000 เหรียญสหรัฐฯ (45,000,000 บาท) หรือถ้าได้รองแชมป์ ยังรับเบาะๆ 750,000 เหรียญสหรัฐฯ (22,500,000 บาท) ขณะที่เงินสนับสนุนค่าเดินทางรอบรองฯ กับรอบชิงฯ ได้นัดละ 60,000 เหรียญสหรัฐฯ รวม 120,000 เหรียญสหรัฐฯ (3,600,000 บาท) รวมเงินที่รออยู่ในกรณีสูงสุดที่ถึงแชมป์คือ 1,740,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 52,200,000 บาท
หมายความว่าถ้า “เซราะกราว” ได้แชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2013 จะได้รับเงินรวมแล้ว 2,170,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือมหาศาลถึง 65,100,000 บาท ทั้งนี้ ยังไม่รวมค่าตั๋วเข้าชม ซึ่งจะแบ่ง 70 เปอร์เซ็นต์สำหรับเจ้าบ้าน, 20 เปอร์เซ็นต์ ของทีมเยือน และ 10 เปอร์เซ็นต์ เข้าเอเอฟซี (ยกเว้นนัดชิงฯ) ที่ตอนนี้เก็บได้รวมแล้วเป็นเงินทั้งหมด 30,447,200 บาท จากการเล่นในสนาม นิว ไอ-โมบาย สเตเดียม ทั้ง 5 นัด แบ่งเป็น บริสเบน โรอาห์ (รอบเพลย์ออฟ) 3,234,850 บาท, รอบแบ่งกลุ่ม พบ เอฟซี โซล 3,501,300 บาท, เจียงซู เซียนตี 3,278,050 บาท, เวกัลตะ เซ็นได 3,860,800 บาท และในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่เปิดบ้านพบกับ บุนยอดกอร์ อีก 3,672,200 บาท รวมเป็น 17,547,200 บาท เมื่อรวมกับค่านัดต่อนัดและค่าเข้ารอบที่ เอเอฟซี มอบให้ จะเป็นเงินทั้งหมด 30,447,200 บาท เลยทีเดียว