xs
xsm
sm
md
lg

ชัดเจน! “ส.บอล” เปลี่ยนกฎต้องใช้มติ 2 ใน 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ต้องมีมติรับรอง 2 ใน 3
การกีฬาแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าการที่สมาคมกีฬาจะสามารถเปลี่ยนธรรมนูญข้อบังคับนั้นสามารถทำได้แต่ต้องมีมติรับรองจากสโมสรสมาชิกจำนวน 2 ใน 3 แย้มหากมีข้อพิพาทสโมสมาชิกสามารถยื่นตรวจสอบต่อศาลปกครองได้

สืบเนื่องจากที่ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมเปลี่ยนธรรมนูญข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯ โดยมีหัวข้อสำคัญอย่างการเพิ่มวาระดำรงตำแหน่งจาก 2 เป็น 4 ปี และ ลดจำนวนสิทธิ์สโมสรสมาชิกลงจาก 184 เสียง เหลือ 72 เสียง เพื่อจะใช้ในการเลือกตั้งนายกสมาคมฯวาระใหม่วันที่ 15 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ โดยอ้างว่าให้เป็นไปตามาสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา หากไม่ปฏิบัติอาจเกิดปัญหาถูกสั่งห้ามเข้าร่วมสังฆกรรมกับลูกหนังโลก

ด้าน นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว MGR Sport ถึงเรื่องการเปลี่ยนข้อบังคับว่า “การที่สมาคมกีฬาจะเปลี่ยนธรรมนูญข้อบังคับของสมาคมฯนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องได้รับรองจากสโมสรสมาชิกด้วยมติ 2 ใน 3 ขณะที่การเปลี่ยนวาระการดำรงตำแหน่งจาก 2 เป็น 4 ปีนั้นต้องสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการกีฬา ซึ่งผมคาดว่าฉบับแก้ไขน่าจะคลอดออกมาในปีหน้า 2557 จึงทำให้ตอนนี้ยังไม่สามารถเปลี่ยนกฎดังกล่าวได้”

พร้อมกันนี้ “รองฯมนตรี” ได้ตอบคำถามถึงกระแสข่าวเรื่องที่ “บังยี” แย้มว่าอาจจะมีการเลื่อนวันเลือกตั้งนายกบอลไทยออกไปว่า “ในเรื่องที่สมาคมฟุตบอลฯจะเลื่อนการเลือกตั้งนั้นผมยังไม่ทราบข่าว และยังไม่ได้รับแจ้ง แต่ทั้งนี้หากไม่เป็นไปตามกฎ หรือสโมสรสมาชิกไม่เห็นด้วยจนเกิดข้อพิพาทสามารถยื่นเรื่องตรวจสอบมายัง กกท.หรือ ศาลปกครองได้ เนื่องจากมีสมาคมฯมีคำว่าแห่งประเทศไทยต่อท้าย จึงอยู่ภายใต้หน่วยงานทางปกครอง”

ทั้งนี้สำหรับธรรมนูญข้อบังคับใหม่ที่ทางสมาคมฟุตบอลฯเตรียมประกาศใช้นั้น ได้รับการรับรองจากสโมสรสมาชิกในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 จำนวน 55 เสียง และไม่รับรอง 48 เสียง โดย วรวีร์ เตรียมเชิญตัวแทนของ ฟีฟา และ กกท.มาร่วมประชุมเพื่อหารือเรื่องดังกล่าวในวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ (สนามศุภชลาศัย) เวลา 14.00 น.
มนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าฯกกท.ยืนยัน
กำลังโหลดความคิดเห็น