“บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไม่ปลื้มผลงานของ วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย หลังเทรนเนอร์เยอรมัน มีความขัดแย้งกับหลายฝ่าย จนทำให้การทำงานไม่ราบรื่น จึงมีความเห็นว่าควรยกเลิกสัญญาแยกทางต่อกัน โดยจะมีการพูดคุยและได้ข้อสรุปที่แน่นอน ในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
กรณีของ “วินนี” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ชาวเยอรมัน ที่อนาคตยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้คุมทีมชาติไทยตอ่ไปหรือไม่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยว่าได้มีการพูดคุยกับทางกุนซือเชเฟอร์บ้างแล้ว โดยตนได้อธิบายให้เขาฟังถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของความขัดแย้งที่เจ้าตัวมีกับหลายฝ่ายๆ ทำให้การทำงานไม่ราบรื่น ทางที่ดีควรจะบอกยกเลิกสัญญาแยกทางกันไปดีกว่า ซึ่งเขาเองก็จะได้มีโอกาสไปหางานใหม่ทำด้วย
โดยเรื่องนี้ทั้งสมาคมฟุตบอลฯ และวินนี จะได้ข้อสรุปที่แน่นอนในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ตามสัญญาที่เคยกระทำกันไว้ว่าหลังผ่านเดือน 6 ของปี 2013 ไปแล้วทั้ง 2 ฝ่ายสามารถทบทวนสัญญาซึ่งกันและกันได้ ส่วนเรื่องเฮดโค้ชคนใหม่คงไม่เหมาะที่จะพูดในตอนนี้ แต่ในการยกทีมไปอุ่นเครื่องตามฟีฟาเดตกับทีมชาติจีน ในวันที่ 15 มิ.ย.สมาคมฟุตบอลฯอาจมอบหมายให้กุนซือ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นำทีมซีเกมส์ผสมชุดใหญ่เดินทางไปเตะที่เมืองนานกิง ประเทศจีน
พร้อมกันนี้ “บังยี” ได้เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวในการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 มิ.ย.ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้วิธีการเลือกตั้งในรูปแบบใดระหว่างแบบเดิมที่เคยเลือกกันมา หรือจะเป็นรูปแบบใหม่ตามธรรมนูญของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟา” ว่าทุกอย่างจะมีความชัดเจน หลังจากตัวแทนของ ฟีฟา เดินทางมาประชุมหารือร่วมกันกับ สมาคมฟุตบอลฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งจะได้ข้อสรุปว่าการเลือกตั้งนายกฟุตบอลในคราวนี้จะใช้รูปแบบใด
ซึ่งหากเป็นไปตามที่ฟีฟ่ากำหนด วันที่ 15 มิ.ย.ก็อาจจะยังไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ต้องรอให้ทางฟีฟาเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้งให้อีกครั้ง เพราะตามธรรมนูญใหม่ของฟีฟา การเลือกตั้งจะไม่ได้เลือกแค่นายกสมาคมฟุตบอลคนเดียวเหมือนที่ผ่านมา แต่ต้องเลือกทั้งอุปนายกสมาคม และสภากรรมการทั้งหมด ยกเว้นเลขาธิการสมาคม ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวที่ต้องมีการว่าจ้างเหมือนอย่าง เลขาฯฟีฟา หรือ เลขาฯเอเอฟซี ที่เราเห็นกัน
“ถ้าวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ไม่มีการเลือกตั้ง ตนก็คงจะถือโอกาสเรียกประชุมใหญ่สโมสรสมาชิกสมาคมฟุตบอลฯทั้งหมด เพื่อทำความเข้าใจถึงรายละเอียดและกติกาการเลือกตั้งตามธรรมนูญใหม่ของฟีฟา รวมทั้งแจ้งอย่างเป็นทางการว่าจะมีสโมสรใดบ้างที่มีสิทธิในการลงคะแนน ส่วนสโมสรที่เหลือซึ่งโดนตัดสิทธิไปจะยังเหลือสิทธิใดบ้างในการดำเนินกิจกรรมกับสมาคม” นายกวรวีร์ กล่าว
ส่วนคำถามที่ว่าหากการเลือกตั้งในครั้งนี้ สมาคมฟุตบอลฯไม่ยอมดำเนินการให้เป็นไปตามธรรมนูญฟีฟาแล้วจะเป็นอย่างไร “บังยี” เผยว่า ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ตนจะบินไปประชุมฟีฟาที่เกาะมอรีเชียส ซึ่งวาระสำคัญก็คือเรื่องของการแจ้งข้อบังคับการเลือกตั้งของสมาคมฟุตบอลชาติต่างๆ ให้เป็นไปตามแนวทางของฟีฟาเหมือนกันทั้งหมด
โดยในส่วนของสมาคมลูกหนังไทยเราหากไม่มีการเปลี่ยนแปลง อนาคตทาง “ฟีฟา” เขามีสิทธิที่จะสั่ง “แบน” ไม่ให้เราเข้าร่วมกิจกรรมในระดับนานาชาติได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นวงการฟุตบอลไทยจะลำบาก