ASTV ผู้จัดการายวัน - “แจ๊ค สระบุรี” หรือ เดชาวัต พุ่มแจ้ง ชื่อนี้ถือว่ากลับมาปลุกกระแสสนุกเกอร์เมืองไทยที่กำลังซบเซาให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 2 ศึกชิงแชมป์โลก “เบทแฟร์ เวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิป” ที่ ครูซิเบิล เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ด้วยการคว่ำ สตีเฟน แม็คไกวร์ มือ 5 ของโลกชาวสกอต ก่อนจะแพ้ ไมเคิล ไวท์ ดาวรุ่งจากเวลส์ นอกจากนี้ยังทำให้ทั่วโลกจดจำนักสอยคิวรายนี้ได้เป็นอย่างดีจากลีลาการแทงส่วนตัวที่ค่อนข้างผ่อนคลายต่างกับคนอื่นทั่วไป อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้หากต้องการจะไปได้ไกลกว่าบนเส้นทางบนโต๊ะสักหลาดจำต้องนำประสบการณ์ที่ได้มาปรับปรุงและต่อยอดสู่ปีหน้าต่อไป
เดชาวัต คือนักสนุกเกอร์ไทยรายที่ 3 ต่อจาก วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ซึ่งเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ 2 ครั้ง และ ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ หรือ “ต่าย พิจิตร” ตกรอบแรก ที่ได้ลงแข่งขันในรายการยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งตอนนี้ถือว่าสามารถผ่านด่านแรกไปได้แล้ว แต่สิ่งที่จะทำให้แฟนสอยคิวทั่วโลกตราตรึงคงเป็นเรื่องของฝีมือมากกว่าเพียงแค่อากัปกิริยาหรือรอยยิ้ม แม้ “แจ๊ค” จะบอกว่าเป็นบุคลิกส่วนตัวและไม่อยากเครียดเพื่อกดดันตัวเองก็ตาม ทว่าลีลาแบบนี้คงยากที่จะประสบความสำเร็จ หากเข้าถึงรอบลึกๆ เจอมือระดับเขี้ยวลากดินและต้องแข่งระบบเฟรมมากขึ้น
ทำให้ทางด้าน “คิวทอง” ศักดา รัตนสุบรรณ ยอดเกจิของวงการสอยคิวไทย ต้องออกมาแนะนำพร้อมเผยว่าเคยโทรศัพท์ทางไกลไปสอนว่า “อย่าทำกิริยาจนเกินงาม เช่น การปรบมือให้ตัวเอง เพราะสนุกเกอร์เป็นกีฬาสำหรับสุภาพบุรุษแล้ว ดังนั้นอาจจะถูกมองได้ว่าเป็นการดูถูกคู่แข่งได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นการเล่นสนุกจนเกินไปจะทำให้กลายเป็นตัวตลกของผู้ชมเสียมากกว่า รวมทั้งการแต่งตัว เรื่องขัดรองเท้าให้ดูสะอาดเรียบร้อยก็จำเป็นเหมือนกัน แม้ว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็ไม่ควรมองข้าม”
ต่อมาคือสมาธิ ซึ่งทางสอยคิวมือ 67 ของโลกชาวไทยก็ยอมรับเช่นกันว่ามีหลุดบ้างในการแข่งขันระดับโลกเช่นนี้ เพราะเสียงเชียร์ในสนามแข่งขันทำให้รู้สึกประหม่า ซึ่งทางด้าน “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” สอยคิวรุ่นพี่อดีตมือ 3 ของโลกและยังเป็นคู่ซ้อมได้ออกมาแนะนำว่า “ถือเป็นครั้งแรกที่ แจ๊ค ได้เข้ามาแข่งขันสนุกเกอร์ย่อมรู้สึกประหม่าเป็นธรรมดากับเสียงเชียร์ที่เราเสียเปรียบ แต่จะอยากแนะนำให้ลองนั่งสมาธิสัก 30 นาทีก่อนนอน เพื่อรวบรวมและทบทวนสิ่งที่ได้ฝึกซ้อมมาแต่ละวันว่ามีจุดที่จะต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง เพราะสมัยที่ตนไปเล่นที่อังกฤษก็ลองใช้ดูแล้วและได้ผลเหมือนกัน”
ทั้งนี้ “ต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ ผู้ฝึกสอนสนุกเกอร์ทีมชาติไทย มองว่าจุดอ่อนของ “แจ๊ค สระบุรี” คือการเล่นลูกยาว ที่นักสนุกเกอร์ระดับโลกมักประสบพบเจอไม่เว้นแม้กระทั่ง รอนนี โอ ซุลลิแวน อดีตมือ 1 ของโลกชาวอังกฤษ “นับเป็นปัญหาที่ทุกคนประสบกันแทบทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาระดับโลกหรือระดับสมัครเล่น แต่อยากจะแนะนำว่า เมื่อเจอจังหวะบังคับให้ต้องเล่นยาวจริงๆ ควรจะเน้นการแทงให้รัดกุมที่สุดอย่าใจร้อนชิงแทงทันที เพราะโอกาสที่จะพลาดมีสูงมาก ส่วนลูกกันของ แจ๊ค นั้นไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนัก เพราะถือว่าเป็นคนที่มีฝีมืออยู่แล้วเห็นได้จากรอบแรกกับ แม็คไกวร์ แต่ต้องหมั่นฝึกซ้อมก่อนที่จะลุยสนุกเกอร์อาชีพในฤดูกาลหน้า”
สำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกฤดูกาล 2013-14 “แจ๊ค สระบุรี” ยังได้โอกาสไปแข่งขันในอีก 1 ฤดูกาล เนื่องจากสหพันธ์บิลเลียดและสนุกเกอร์นานาชาติ ได้ปรับเปลี่ยนกติกาใหม่ ให้ผู้ได้สิทธิ์แข่งขันสามารถลงเล่นได้ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬารายใหม่ได้ทำผลงานและมีคะแนนสะสมอันดับโลกได้อย่างต่อเนื่อง แต่จากนั้นจะต้องทำอันดับให้ไม่ต่ำกว่า 64 ของโลกจึงจะสามารถเล่นต่อได้อีกฤดูกาล