ชีค ซาลมาน อัล-คาห์ลิฟา จากบาห์เรน แซงเข้าวินนั่งเก้าอี้ประธานสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี คนใหม่ด้วยคะแนนท่วมท้น 33 เสียง ในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี จากประเทศไทย มีเพียง 7 เสียง
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2556 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เวลา 10.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี จัดการประชุมใหญ่ “AFC EXTRAORDINARY CONGRES 2013” โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งประธานคนใหม่ที่จะมารับไม้ต่อจาก โมฮัมหมัด บิน ฮัมมัม ประมุขคนเก่าชาวกาตาร์ ที่ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา ลงดาบแบนตลอดชีพจากปัญหาทุจริต ข้อหาคอร์รัปชันและติดสินบนเมื่อปี 2011
สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้มี เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมีชาติสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 46 เสียง จาก 47 ประเทศ และมีผู้ลงสมัครทั้งสิ้น 3 ราย คือ ซาลมาน อัล-คาห์ลิฟา จากบาห์เรน, ยูซุฟ อัล-เซอร์คัล จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดย ดร.ฮาเฟซ อิบราฮิม อัล-เมดเล็จ จากซาอุดีอาระเบีย ได้ถอนตัวไปก่อนหน้า
ผลปรากฏว่าเป็น ชีค ซาลมาน อัล-คาห์ลิฟา จากบาห์เรน ที่แซงเข้าวินคว้าชัยชนะตั้งแต่รอบแรกด้วยคะแนนท่วมท้น 33 เสียง ตามมาด้วย “บังยี” วรวีร์ มะกูดี 7 เสียง และ ยูซุฟ อัล-เซอร์คัล จากยูเออี 6 เสียง โดย อัล-คาห์ริฟา จะเป็นประธานคนที่ 10 และมีวาระการดำรงตำแหน่งถึงปี 2015
พร้อมกันนี้นายกสมาคมฟุตบอลบาห์เรน ยังได้รับการชูมือในการโหวตตำแหน่งบอร์ดฟีฟา (ปี 2013-2017) ควบคู่ไปด้วยด้วยเช่นกัน ส่วน รองประธานเอเอฟซี ฝ่ายหญิง (2013-2017) มีลงเพียงคนเดียวคือ โมยา ดอดด์ จากออสเตรเลีย
สำหรับ อัล-คาห์ลิฟา มีตำแหน่งเป็นประธานสมาคมฟุตบอลของบาห์เรน ที่มีเชื้อสายราชวงศ์ และเคยทำหน้าที่ประธานกรรมการด้านระเบียบวินัยของ เอเอฟซี และ รองประธานกรรมการด้านระเบียบวินัยของ ฟีฟา รวมถึงเป็น 1 ในผู้สมัครประธานเอเอฟซีครั้งที่แ้ล้วก่อนที่จะพ่ายไปอย่างหวุดหวิด