“วินนี” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ไม่สนกระแสข่าวโดนปลด สั่งการทีมงานถอดความโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นภาษาไทย หวังที่จะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป โดยมีเป้าหมายไปเล่นศึกฟุตบอลชิงแชมป์โลก ปี 2018 และ 2022
แม้จะมีกระแสข่าวครึกโครมว่า นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาหาช่องทางเพื่อยกเลิกสัญญา วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย หลังทำผลงานไม่เป็นที่น่าประทับใจ แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2556 “วินนี” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ของตนเองว่าหวังที่จะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป โดยมีเป้าหมายที่ผ่านเข้ารอบศึกฟุตบอลชิงแชมป์โลก ปี 2018 และ 2022
พร้อมกันนี้กุนซือชาวเยอรมัน ยังได้เรียกร้องให้ สมาคมฟุตบอล, บริษัท ไทยพรีเทียร์ลีก และทีมชั้นนำ ร่วมมือกันร่วมกันแสดงความรับผิดชอบ เริ่มต้นการปฏิรูป และเปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลไทย โดยข้อความดังกล่าวมีดังนี้
ฟุตบอลชิงแชมป์โลกปี 2018 และ 2022
ปลุกศักยภาพเยาวชนของเรา
เราอยากที่จะปฏิวัติฟุตบอลของประเทศไทย และพัฒนากีฬาชนิดนี้สำหรับปีต่อไปในภายภาคหน้า เพื่อที่จะก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในชาติแนวหน้าในทวีปเอเชียที่ได้รับการยอมรับจากวงการฟุตบอลระดับโลก ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลกในปี 2018 และ 2022 นั้นควรจะเป็นเป้าหมายอันใกล้ของเรา การผ่านเข้ารอบสำหรับทัวร์นาเมนท์ทั้งสอง รวมถึงการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งเคียงคู่กับชาติมหาอำนาจฟุตบอลต่างๆ นั้นอาจจะดูเหลือเชื่อในวันนี้ แต่เราต่างก็ดีรู้ว่าประเทศไทยก็มีศักยภาพที่จะก้าวไปสู่จุดหมายจุดนั้นได้
เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย เราต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงและเริ่มต้นการปฏิรูปที่แท้จริง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ บริษัทไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก และทีมฟุตบอลลีกชั้นนำ ต้องร่วมกันแสดงความรับผิดชอบ เพื่อที่จะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในวงการฟุตบอลไทย
จากประเทศๆ หนึ่งที่ประชาการส่วนใหญ่หลงใหลในเกมกีฬาฟุตบอล ทำให้ประเทศไทยไม่เคยจะขาดเด็กที่ฝันว่าตัวเองเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต แต่สำหรับเด็กๆ เหล่านี้ เพื่อที่จะทำฝันนี้ให้เป็นจริง เช่นกันกับฝันของเราที่ใหญ่ไม่แพ้กับพวกเด็กๆ เราต้องการที่จะสร้างสภาพแวดล้อมและระบบระเบียบที่จะมาสนับสนุนและพัฒนาเยาวชนดาวรุ่งเหล่านี้ให้กลายมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
เราเชื่อว่ากุญแจสู่การปฏิรูปที่สำเร็จได้นั้นคือการพัฒนาระบบเยาวชนในสโมสรฟุตบอล รวมทั้งการก่อตั้งการแข่งขันฟุตบอลลีกระดับเยาวชน บทบาทของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก คงจะต้องก่อร่างและประกาศใช้กระบวนการที่ได้มาตรฐาน โดยอิงการพัฒนาเยาวชนแบบมุ่งไปข้างหน้าและเป็นไปอย่างมืออาชีพ
เพื่อส่งเสริมแผนนี้ เราต้องการข้อตกลงในความร่วมมือกันระหว่างสโมสรฟุตบอล ภาครัฐบาล และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รวมทั้งองค์กรขนาดใหญ่ทั้งในไทยและจากต่างประเทศ สโมสรฟุตบอลที่มีขนาดใหญ่และมีความพร้อมในด้านต่างๆ ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือสโมสรเล็ก และทางสมาคมจะต้องไม่เพียงแค่ให้คำปรึกษาและเป็นผู้เริ่มดำเนินการวางแผน แต่จะต้องเป็นตัวอย่างของความมีจรรยาบรรณด้วย เมื่อนั้นเราจึงจะปลุกศักยภาพของทั้งประเทศได้