ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - วงการก้านเหล็กไทยในระยะ 1-2 ปีหลัง มีดาวรุ่งพัฒนาฝีมือขึ้นมาแจ้งเกิดในการเวทีระดับสากลมากยิ่งขึ้นทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง สานต่อความฝันของบรรดากองเชียร์ชาวไทย รวมถึงทดแทนความสำเร็จของโปรกอล์ฟรุ่นพี่ในอดีตที่เริ่มอยู่ในช่วงโรยรา โดยรายชื่อในบรรทัดต่อจากนี้คือ ทั้ง 7 นักกอล์ฟหนุ่ม-สาวเลือดใหม่ของไทยที่น่าจับตามองในอนาคต
“โม-เม” เอรียา-โมรียา จุฑานุกาล
เอรียา เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนกอล์ฟไทย เมื่อคว้ารางวัลนักกอล์ฟอเมเจอร์ยอดเยี่ยมของปี "โรเล็กซ์ จูเนียร์ เพลเยอร์ ออฟเดอะ เยียร์" 2 ปี ซ้อนในปี 2011 และ 2012 ก่อนจะประกาศเทิร์นโปรและฝันเข้าแข่งในแอลพีจีเอ ทัวร์ให้ได้ ทว่าอายุยังไม่ถึง 18 ปี ต้องเปลี่ยนมาควอลิฟายแข่งกอล์ฟ เลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ และเพิ่งคว้าแชมป์แรกในฐานะโปรอาชีพในรายการ “ลัลลา เมอร์เย็ม คัพ” ที่โมร็อคโค เมื่อปลายเดือนมีนาคม ถือเป็นโปรสาวที่ร้อนแรงที่สุดในปัจจุบัน โดยเป้าหมายต่อไปหวังคว้าแชมป์อย่างต่อเนื่องและก้าวตามฝันลุย แอลพีจีเอ ทัวร์ ให้ได้
ขณะที่ โมรียา พี่สาววัย 18 ปี ประกาศเทิร์นโปรในเวลาใกล้เคียงกัน สามารถผ่านการควอลิฟายพาตัวเองไปแข่งในทัวร์หญิงที่ชื่อดังที่สุดของโลกได้สำเร็จในปีแรกของการเล่นอาชีพ ปัจจุบันลงแข่งไปแล้ว 5 รายการ ทำผลงานดีที่สุดคว้าที่ 4 ในรายการ “ไอเอสพีเอส ฮานดะ วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพน” สะสมเงินรางวัลรวมไปแล้วทั้งสิ้น112,332 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท)
“โปรแหวน” พรอนงค์ เพรชล้ำ
สวิงวัย 24 ปี จากชัยภูมิถือเป็นก้านเหล็กสาวยุคใหม่เป็นขวัญใจของแฟนกอล์ฟไทย แต่แม้ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลงานจะยังไม่เปรี้ยงปร้างดังเป็นผลุแตก ทว่ายังรักษามาตรการเล่นของตัวเอง คว้าแชมป์รายการแบบไม่เป็นทางการ “แอลพีจีเอ บราซิล คัพ” เมื่อปี 2012 พร้อมยกระดับเข้ามาติดท็อป 50 มือของโลกได้สำเร็จตามการจัดอันดับครั้งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 1 เมษายน จากนี้เหลือเพียงขอประเดิมแชมป์แรกของตัวเองเท่านั้น และ “โปรแหวน” ยังเปรียบเสมือนพี่ใหญ่มีประสบการณ์สูงที่สุดและคอยให้คำแนะนำต่างๆ กับรุ่นน้องในเวที แอลพีจีเอ ทัวร์
“โปรจูเนียร์” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ
อีกหนึ่งโปรสาวที่เกิดและเติบโตในประเทศไทย ฝากผลงานลงรับใช้ทีมชาติมาแล้วทุกชุดนับไล่ตั้งแต่ ซีเกมส์ ที่เวียงจันทร์ ปี 2009 ตามด้วย เอเชียน เกมส์ ที่กว่างโจว ปี 2010 ก่อนเดินก้าวแรกระดับอาชีพที่ศึก เลดีส์ เอเชียน ทัวร์ และไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ กระทั่งปี 2011 “จูเนียร์” ลุยแข่ง “ซีเมทรา ทัวร์” ซึ่งถือเป็นทัวร์รองของ แอลพีจีเอ และลุ้นคัดเลือกร่วมแข่งใน แอลพีจีเอ ทัวร์ ที่ใฝ่ฝันเอาไว้ได้สำเร็จ ซึ่งด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อย เป้าหมายปีแรกของเธอขอเพียงรักษาการ์ดทัวร์เอาไว้ให้ได้เท่านั้น
“โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์
วินาทีนี้ต้องยอมรับว่าในบรรดานักกอล์ฟชายไทยไม่มีใครฟอร์มร้อนแรงเกินไปว่า “โปรอาร์ม” ที่สามารถคว้าแชมป์คัดเลือกรายการ “ดิ โอเพน” 2013 เมื่อต้นเดือนมีนาคม ซึ่งจะถือเป็นการแข่งเมเจอร์แรกของเจ้าตัว ล่าสุดด้วยวัย 23 ปี “อาร์ม” ก้าวข้ามบันไดอีกขั้นในการเล่นอาชีพหลังคว้าแชมป์ “เมย์แบงค์ มาเลเซียน โอเพน” ที่ดินแดนเสือเหลืองและรับการ์ดเข้าแข่งยูโรเปียน ทัวร์ ได้ถึงปี 2015 อย่างไรก็ตามยังไม่ใช่ความฝันสูงสุดสวิงรายนี้วาดไว้ เพราะ กิรเดช ต้องการสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าการ์ดทัวร์ลุย พีจีเอ ทัวร์ แบบเต็มรายการ พร้อมกับซิวแชมป์ติดมือมาฝากแฟนกอล์ฟชาวไทยให้ได้
“โปรแบงค์” อานนท์ ว่องวานิช
อานนท์ มีพื้นเพที่น่าสนใจเกิดที่ ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา และฝึกเล่นกอล์ฟที่เมืองลุงแซม ก่อนจะกลับมาคัดเลือกลงเล่นเอเชียน ทัวร์ ปีแรก 19 รายการ มีไฮไลต์สำคัญในแมตช์ที่เฉือน ถาวร วิรัตน์จันทร์ โปรรุ่นพี่คว้าแชมป์ “คิงส์คัพ” ที่จังหวัดขอนแก่นไปครอง ทำให้ “โปรแบงค์” ได้สิทธิ์ลุยแข่งเอเชียน ทัวร์ แบบเต็มรายการในฤดูกาล 2013 เพื่อกรุยทางสู่เป้าหมายสูงสุดที่วางไว้คือศึก พีจีเอ ทัวร์ หรือ ยูโรเปียน ทัวร์ ตามรอย “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี รุ่นพี่ดีกรีมือ 1 ของไทย ที่ยึดเอาเป็นแบบอย่างมาตั้งแต่เด็ก
“โปรโต๋เต๋” ฐิติพรรษ์ ช่วยประคอง
สวิงเลือดใหม่วัย 20 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงและเคยได้รับคำชมจาก ลี เวสต์วูด นักกอล์ฟจากเมืองผู้ ว่าจะเป็นอีกหนึ่งก้านเหล็กไทยที่น่าจับตามอง มีจังหวะการเล่นที่น่าสนใจ โดยเมื่อปลายปี 2012 “โตเต๋” ทำผลงานขึ้นมาเป็นที่ฮือฮาคว้ารองแชมป์เอเชียน ทัวร์ รายการ “เวเนเทียน มาเก๊า โอเพน” ต่อด้วยแมตช์ใหญ่ “ไทยแลนด์ กอล์ฟแชมเปียนชิป” เมื่อเดือนธันวาคม รั้งอันดับ 2 ร่วมกับ บับบา วัตสัน โปรชื่อดังจากเมืองลุงแซมอีกครั้ง ซึ่งในปี 2013 ยังน่าสนใจว่า ฐิติพรรษ์ จะสามารถปลดล็อกแชมป์แรกของตัวเองได้หรือไม่
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล