xs
xsm
sm
md
lg

จุดอ่อน “เปาไทย” สู่มาตรฐาน “ฟีฟา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชิ้ตดำเมืองไทย มักถูกมองในแง่ลบ
ASTVผู้จัดการรายวัน – การทำหน้าที่ของเชิ้ตดำถือเป็นปัญหาเรื้อรังมานานในฟุตบอลลีกบ้านเรา หลายครั้งมีการตัดสินที่ค้านสายตาแฟนบอล จนทำให้เป็นชนวนเกิดเหตุร้ายหลังจบเกม เช่นล่าสุดที่ “เปาหนอม” ถนอม บริคุต โดนแฟนบอล ระยอง เอฟซี รุมทำร้ายร่างกายและทุบตีรถยนต์ส่วนตัว แม้ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะหาทางแก้โดยการเชิญผู้ตัดสินต่างชาติมาทำหน้าที่ แต่ก็มิวายเจอปัญาเช่นเดียวกัน เมื่อ โยชิดะ โทชิมิตซึ เปายุ่นโร่แจ้งความต่อทางสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ว่ามีการติดต่อให้ล้มบอล จึงเป็นที่น่าขบคิดว่าแท้จริงแล้วจุดอ่อนทั้งหมดของปัญหานั้นมาจากจุดไหนทำไมจึงยังไม่ได้รับการยอมรับและเคารพมากพอ

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ มีการกำหนดระดับชั้นของผู้ตัดสิน พร้อมให้โควตาแต่ละประเทศ เพื่อสอบเลื่อนขั้นขึ้นเป็นระดับฟีฟาที่มีมาตรฐานเท่ากันทั่วโลก ซึ่งในปีล่าสุด 2013 ประเทศไทยมีเชิ้ตดำที่ผ่านเกณฑ์ในส่วนของฟุตบอลชายทั้งสิ้น 14 คน แบ่งเป็น ผู้ตัดสิน 6 คน และผู้ช่วยผู้ตัดสิน 8 คน ซึ่งต้องบอกว่าการได้ก้าวขึ้นมามีตราฟีฟาติดตัวนั้นถือเป็นการเพิ่มดีกรีให้กับตัวเอง และที่สำคัญสามารถเดินทางไปทำหน้าที่ต่างแดนได้

โดย “เปายะ” ชัยยะ มหาปราบ ที่ได้ชื่อว่าเป็นมือ 1 ของเมืองไทยในขณะนี้กล่าวว่า “ผมคิดว่ามาตรฐานฝีมือของผู้ตัดสินไทยกับต่างชาตินั้นเท่าเทียมกัน สมรรถภาพไม่ต่างกันเพราะเรามีทดสอบทุกๆ 3 เดือน จะต่างกันแค่ประสบการณ์ของแต่ละคนในการเผชิญกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าว่าใครจะสามารถแก้ไขได้ดีกว่ากัน แต่ที่สำคัญจริงๆจนทำให้เกิดปัญหาคือการไม่เข้าใจกติกาของแฟนบอลและคนทำทีม บางครั้งเราตัดสินค้านสายตาก็โวยวายและบานปลายถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ผมเดินทางไปทำหน้าที่ต่างประเทศประมาณ 10-15 เกมต่อปี ซึ่งในเรื่องนี้ต่างประเทศก็มี แต่เขามีการรณรงค์อย่างเข้มงวดให้ทุกฝ่ายยอมรับในการตัดสิน เพราะถ้าหากตัดสินผิดพลาดจริงก็จะมีบทลงโทษที่รุนแรง โดยเฉพาะในถ้วยสโมสรเอเชีย ทางเอเอฟซีจะมีการดูเทปและประเมินหลังเกมทุกแมตช์ ส่วนในเรื่องของการนำผู้ตัดสินต่างชาติมาทำหน้าที่นั้น เป็นสิ่งที่ดีเพราะจะทำให้ผู้ตัดสินไทยและนักกีฬาได้ศึกษา”

สำหรับในเรื่องของความคุ้มค่าทางการเงิน ต้องบอกว่าในปัจจุบันค่าตอบแทนต่อ 1 แมตช์ของผู้ตัดสินนั้นถือว่าสูงมากทีเดียว ระดับดิวิชัน 2 อยู่ที่ 3-4 พันบาท(รวมค่าเดินทาง), ดิวิชัน 1 ได้ 5 พันบาท และไทยพรีเมียร์ลีกขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท รวมถึงสวัสดิการจาก แอร์เอเชีย เข้ามาสนับสนุนด้านการเดินทางด้วยตั๋วเครื่องบิน วงเงินเกือบ 10 ล้านบาท แต่ทั้งนี้สิ่งที่ยังขาดคือการอบรมการทำหน้าที่ของกรรมการอย่างจริงจัง

ด้าน ศิวกร ภูอุดม เชิ้ตดำดาวรุ่งวัย 25 ปี ที่เพิ่งได้บรรจุเป็นฟีฟาในปีล่าสุด กล่าวถึงปัญหาในวงการผู้ตัดสินว่า “ค่าตอบแทนในปัจจุบันของผู้ตัดสินนั้นสูงมาก แต่กว่าจะก้าวขึ้นมาตรงนี้ได้นั้นลำบาก สอบเป็นผู้ตัดสินครั้งแรกที่ชั้น 3 และต้องใช้เวลาอยู่ตรงนี้ 3 ปี ก่อนที่จะสอบเลื่อนขึ้นมาชั้น 2 แล้วอีก 2 ปีถึงจะสอบขึ้นสู่ชั้น 1 สุดท้ายอีก 2 ปีถึงจะมีสิทธิ์ได้สอบฟีฟา เบ็ดเสร็จรวม 7 ปี เป็นอย่างต่ำ สุดท้ายหากสอบฟีฟาอีลิทผ่าน ก็จะได้ทำหน้าที่ในทัวร์นาเมนท์ระดับเอเชีย เพราะฉะนั้นจึงไม่มีผู้ตัดสินคนไหนยอมรับงานเป่าเอนเอียงแน่นอนเพราะไม่คุ้มหากถูกลงโทษ จะมีก็แต่ผิดพลาดโดยธรรมชาติและจังหวะในสนาม ซึ่งในส่วนนี้ทางฝ่ายประเมิณผู้ตัดสินก็มีบทลงโทษที่เข้มงวดรองรับอยู่แล้ว”

“แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือเรายังมี 2 มาตรฐานอยู่ ซึ่งไม่ได้เกิดจากการเป่าเข้าข้างใคร แต่เป็นเพราะว่าเราไม่ได้มีการนำมาพูดคุยถึงจังหวะปัญหาที่เกิดขึ้น ที่อังกฤษหลังจบเกมผู้ตัดสินจะเข้ามาถกร่วมกันถึงจังหวะปัญหาว่าควรจะมีความเห็นอย่างไร ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปต่อไปทุกคนก็จะตัดสินไปในทิศทางเดียวกัน แม้จะค้านสายตาแต่ก็เป็นเหมือนกันทุกคน จะไม่มีที่ว่าทำไมคนนี้ตัดสินจังหวะนี้ฟาล์ว แต่คนนี้ตัดสินไม่ฟาล์วเกิดขึ้น ซึ่งบ้านเรายังไม่มีในจุดนี้” ฟีฟาป้ายแดงกล่าว

สุดท้ายนี้ “เสธ.ตุ้ม” พลตรีชินเสณ ทองโกมล ประธานคณะกรรมการแต่งตั้งและประเมินผลผู้ตัดสิน ยังให้ความเชื่อมั่นมาตรฐานเปาไทย ว่า “ทางคณะกรรมการเป็นผู้ประเมินผู้ตัดสินทั้งหมด ก่อนจะคัดเลือกว่าใครจะได้โควตาฟีฟา ซึ่งผู้ตัดสินเราได้รับเชิญไปทำหน้าที่ยังต่างประเทศจำนวนมาก ทั้งในจีนและเกาหลีใต้ ปีที่แล้วได้รับการติดต่อจากสหรัฐอเมริกาให้ไปทำหน้าที่มาแล้ว เพียงแต่เราไม่ได้ประชาสัมพันธ์เท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นว่าต่างชาติยอมรับในมาตรฐานของเรา มีแต่คนไทยเองที่ไม่ยอมรับ เรามีการคัดเลือกผู้ตัดสินอย่างถี่ถ้วนในการทำหน้าที่แต่ละแมตช์และมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ผิดพลาด รวมถึงจัดอบรมในส่วนของสมรรถภาพ กฎ กติกา เป็นประจำ ล่าสุดทาง ฟีฟา ได้มอบหมายให้เราจัดอบรม ฟีฟาใหม่ปี 2013 ทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ นั่นแสดงให้เห็นว่าแฟนบอลควรจะมั่นใจในฝีมือของผู้ตัดสินไทยเสียที”
ศิวกร ชี้ยังมี 2 มาตรฐาน
“เสธ.ตุ้ม” วอนแฟนบอลมั่นใจเปาไทย
อบรมฟีฟาใหม่ วันที่ 2-6 มี.ค. ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น