ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ออสการ์ ปิสโตเรียส นักกรีฑาคนพิการจากแอฟริกาใต้ ได้รับการยกย่องจากคนทั่วโลกมาตลอดในฐานะนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และมอบความหวังกำลังใจแก่ผู้พิการทั้งโลกให้หันมาต่อสู้กับชีวิตในวันข้างหน้า ทว่าภาพแห่งความสำเร็จและเกียรติยศที่สั่งสมมาในอดีตกลับถูกแทนที่ด้วยสถานะของผู้ร้าย หลังเจ้าตัวกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายปลิดชีพแฟนสาวของตัวเองที่บ้านเกิด แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นการจงใจหรือไม่ก็ตาม
หากใครที่เป็นแฟนกีฬากรีฑา เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ออสการ์ ปิสโตเรียส ลมกรดหนุ่มคนดังจากแอฟริกาใต้ ผู้พิการขาทั้งสองข้างตั้งแต่เด็กอันเป็นผลจากไม่มีกระดูกน่องจนต้องผ่าตัดขาทิ้งไป ก่อนแจ้งเกิดด้วยการสวมขาเทียมที่ผลิตด้วยวัสดุชนิดเดียวกับรถยนต์ กวาดเหรียญทองจากการแข่งขันกรีฑาในพาราลิมปิกเกมส์ ได้ถึง 6 เหรียญ ตั้งแต่ปี 2004-2012 แถมยังได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์กีฬาชั้นนำอย่าง ไนกี ถือว่าชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ อูเซน โบลต์ นักวิ่งดีกรี 6 เหรียญทองโอลิมปิกจากจาเมกา เจ้าของฉายา “ชายที่เร็วที่สุดในโลก” เลยทีเดียว
สำหรับคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์ ที่ผ่านมา หากเป็นปกติทั่วไป ปิสโตเรียส ควรพา รีวา สตีนแคมป์ แฟนสาวสุดเซ็กซีดีกรีนางแบบ FHM ที่ฝ่ายชายไปขายขนมจีบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วหลังฝ่ายหญิงเพิ่งเลิกรากับ ฟรังซัว ฮูการ์ด นักกีฬารักบีของแอฟริกาใต้ไปไม่นาน ออกไปย่ำราตรีหรือดินเนอร์ตามห้องอาหารหรูๆ เหมือนคู่รักหนุ่มสาวคนอื่นที่ทำกันทั่วโลก ทว่าห้วงเวลาแห่งความสุขไม่เกิดขึ้นกับทั้งคู่ เมื่อ ปิสโตเรียส ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปสอบสวนหลังก่อเหตุฆาตกรรมแฟนสาวในบ้านพัก
เหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 03.00น. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกไปจับกุม ปิสโตเรียส ถึงบ้านพักในย่านพริตอเรีย ก่อนพบศพของนางแบบสาวนอนจมกองเลือดเสียชีวิตโดยมีกระสุนฝังอยู่ตามลำตัวรวมถึงศรีษะอยู่ในบริเวณเดียวกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการยึดปืนขนาด 9 มม. ที่ “เบลด รันเนอร์” ครอบครองอยู่ด้วย จากรูปการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนว่า ปิสโตเรียส เป็นผู้ระดมกระสุนใส่แฟนด้วยตัวเองทั้งหมด 4 นัด เพราะอยู่ในบ้านกันแค่ 2 คน ทว่าเจ้าตัวออกมาปฏิเสธ พร้อมอ้างว่าป้องกันตัวเพราะนึกว่าโจรขึ้นบ้าน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อกับข้อแก้ตัวของลมกรดวัย 26 ปี เพราะได้ข้อมูลจากพยานแวดล้อมที่เป็นเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงกันว่าได้ยินเสียง ปิสโตเรียส และ รีวา ทะเลาะกันเป็นประจำ อันเนื่องมาจากข่าวลือว่าฝ่ายหญิงนั้นแอบนอกใจไปมีชายอื่น บวกกับหลักฐานที่ทีมสืบสวนตรวจพบเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นไม้คริกเกตเปื้อนเลือด หรือ สารสเตอรอยด์ที่เจอในบ้าน ส่งผลให้เจ้าตัวต้องแต่งสูทขึ้นศาลเพื่อต่อสู้คดี เล่นเอาสื่อจากต่างประเทศหลายเจ้าต้องหันมาเล่นข่าวนี้กันยกใหญ่เป็นเวลาหลายวัน
หากใครที่ติดตามข่าวมาตลอดคงเห็นว่าทุกครั้งที่ ปิสโตเรียส ขึ้นศาลที่พริตอเรีย มักแสดงอาการโศกเศร้าและหลั่งน้ำตาให้ทุกคนเห็นบ่อยครั้ง พร้อมยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอย่างหนักแน่นกับผู้พิพากษาว่าไม่ตั้งใจฆ่าคนรัก เพียงแค่ต้องการป้องกันตัวเองและ รีวา จากบุคคลแปลกหน้าเท่านั้น เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า แอฟริกาใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นสูงสุดในโลก แต่กว่าจะรู้ตัวว่าบุคคลที่ตัวเองกระหน่ำยิงในห้องน้ำเป็นแฟนสาว ก็สายไปแล้ว
ขณะที่ฝั่งครอบครัวของ รีวา ต่างรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ จูน สตีนแคมป์ คุณแม่ถึงกับร่ำไห้แทบใจสลายกับการจากไปของลูกสาว ก่อนทวงถามหาเหตุผลกับลมกรดว่าที่ลูกเขยในอนาคตว่าลงมือกระทำเรื่องโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้อย่างไร ส่วน แบร์รี สตีนแคมป์ คุณพ่อของ รีวา พูดอะไรไม่ออกก่อนนำร่างไร้วิญญาณของลูกสาวสุดที่รัก ไปทำพิธีตามศาสนาในย่านพอร์ต อลิซาเบธ หลังจากนั้น
ทั้งนี้ หลังขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่หลายวัน ในที่สุด “เบลด รันเนอร์” ก็รอดพ้นจากการถูกจองจำหลังศาลอนุญาตให้ครอบครัวประกันตัวออกไปใช้ชีวิตได้ตามเดิม แถมยังสามารถลงแข่งขันกรีฑารายการต่างๆได้ตามต้องการ แลกกับการถูกยึดพาสปอร์ตห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทว่าดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่มีกะจิตกะใจกลับไปคืนลู่วิ่งนัก หลังต้องสูญเสียคนรักของตัวเอง ส่วนคำถามตัวโตที่ว่าเหตุการณ์เศร้าที่ผ่านมานั้นเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือไม่ มีเพียง ปิสโตเรียส เท่านั้นที่รู้คำตอบ
เรื่องโดย : วัลลภ สวัสดี
