เขตทหาร(ไม่)ห้ามเข้า “พิชัย” ว่าที่นายกฯมวย

ASTVผู้จัดการรายวัน - หลังจากที่ "เสธ.อ้าย" พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยเสื้อกล้าม ไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2012 โดยมีผลงานดีที่สุดเพียงแค่เหรียญเงินจาก แก้ว พงษ์ประยูร นักชกรุ่นเล็กเพียงรายเดียว ส่งผลให้ต้องปฎิบัติตามวาจาสิทธิ์ที่ให้ไว้ด้วยการลาออกจากตำแหน่งประมุขสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เมื่อพลาดเหรียญทองในท้ายที่สุด

ซึ่งการลาออกดังกล่าวส่งผลให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 โดยสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ออกมาเผยว่าการเลือกตั้งนายสมาคมมวยเสื้อกล้ามครั้งนี้ มีเพียง นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ลงสมัครเพียงคนเดียวเท่านั้น หลังมีการปิดรับสมัครเมื่อเที่ยงคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สมาคมมวยสากลสมัครเล่นไทย ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยัง 78 สโมสรสมาชิกทั่วประเทศรับทราบเพื่อเข้าร่วมการเลือกตั้งประมุขสมาคมฯ ซึ่งนายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย แสดงความมั่นใจว่าการเลือกตั้งนายกสมาคมมวยสากลคนใหม่ เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย โปร่งใส และไม่มีคำครหาในภายหลัง

อย่างไรก็ตามการแข่งขันครั้งนี้ดูเหมือนจะมีการเตะตัดขา "เสี่ยพิชัย" กันบ้างแล้ว จากกระแสความไม่พอใจของคนในกองทัพบางส่วนที่มองว่าเก้าอี้ประมุขสมาคมมวยเสื้อกล้ามไทยนั้นควรเป็นนายทหารมากกว่าพลเรือน

โดย พ.อ. ศักดา เพชรจินดา ประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนแนวความคิดมอบเก้าอี้ให้คนในกองทัพด้วยเหตุผลน่าสนใจว่า "การได้คนของกองทัพ ระดับนายพลขึ้นไป จะตัดปัญหาเรื่องการติดต่อประสานขอตัวนักกีฬาของกองทัพร่วมฝึกซ้อมให้กับทีมชาติ เพราะนักกีฬาส่วนใหญ่ สังกัดแต่ละหน่วยงานในกองทัพด้วยกันแทบทั้งหมด"

"ยกตัวอย่างกรณีคุณสมหมาย โค้วคชาภรณ์ เลขาธิการสมาคมมวยฯ เคยขอตัวนักกีฬาของกองทัพไปฝึกซ้อม แต่ว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัว ทำให้ผมต้องมาเจรจาด้วยตัวเองจึงสำเร็จ ไม่รู้ว่าทางเจ้าหน้าที่เขาเกรงใจในตำแหน่งหรือไม่ แต่นี่ก็ถือเป็นเหตุการณ์ตที่ผมอยากยกนำมาเสนอว่า หากได้ทหารมาบริหารในงานสมาคมฯ สำคัญแค่ไหน"

พร้อมกันนี้ พ.อ.ศักดา ยังได้กล่าวถึงนายพิชัย ที่เป็นตัวเลือกเดียวในการชิงเก้าอี้นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ว่าไม่เหมาะสมแน่นอน "ผมไม่มีอคติอะไรกับคุณพิชัย แต่ต้องยอมรับว่าเขาไม่มีความรู้ทางด้านกีฬามวยด้วยซ้ำ แต่ที่เข้ามาได้เพราะเป็นบอร์ดบริหารของ บริษัท บางจากฯ และยังมีชื่อกว้างขวางในสมาคมฯ ด้วยความเป็นนักธุรกิจ จึงมีผลดีในระยะสั้นคือการบริหารเงินในสมาคมฯ แต่ในทางกลับกัน เมื่อคิดถึงผลระยะยาวแล้วผมมองว่าจะส่งผลเสียมากกว่า"

แม้จะมีเสียงคัดค้านการสนับสนุนพลเรือนขึ้นสู่เก้าอี้นายใหญ่สมาคมมวยฯ ทว่านายพิชัย ตัวเต็งเพียง 1 เดียว ยืนยันว่ามีความพร้อมเต็มที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ และไม่หวั่นว่าจะไม่สามารถร่วมงานกับสโมสรสมาชิกสายทหาร "ผมยังยืนยันว่าพร้อมที่จะรับตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลฯ ส่วนเรื่องที่มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นพลเรือนจะไม่สามารถบริหารจัดการได้ดีเท่าสายทหารนั้น ต้องถามกลับไปว่า แล้วถ้าตั้งทหารเข้ามาช่วยดูแลจะมีปัญหาหรือไม่ ผมไม่ได้ทำงานคนเดียวแต่มีทีมงานรวมถึงผู้สนับสนุนเบื้องหลังอยู่ จึงไม่มีปัญหาแน่นอน"

นอกจากนี้ "เสธ.อ้าย" อดีตผู้นำสูงสุดสมาคมมวยฯ เชื่อว่าการมาของ "บิ๊กบางจาก" จะสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดที่ว่า "ทหาร" เป็นเจ้าของสมาคมมวยเสื้อกล้ามได้แน่นอน "ส่วนตัวผมยังคิดว่า คุณพิชัย เหมาะสมที่จะรับตำแหน่งนี้ เนื่องจากมีความพร้อมในทุกด้าน ที่สำคัญมีความสามารถที่จะรับมือกับ ชิง กัวะ วู ประธานสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ หรือไอบา ได้แน่ เพราะมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มพลังงาน ไต้หวัน ซึ่งล้วนเป็นคนชาติเดียวกัน และที่สำคัญน่าจะถึงเวลาเปลี่ยนแปลงเรื่องทหารต้องเป็นนายกสมาคมมวยฯ ได้แล้ว"

ขณะเดียวกัน พ.อ.วริทธิ์ ปานสุวรรณ กรรมการและนายทะเบียนสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ร่วมสนับสนุนแนวความคิดของ "เสธ.อ้าย" ด้วยว่า "สำหรับผมมองว่าไม่จำเป็นที่จะต้องให้ทหารจากกองทัพต่างๆ เป็นนายกสมาคมฯแต่เพียงอย่างเดียว พลเรือนหรือใครก็ตามล้วนมีความสามารถขึ้นมาดำรงตำแหน่งได้ และที่สำคัญต้องตั้งใจทำงานและมีการบริหารงานที่ดี ซึ่งผมเชื่อว่าแม้จะต้องประสานกับสโมสรต่างๆ ในค่ายทหารเพื่อขอตัวนักมวย หรือติดต่องานอื่นๆ ไม่มีเป็นปัญหาแน่นอน"

นอกจากนี้นายทะเบียนสมาคมมวยสากลฯ กล่าวต่อไปอีกด้วยว่า "ที่ผ่านมาอาจจะดูเหมือนเป็นประเพณีปฎิบัติสำหรับตำแหน่งนายกสมาคมมวยฯ แต่บางทีอาจจะถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้"

ถึงนาทีนี้คงต้องรอดูว่าเหล่าบรรดาสโมสรสมาชิกของสมาคมมวยสากลสมัครเล่น ที่ล้วนอุดมไปด้วยสโมสรสังกัดกรม กองต่างๆ ในกองทัพจะเปิดใจกว้างเพื่อยอมรับบุคคลภายนอกเข้าสู่บัลลังก์ประมุขกำปั้นไทยคนใหม่หรือไม่ รวมถึงให้ความร่วมมือแค่ไหนเพื่อให้กลับมาประสบความสำเร็จในฐานะกีฬาความหวังของคนทั้งประเทศอีกครั้ง