คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
เส้นตายการเทรดของลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ กำลังจะปิดลงศุกร์ที่ 22 ก.พ.ทว่า ณ วันปั่นต้นฉบับเช้าวันพุธ ยังไม่มีการเทรดฮือฮา ที่ผ่านมามีแต่เพียงกระแสข่าว 2 ทีมแห่งแอลเอ เอี่ยวแลกผู้เล่นกับ บอสตัน เซลติกส์ โดย เลเกอร์ส ดันมีคนเอาไปลือได้ว่าจะส่ง ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ไปแลก ราจอน รอนโด การ์ดจ่ายอนาคตไกล ทว่าซีซันนี้รูดม่านไปก่อนเพื่อน เจ็บหนักต้องพักยาว ถึงตรงนี้ มิทช์ คัพแช็ค ผู้จัดการทั่วไปคงต้องเสี่ยงกับ "ซูเปอร์แมน" จบฤดูกาล 2012/13 ค่อยใช้ลมปากหว่านล้อมให้ต่อสัญญากันเอา ขณะที่ คลิปเปอร์ส ลุ้นแต่งทัพก่อนเข้าสู่เพลย์ออฟ ทว่าโอกาสคว้า เควิน การ์เนตต์ มาประสาน คริส พอล และเบล็ค กริฟฟิน ยากหน่อย ไม่ใช่ข้อเสนอ เอริค เบลดโซ กับ เดออังเดร จอร์แดน ไม่โดนใจเซลติกส์ แต่เป็นเพราะ "เค.จี." ต้องการอยู่โยงรีไทร์ในถิ่นทีดี การ์เดน มากกว่า
ดังนั้นเห็นว่ารอให้ตลาดปิดไปก่อน แล้วค่อยมาตบควันหลงหลังการเทรดดีกว่า คอลัมน์ตอนนี้จึงขอนำเอาเรื่อง "ฟรีเอเยนต์" ศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มาว่ากันต่อ ตอนนี้หลายทีมเริ่มขยับตัวปล่อยผู้เล่นออกไป เริ่มจาก นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ครั้งแยกทางกับ แบรนดอน จาค็อบส์ ว่าช็อคแล้ว แต่การเลือกไม่เก็บ อาห์หมัด แบรดชอว์ ถือว่าน่าตกใจกว่า บอร์ดบริหาร "ยักษ์ใหญ่" ชั่งใจขอเลือกไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง 3.75 ล้านเหรียญสหรัฐ และโบนัสติดทีมอีก 1.25 ล้านเหรียญฯ ให้แก่รันนิงแบ็กที่วิ่งซีซันก่อนไป 1,014 หลา เพื่อเซฟ "เพดานเงินเดือน" โดย ไจแอนท์ส เล็งเห็นความสามารถในตัว เดวิด วิลสัน ดราฟท์คนสุดท้ายของรอบแรก (อันดับ 32) ปี 2012
ส่วน ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ยอมจ่ายเงินการันตี 3 ล้านเหรียญฯ ให้ ไมเคิล วิค ตามกำหนดช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซื้อเวลามาพูดคุยกันที่สุดแล้ว สามารถเจรจาให้อดีตควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์ รื้อสัญญายอมลดค่าเหนื่อยลงมาเหลือ 3.5 ล้านเหรียญฯ บวกโบนัสการเซ็นสัญญาอีก 7.7 ล้านเหรียญฯ เพื่ออยู่แย่งตำแหน่งจอมทัพต่อไป ถ้าฟอร์มไม่คืบ อาการบาดเจ็บยังรุมเร้า วิค คงสวมยูนิฟอร์ม "อินทรีมรกต" เป็นเทอมสุดท้าย ซึ่งคล้ายกับกรณี นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส พยายามเจรจาให้ตัวเก๋าอย่าง โจนาธาน วิลมา กับ วิล สมิธ ยอมรื้อสัญญา เพื่อเปิดพื้นที่ "ซาลารีแคป" ถ้าไม่ยอมก็เป็นการบ้านให้บอร์ดบริหาร "นักบุญ" ต้องไปดีดลูกคิดกันเอาว่าจะเก็บใครไว้ หรือเลือกตัดขุนพลรายอื่นออกไป
กรณีข้างต้นเป็นกลยุทธ์ที่หลายทีมใช้ต้องเลือกใช้เอา ถือเป็นการเดินหมากนอกสนาม วัดกึ๋นบรรดาผู้จัดการทั่วไป หลายคนดู อเมริกัน ฟุตบอล ให้เครดิตแต่เพียงสตาฟฟ์โค้ชและผู้เล่น แต่ผู้เขียนพูดได้เต็มปากเลยว่าบุคลากรในส่วนบริหาร ล้วนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแฟรนไชส์ โดยการบ้านที่ NFL ให้ไว้คือ ทีมคุณจะจัดสรรค่าตอบแทนนักกีฬาอย่างไรก็ได้ให้อยู่ภายใต้ "เพดานเงินเดือน" ถ้าเกินแคปก็ต้องเสียภาษีส่วนเกินแบบเหรียญต่อเหรียญดอลลาร์สหรัฐเข้ากงสี ถ้าบริหารดีๆ แคปเหลือพอก็ล่อซูเปอร์สตาร์เข้ามาได้ "ความเท่าเทียม" และ "การไม่ผูกขาด" จึงเป็นข้อดีของลีกกีฬาอาชีพมะกัน ที่ปัจจุบันดูเหมือนลีกลูกหนังโลก มีความคิดประยุกต์ใช้ แต่จะให้ลอกเลียนแบบทั้งหมดคงยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้
ซึ่งแฟนๆ ที่เสพข่าว NFL ช่วงนี้ไม่ต้องตกใจไปว่าทำไม ไมอามี ดอลฟินส์ ต้องเดินหน้าต่อไปโดยไม่มี เรจจี บุช รันนิงแบ็กอเนกประสงค์ หรืออย่าแปลกใจถ้า พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ไม่คิดต่อสัญญา ไมค์ วอลเลซ ในเมื่อปีกนอกสตาร์จ้องกดค่าเหนื่อยแพงระยับ มาถึงบรรทัดนี้ หลายคนคงพอเข้าใจเหตุผลแล้วว่าเหตุใด อินเดียนาโปลิส โคลต์ส จึงแยกทางกับ ดไวท์ ฟรีนีย์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ ที่อยู่กับทีมมานาน ชนิดไม่ต้องคุยเรื่องรื้อสัญญาให้เสียเวลาด้วยซ้ำ เพราะขนาด เพย์ตัน แมนนิง ยังเลือกแยกทางมาแล้ว อีกอย่างอย่าลืมว่าแต่ละปี มีฟรีเอเยนต์ฝีมือดีหลุดเข้าตลาดให้เลือกช็อปมากมาย ที่สำคัญ NFL ยังมีการดราฟท์ตัวผู้เล่นจากมหาวิทยาลัย ถ้าตาดีก็ได้ดาวรุ่งพรสวรรค์มาใช้ยาวๆ
ตบท้ายที่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส อีกสักหน่อย ทีมเลือกปล่อย 2 ตัวเก๋าอย่าง ชาร์ลส วูดสัน กับ เจฟฟ์ ซัทเธอร์เดย์ และคงไม่ต่อสัญญา เกร็ก เจนนิงส์ สุดยอดปีกนอกแน่แล้ว เหตุผลส่วนหนึ่งน่าจะเป็นการเคลียร์แคปเพื่อคุยสัญญาใหม่กับ แอรอน ร็อดเจอร์ส ขุนพลคนสำคัญสุดของแฟรนไชส์ เรียกได้ว่าบอร์ดบริหารต้องไล่เรียงความสำคัญของโปรเจค ซึ่งคงไม่ได้มาวิเคราะห์กันแค่ปีต่อปี ส่วนบรรดาผู้เล่นที่โดนโละนั่น อย่าได้เป็นห่วงไป หลายคนอยากเป็นฟรีเอเยนต์ใจจะขาด เพราะที่กองอยู่ข้างหน้าคือข้อเสนอสัญญาที่ยาวขึ้นเช่นเดียวกับตัวเลขในบัญชีที่มากขึ้นนั่นเอง
เส้นตายการเทรดของลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ กำลังจะปิดลงศุกร์ที่ 22 ก.พ.ทว่า ณ วันปั่นต้นฉบับเช้าวันพุธ ยังไม่มีการเทรดฮือฮา ที่ผ่านมามีแต่เพียงกระแสข่าว 2 ทีมแห่งแอลเอ เอี่ยวแลกผู้เล่นกับ บอสตัน เซลติกส์ โดย เลเกอร์ส ดันมีคนเอาไปลือได้ว่าจะส่ง ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ไปแลก ราจอน รอนโด การ์ดจ่ายอนาคตไกล ทว่าซีซันนี้รูดม่านไปก่อนเพื่อน เจ็บหนักต้องพักยาว ถึงตรงนี้ มิทช์ คัพแช็ค ผู้จัดการทั่วไปคงต้องเสี่ยงกับ "ซูเปอร์แมน" จบฤดูกาล 2012/13 ค่อยใช้ลมปากหว่านล้อมให้ต่อสัญญากันเอา ขณะที่ คลิปเปอร์ส ลุ้นแต่งทัพก่อนเข้าสู่เพลย์ออฟ ทว่าโอกาสคว้า เควิน การ์เนตต์ มาประสาน คริส พอล และเบล็ค กริฟฟิน ยากหน่อย ไม่ใช่ข้อเสนอ เอริค เบลดโซ กับ เดออังเดร จอร์แดน ไม่โดนใจเซลติกส์ แต่เป็นเพราะ "เค.จี." ต้องการอยู่โยงรีไทร์ในถิ่นทีดี การ์เดน มากกว่า
ดังนั้นเห็นว่ารอให้ตลาดปิดไปก่อน แล้วค่อยมาตบควันหลงหลังการเทรดดีกว่า คอลัมน์ตอนนี้จึงขอนำเอาเรื่อง "ฟรีเอเยนต์" ศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มาว่ากันต่อ ตอนนี้หลายทีมเริ่มขยับตัวปล่อยผู้เล่นออกไป เริ่มจาก นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ครั้งแยกทางกับ แบรนดอน จาค็อบส์ ว่าช็อคแล้ว แต่การเลือกไม่เก็บ อาห์หมัด แบรดชอว์ ถือว่าน่าตกใจกว่า บอร์ดบริหาร "ยักษ์ใหญ่" ชั่งใจขอเลือกไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง 3.75 ล้านเหรียญสหรัฐ และโบนัสติดทีมอีก 1.25 ล้านเหรียญฯ ให้แก่รันนิงแบ็กที่วิ่งซีซันก่อนไป 1,014 หลา เพื่อเซฟ "เพดานเงินเดือน" โดย ไจแอนท์ส เล็งเห็นความสามารถในตัว เดวิด วิลสัน ดราฟท์คนสุดท้ายของรอบแรก (อันดับ 32) ปี 2012
ส่วน ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ยอมจ่ายเงินการันตี 3 ล้านเหรียญฯ ให้ ไมเคิล วิค ตามกำหนดช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซื้อเวลามาพูดคุยกันที่สุดแล้ว สามารถเจรจาให้อดีตควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์ รื้อสัญญายอมลดค่าเหนื่อยลงมาเหลือ 3.5 ล้านเหรียญฯ บวกโบนัสการเซ็นสัญญาอีก 7.7 ล้านเหรียญฯ เพื่ออยู่แย่งตำแหน่งจอมทัพต่อไป ถ้าฟอร์มไม่คืบ อาการบาดเจ็บยังรุมเร้า วิค คงสวมยูนิฟอร์ม "อินทรีมรกต" เป็นเทอมสุดท้าย ซึ่งคล้ายกับกรณี นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส พยายามเจรจาให้ตัวเก๋าอย่าง โจนาธาน วิลมา กับ วิล สมิธ ยอมรื้อสัญญา เพื่อเปิดพื้นที่ "ซาลารีแคป" ถ้าไม่ยอมก็เป็นการบ้านให้บอร์ดบริหาร "นักบุญ" ต้องไปดีดลูกคิดกันเอาว่าจะเก็บใครไว้ หรือเลือกตัดขุนพลรายอื่นออกไป
กรณีข้างต้นเป็นกลยุทธ์ที่หลายทีมใช้ต้องเลือกใช้เอา ถือเป็นการเดินหมากนอกสนาม วัดกึ๋นบรรดาผู้จัดการทั่วไป หลายคนดู อเมริกัน ฟุตบอล ให้เครดิตแต่เพียงสตาฟฟ์โค้ชและผู้เล่น แต่ผู้เขียนพูดได้เต็มปากเลยว่าบุคลากรในส่วนบริหาร ล้วนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแฟรนไชส์ โดยการบ้านที่ NFL ให้ไว้คือ ทีมคุณจะจัดสรรค่าตอบแทนนักกีฬาอย่างไรก็ได้ให้อยู่ภายใต้ "เพดานเงินเดือน" ถ้าเกินแคปก็ต้องเสียภาษีส่วนเกินแบบเหรียญต่อเหรียญดอลลาร์สหรัฐเข้ากงสี ถ้าบริหารดีๆ แคปเหลือพอก็ล่อซูเปอร์สตาร์เข้ามาได้ "ความเท่าเทียม" และ "การไม่ผูกขาด" จึงเป็นข้อดีของลีกกีฬาอาชีพมะกัน ที่ปัจจุบันดูเหมือนลีกลูกหนังโลก มีความคิดประยุกต์ใช้ แต่จะให้ลอกเลียนแบบทั้งหมดคงยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้
ซึ่งแฟนๆ ที่เสพข่าว NFL ช่วงนี้ไม่ต้องตกใจไปว่าทำไม ไมอามี ดอลฟินส์ ต้องเดินหน้าต่อไปโดยไม่มี เรจจี บุช รันนิงแบ็กอเนกประสงค์ หรืออย่าแปลกใจถ้า พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ไม่คิดต่อสัญญา ไมค์ วอลเลซ ในเมื่อปีกนอกสตาร์จ้องกดค่าเหนื่อยแพงระยับ มาถึงบรรทัดนี้ หลายคนคงพอเข้าใจเหตุผลแล้วว่าเหตุใด อินเดียนาโปลิส โคลต์ส จึงแยกทางกับ ดไวท์ ฟรีนีย์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ ที่อยู่กับทีมมานาน ชนิดไม่ต้องคุยเรื่องรื้อสัญญาให้เสียเวลาด้วยซ้ำ เพราะขนาด เพย์ตัน แมนนิง ยังเลือกแยกทางมาแล้ว อีกอย่างอย่าลืมว่าแต่ละปี มีฟรีเอเยนต์ฝีมือดีหลุดเข้าตลาดให้เลือกช็อปมากมาย ที่สำคัญ NFL ยังมีการดราฟท์ตัวผู้เล่นจากมหาวิทยาลัย ถ้าตาดีก็ได้ดาวรุ่งพรสวรรค์มาใช้ยาวๆ
ตบท้ายที่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส อีกสักหน่อย ทีมเลือกปล่อย 2 ตัวเก๋าอย่าง ชาร์ลส วูดสัน กับ เจฟฟ์ ซัทเธอร์เดย์ และคงไม่ต่อสัญญา เกร็ก เจนนิงส์ สุดยอดปีกนอกแน่แล้ว เหตุผลส่วนหนึ่งน่าจะเป็นการเคลียร์แคปเพื่อคุยสัญญาใหม่กับ แอรอน ร็อดเจอร์ส ขุนพลคนสำคัญสุดของแฟรนไชส์ เรียกได้ว่าบอร์ดบริหารต้องไล่เรียงความสำคัญของโปรเจค ซึ่งคงไม่ได้มาวิเคราะห์กันแค่ปีต่อปี ส่วนบรรดาผู้เล่นที่โดนโละนั่น อย่าได้เป็นห่วงไป หลายคนอยากเป็นฟรีเอเยนต์ใจจะขาด เพราะที่กองอยู่ข้างหน้าคือข้อเสนอสัญญาที่ยาวขึ้นเช่นเดียวกับตัวเลขในบัญชีที่มากขึ้นนั่นเอง
