คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
แอลเอ เลเกอร์ส ถูกคาดหมายว่าจะขึ้นมาเบียด ไมอามี ฮีต ในการลุ้นแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2012/13 ทันทีที่เสริมทั้ง สตีฟ แนช การ์ดมือทอง และเซ็นเตอร์เบอร์ 1 ของลีกอย่าง ดไวท์ ฮาวเวิร์ด มาประสานงาน โคบี ไบรอันท์, เพา กาซอล รวมทั้ง เมตตา เวิลด์พีช แต่ผ่านไป 18 เกม ดูเหมือนคำพูดเชิงปรามาสของทั้ง คริส บอช (ฮีต) กับ เควิน ดูแรนท์ (โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์) ชักเป็นจริงที่ว่า เลเกอร์ส เต็งเพียงโผในกระดาษเท่านั้น
การออกสตาร์ทชนะ 1 แพ้ 4 เกม เลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ทีม 19 ปี ทำให้ ไมค์ บราวน์ เป็นแพะรับบาปถูกปลดจากตำแหน่ง เบอร์นี บิคเกอร์สตัฟฟ์ โดนเลื่อนขึ้นมาขัดตาทัพทำท่าไปได้สวย แต่ระดับ เลเกอร์ส จำเป็นต้องมีนายใหญ่ตัวจริง ไมค์ ดิ แอนโทนี น่าจะเป็นคนที่ใช่ ทว่าผ่านไป 8 เกมที่คุมบังเหียน สถิติพาทีมชนะแค่ 3 พ่าย 5 เกม ทำให้บรรยากาศมาคุอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ โคบี เป็นคนปรามเพื่อนๆ พูดให้น้อย ตั้งหน้าตั้งตาเล่นบาสฯ อย่าสนใจเสียงวิจารณ์ ทำไมทำมา ชู้ตติ้งการ์ดแม่ทัพวัย 34 ปี ประกาศกร้าวพร้อมเตะก้นทุกคนในล็อกเกอร์รูม หากยังเล่นห่วยแตกกันแบบนี้ต่อไป
แน่นอนมันก็น่าหัวเสียอยู่หรอก ในเมื่อ โคบี ทำเฉลี่ย 27.9 แต้มต่อเกม เจ๋งสุดในลีก แต่ทีมสถิติกลับไปต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ (ชนะ 8 แพ้ 10 เกม) ทว่าบางครั้งการที่แม่ทัพออกอาการ "รมณ์บ่จอย" เกินเหตุถี่ๆ มันยิ่งเพิ่มความกดดันให้ลูกทีม อีกทั้งยังสร้างความระอาเกิดขึ้นแก่สตาร์บางคน จนอาจนำไปสู่ความแตกแยกในที่สุด สุภาษิตที่ว่า "เสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้" คงย้อนกลับมาในความคิดสาวกเลเกอร์ส เหมือนครั้ง โคบี เปิดสงครามน้ำลายกับ ชาคิล โอนีล เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
คราวนี้การที่ ฮาวเวิร์ด ออกมาตอบคำถามสื่อถึงอนาคตยัดห่วงทำนองว่า ต้องการหาสังกัดที่พร้อมส่งตัวเองขึ้นไปสัมผัส "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" ซึ่งหาก เลเกอร์ส ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายดั่งที่หวัง มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ "ซูเปอร์แมน" จะเลือกใช้สิทธิ์เป็น "ฟรีเอเยนต์" ลามหานครลอสแองเจลลิส ไปหาบ้านใหม่ที่อยู่แล้วสบายใจกว่า ไม่ต้องมีใครมาคอยบงการ หรือแขวะเรื่องการชู้ตฟรีโทรล แทนที่จะให้กำลังใจกัน
นี่ถ้า เลเกอร์ส ตัดสินใจเทรด เพา กาซอล ช่วงกลางซีซัน แล้วเกิดจบปี ฮาวเวิร์ด ไม่อยู่แล้วสเตเปิล เซ็นเตอร์ เกมใต้แป้นก็ตัวใครตัวมัน เนื่องจากเซ็นเตอร์ดาวโรจน์อย่าง แอนดรูว์ บายนัม ก็เทรดไปอยู่ที่ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส แล้วด้วย จะไปเริ่มใหม่กับการดราฟท์ผู้เล่น โอกาสได้เพชรเม็ดงามมาเจียระไนก็ต้องใช้เวลาขุน
ส่วนกรณี "แบ็กคอร์ต" การขาดหายไปของ แนช ที่ยังบาดเจ็บ จะว่าไปมันก็ดีเหมือนกัน เพราะนั่นหมายความว่านี่เป็นทีมของ โคบี เต็มตัว ได้คุมบอลไปเต็มๆ ทุกวันนี้ไอ้หนู แดเรียส มอร์ริส การ์ดจ่ายประสบการณ์ปีที่ 2 ในลีก เหมือนลงมายืนให้ครบ 5 คน
นี่ยังคิดไม่ออกเหมือนกันถ้า แนช คืนสนาม ดิ แอนโทนี จะไปมุกไหน ในเมื่อแผน "รัน แอนด์ กัน" เน้นเกมฟาสต์เบรกเป็นหลัก ซึ่งเข้าทางการ์ดจอมเก๋าแคนาเดียน และก็เล่นกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ ฟีนิกซ์ ซันส์ เมื่อสลับมาใช้ "พิก แอนด์ โรล" แนช ก็น่าจะประสานงาน ฮาวเวิร์ด ได้อย่างเห็นผล คงสามารถช่วยฉุดฟอร์มของ กาซอล ให้กลับมาดีขึ้นกว่าการทำเฉลี่ย 12.6 แต้ม ณ ปัจจุบัน แต่หาก แนช กลับมา แล้วบอลยังคงอยู่ในมือ โคบี เป็นหลัก เท่ากับว่าการเสริมอดีตผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัย เป็นความสูญเปล่า ในเมื่อใช้งานจอมเก๋าวัย 38 ปี ไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ โอ้พระเจ้า แค่จินตนาการกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็รู้สึกปวดเศียรเกล้าแทน ดิ แอนโทนี จริงๆ
แอลเอ เลเกอร์ส ถูกคาดหมายว่าจะขึ้นมาเบียด ไมอามี ฮีต ในการลุ้นแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2012/13 ทันทีที่เสริมทั้ง สตีฟ แนช การ์ดมือทอง และเซ็นเตอร์เบอร์ 1 ของลีกอย่าง ดไวท์ ฮาวเวิร์ด มาประสานงาน โคบี ไบรอันท์, เพา กาซอล รวมทั้ง เมตตา เวิลด์พีช แต่ผ่านไป 18 เกม ดูเหมือนคำพูดเชิงปรามาสของทั้ง คริส บอช (ฮีต) กับ เควิน ดูแรนท์ (โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์) ชักเป็นจริงที่ว่า เลเกอร์ส เต็งเพียงโผในกระดาษเท่านั้น
การออกสตาร์ทชนะ 1 แพ้ 4 เกม เลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ทีม 19 ปี ทำให้ ไมค์ บราวน์ เป็นแพะรับบาปถูกปลดจากตำแหน่ง เบอร์นี บิคเกอร์สตัฟฟ์ โดนเลื่อนขึ้นมาขัดตาทัพทำท่าไปได้สวย แต่ระดับ เลเกอร์ส จำเป็นต้องมีนายใหญ่ตัวจริง ไมค์ ดิ แอนโทนี น่าจะเป็นคนที่ใช่ ทว่าผ่านไป 8 เกมที่คุมบังเหียน สถิติพาทีมชนะแค่ 3 พ่าย 5 เกม ทำให้บรรยากาศมาคุอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ โคบี เป็นคนปรามเพื่อนๆ พูดให้น้อย ตั้งหน้าตั้งตาเล่นบาสฯ อย่าสนใจเสียงวิจารณ์ ทำไมทำมา ชู้ตติ้งการ์ดแม่ทัพวัย 34 ปี ประกาศกร้าวพร้อมเตะก้นทุกคนในล็อกเกอร์รูม หากยังเล่นห่วยแตกกันแบบนี้ต่อไป
แน่นอนมันก็น่าหัวเสียอยู่หรอก ในเมื่อ โคบี ทำเฉลี่ย 27.9 แต้มต่อเกม เจ๋งสุดในลีก แต่ทีมสถิติกลับไปต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ (ชนะ 8 แพ้ 10 เกม) ทว่าบางครั้งการที่แม่ทัพออกอาการ "รมณ์บ่จอย" เกินเหตุถี่ๆ มันยิ่งเพิ่มความกดดันให้ลูกทีม อีกทั้งยังสร้างความระอาเกิดขึ้นแก่สตาร์บางคน จนอาจนำไปสู่ความแตกแยกในที่สุด สุภาษิตที่ว่า "เสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้" คงย้อนกลับมาในความคิดสาวกเลเกอร์ส เหมือนครั้ง โคบี เปิดสงครามน้ำลายกับ ชาคิล โอนีล เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
คราวนี้การที่ ฮาวเวิร์ด ออกมาตอบคำถามสื่อถึงอนาคตยัดห่วงทำนองว่า ต้องการหาสังกัดที่พร้อมส่งตัวเองขึ้นไปสัมผัส "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" ซึ่งหาก เลเกอร์ส ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายดั่งที่หวัง มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ "ซูเปอร์แมน" จะเลือกใช้สิทธิ์เป็น "ฟรีเอเยนต์" ลามหานครลอสแองเจลลิส ไปหาบ้านใหม่ที่อยู่แล้วสบายใจกว่า ไม่ต้องมีใครมาคอยบงการ หรือแขวะเรื่องการชู้ตฟรีโทรล แทนที่จะให้กำลังใจกัน
นี่ถ้า เลเกอร์ส ตัดสินใจเทรด เพา กาซอล ช่วงกลางซีซัน แล้วเกิดจบปี ฮาวเวิร์ด ไม่อยู่แล้วสเตเปิล เซ็นเตอร์ เกมใต้แป้นก็ตัวใครตัวมัน เนื่องจากเซ็นเตอร์ดาวโรจน์อย่าง แอนดรูว์ บายนัม ก็เทรดไปอยู่ที่ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส แล้วด้วย จะไปเริ่มใหม่กับการดราฟท์ผู้เล่น โอกาสได้เพชรเม็ดงามมาเจียระไนก็ต้องใช้เวลาขุน
ส่วนกรณี "แบ็กคอร์ต" การขาดหายไปของ แนช ที่ยังบาดเจ็บ จะว่าไปมันก็ดีเหมือนกัน เพราะนั่นหมายความว่านี่เป็นทีมของ โคบี เต็มตัว ได้คุมบอลไปเต็มๆ ทุกวันนี้ไอ้หนู แดเรียส มอร์ริส การ์ดจ่ายประสบการณ์ปีที่ 2 ในลีก เหมือนลงมายืนให้ครบ 5 คน
นี่ยังคิดไม่ออกเหมือนกันถ้า แนช คืนสนาม ดิ แอนโทนี จะไปมุกไหน ในเมื่อแผน "รัน แอนด์ กัน" เน้นเกมฟาสต์เบรกเป็นหลัก ซึ่งเข้าทางการ์ดจอมเก๋าแคนาเดียน และก็เล่นกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ ฟีนิกซ์ ซันส์ เมื่อสลับมาใช้ "พิก แอนด์ โรล" แนช ก็น่าจะประสานงาน ฮาวเวิร์ด ได้อย่างเห็นผล คงสามารถช่วยฉุดฟอร์มของ กาซอล ให้กลับมาดีขึ้นกว่าการทำเฉลี่ย 12.6 แต้ม ณ ปัจจุบัน แต่หาก แนช กลับมา แล้วบอลยังคงอยู่ในมือ โคบี เป็นหลัก เท่ากับว่าการเสริมอดีตผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัย เป็นความสูญเปล่า ในเมื่อใช้งานจอมเก๋าวัย 38 ปี ไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ โอ้พระเจ้า แค่จินตนาการกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็รู้สึกปวดเศียรเกล้าแทน ดิ แอนโทนี จริงๆ
