คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาว่า สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ได้แจ้งมายังสมาคมฯว่า น่าจะมีความผิดปกติในเกมการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2012 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่ สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ซึ่งผลวันนั้น ปราสาทสายฟ้า ชนะ 2-1 คว้าแช้มพ์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
ผู้นำวงการฟุตบอลไทย ซึ่งใครๆก็มองว่าคงไม่ค่อยจูบปากกับทางฝั่งบุรีรัมย์นัก ได้ขยายความว่า ทาง เอเอฟซี บอกว่า โยชิดะ โทชิมิตสึ ( Yoshida Toshimitsu ) ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นที่ลงทำหน้าที่ในเกมนั้นได้รายงานกับทาง เอเอฟซี ว่าได้รับการติดต่อจากบุคคลที่ตนไม่รู้ว่าเป็นใครเสนอให้สินบนเพื่อให้ตนทำการตัดสินเป็นประโยชน์กับทีมหนึ่ง
แม้ว่าผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นไม่ได้สนใจในข้อเสนอดังกล่าว คงทำหน้าที่ของตนไปตามปกติ แต่ก็อดรายงานให้หน่วยเหนือทราบไม่ได้ แล้วก็แน่นอนว่าเมื่อกลายเป็นข่าวครึกโครมไปแล้ว ผู้บริหารของทั้ง 2 ทีมที่เกี่ยวข้องต่างก็ออกมาปฏิเสธ ไม่รู้ไม่เห็น หรือเกี่ยวข้องกับการล็อคผลการแข่งขันแต่อย่างใดทั้งสิ้น อันนี้ย่อมเป็นธรรมดาของการจับไม่ได้ ไล่มันทัน หรือไม่ได้เกี่ยวข้องจริงๆ จะให้ยอมรับหน้าตาเฉยได้อย่างไร
เท่าที่ทราบ เกมดังกล่าวมีเดิมพันสูง นอกจากได้ตำแหน่งแช้มพ์เป็นเกียรติประวัติของสโมสรและผู้เกี่ยวข้อง ได้รับเงินรางวัล 3 ล้านบาท ยังได้สิทธิ์เตะ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์-อ็อฟ ด้วย ไม่น่ามีทีมใดอยากรับเศษเงินเพื่อทำให้ทีมตนเองแพ้อย่างแน่นอน แต่อยากชนะถึงขั้นจ้างผู้ตัดสิน อันนี้ยังมีความเป็นไปได้ อย่าด่วนตัดประเด็น
โดยทางฝั่ง ปราสาทสายฟ้า หวังอย่างมากในการได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลสโมสรระดับทวีป ซึ่งตอนนั้นหนทางแรกคือในฐานะแช้มพ์ ไทย พรีเมียร์ ลีก ก็ดับวูบไปแล้ว คงเหลืออีกช่องทางเดียวคือต้องเป็นแช้มพ์ฟุตบอลถ้วยใบนี้ให้ได้ ยิ่งนิสัยของทีมนี้ เต็มๆทุกนัด ไม่มีหย่อนซะด้วย
ในขณะที่ สุภาพบุรุษวงจักร ซึ่งมาได้ไกลกว่าทุกปี และที่ผ่านมาก็เคยเอาชนะ บุรีรัมย์ ให้เห็นมาแล้ว เมื่อเจอกับ บุรีรัมย์ ครั้งใด มีลุ้นทั้งนั้น ใครๆก็หวังเข้าสู่เวทีของทวีปเอเชีย ภายในสโมสรเองก็มีการเตรียมพร้อมรับผลพวงจากการคว้าแช้มพ์ถึงขนาดก่อนนัดชิงชนะเลิศ 2 วัน เสธ.หนุ่ย พันเอกวรวุฒิ วุฒิศิริ ผู้จัดการทีม โทรศัพท์ถามผมถึงการได้สิทธิ์เตะฟุตบอลสโมสรเอเชียในฐานะแช้มพ์ เอฟเอ คัพ ว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ทั้งเรื่องระบบการแข่งขัน ระเบียบการ เงินสนับสนุนการเดินทางจาก เอเอฟซี ฯลฯ เพื่อนำรายงานต่อบอร์ดบริหารสโมสร
ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมว่า โลกของฟุตบอลในยุคที่ผีพนันขอเข้าเอี่ยว เขาไม่สนความเป็นไปของทีม หรือใคร อะไรที่เกี่ยวข้องหรอกครับ ขอให้สิ่งที่ตนเดิมพันไว้เกิดผลตามนั้นก็พอ ซึ่งกระบวนการที่จะให้ผลออกมาอย่างที่ต้องการ มันล้ำไปไกลมาก อหังการขนาดบังอาจส่งคนไปดับไฟสนามแข่งขันในประเทศอังกฤษโน่นก็เคยทำมาแล้ว ดังนั้น หากไม่ใช่การล็อคผล ล้มบอล ที่มาจากทั้ง 2 ทีม ก็ต้องมองไปถึงพวกพนันบอล
นอกจากนั้น ผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างเรื่องฉาวให้โผล่ขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อทำลายชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับนายกสมาคมฯคนปัจจุบันก็ยังมีสิทธิ์ถูกหยิบมาพิจารณาได้ อันนี้เพียงแค่โทรศัพท์ขึ้นห้องพักของคุณโยชิดะ แล้วเสนอสินบนมั่วๆ หมูหมาที่ไหนก็ทำได้ เห็นไหมครับ คนที่มีสิทธิ์ตกเป็นผู้ต้องหามันคือประชากรโลก 6,000 ล้านคน ลบด้วย คนไร้เดียงสา คนพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น ก็ยังมีเป็นพันล้านคน
ผมว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าของไทยหรือของสากล ย่อมมีวิธีการ เครื่องมือ กำลังคน และสรรพสิ่งอื่นๆที่จะสืบสวนสาวไปจนพบข้อเท็จจริงได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น เอเอฟซี นายกสมาคมฟุตบอลไทย ไม่ได้ทำผิดที่นำมาเปิดเผยในเมื่อมันมีผู้ติดต่อเสนอสินบนจริงๆ หากแต่ว่าผมเกรงว่า มันจะกลายเป็น ไทยตีกับไทย ให้ต่างชาติรุ่งเรือง ก็เท่านั้นเองครับ
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาว่า สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ได้แจ้งมายังสมาคมฯว่า น่าจะมีความผิดปกติในเกมการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2012 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่ สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ซึ่งผลวันนั้น ปราสาทสายฟ้า ชนะ 2-1 คว้าแช้มพ์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
ผู้นำวงการฟุตบอลไทย ซึ่งใครๆก็มองว่าคงไม่ค่อยจูบปากกับทางฝั่งบุรีรัมย์นัก ได้ขยายความว่า ทาง เอเอฟซี บอกว่า โยชิดะ โทชิมิตสึ ( Yoshida Toshimitsu ) ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นที่ลงทำหน้าที่ในเกมนั้นได้รายงานกับทาง เอเอฟซี ว่าได้รับการติดต่อจากบุคคลที่ตนไม่รู้ว่าเป็นใครเสนอให้สินบนเพื่อให้ตนทำการตัดสินเป็นประโยชน์กับทีมหนึ่ง
แม้ว่าผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นไม่ได้สนใจในข้อเสนอดังกล่าว คงทำหน้าที่ของตนไปตามปกติ แต่ก็อดรายงานให้หน่วยเหนือทราบไม่ได้ แล้วก็แน่นอนว่าเมื่อกลายเป็นข่าวครึกโครมไปแล้ว ผู้บริหารของทั้ง 2 ทีมที่เกี่ยวข้องต่างก็ออกมาปฏิเสธ ไม่รู้ไม่เห็น หรือเกี่ยวข้องกับการล็อคผลการแข่งขันแต่อย่างใดทั้งสิ้น อันนี้ย่อมเป็นธรรมดาของการจับไม่ได้ ไล่มันทัน หรือไม่ได้เกี่ยวข้องจริงๆ จะให้ยอมรับหน้าตาเฉยได้อย่างไร
เท่าที่ทราบ เกมดังกล่าวมีเดิมพันสูง นอกจากได้ตำแหน่งแช้มพ์เป็นเกียรติประวัติของสโมสรและผู้เกี่ยวข้อง ได้รับเงินรางวัล 3 ล้านบาท ยังได้สิทธิ์เตะ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์-อ็อฟ ด้วย ไม่น่ามีทีมใดอยากรับเศษเงินเพื่อทำให้ทีมตนเองแพ้อย่างแน่นอน แต่อยากชนะถึงขั้นจ้างผู้ตัดสิน อันนี้ยังมีความเป็นไปได้ อย่าด่วนตัดประเด็น
โดยทางฝั่ง ปราสาทสายฟ้า หวังอย่างมากในการได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลสโมสรระดับทวีป ซึ่งตอนนั้นหนทางแรกคือในฐานะแช้มพ์ ไทย พรีเมียร์ ลีก ก็ดับวูบไปแล้ว คงเหลืออีกช่องทางเดียวคือต้องเป็นแช้มพ์ฟุตบอลถ้วยใบนี้ให้ได้ ยิ่งนิสัยของทีมนี้ เต็มๆทุกนัด ไม่มีหย่อนซะด้วย
ในขณะที่ สุภาพบุรุษวงจักร ซึ่งมาได้ไกลกว่าทุกปี และที่ผ่านมาก็เคยเอาชนะ บุรีรัมย์ ให้เห็นมาแล้ว เมื่อเจอกับ บุรีรัมย์ ครั้งใด มีลุ้นทั้งนั้น ใครๆก็หวังเข้าสู่เวทีของทวีปเอเชีย ภายในสโมสรเองก็มีการเตรียมพร้อมรับผลพวงจากการคว้าแช้มพ์ถึงขนาดก่อนนัดชิงชนะเลิศ 2 วัน เสธ.หนุ่ย พันเอกวรวุฒิ วุฒิศิริ ผู้จัดการทีม โทรศัพท์ถามผมถึงการได้สิทธิ์เตะฟุตบอลสโมสรเอเชียในฐานะแช้มพ์ เอฟเอ คัพ ว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ทั้งเรื่องระบบการแข่งขัน ระเบียบการ เงินสนับสนุนการเดินทางจาก เอเอฟซี ฯลฯ เพื่อนำรายงานต่อบอร์ดบริหารสโมสร
ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมว่า โลกของฟุตบอลในยุคที่ผีพนันขอเข้าเอี่ยว เขาไม่สนความเป็นไปของทีม หรือใคร อะไรที่เกี่ยวข้องหรอกครับ ขอให้สิ่งที่ตนเดิมพันไว้เกิดผลตามนั้นก็พอ ซึ่งกระบวนการที่จะให้ผลออกมาอย่างที่ต้องการ มันล้ำไปไกลมาก อหังการขนาดบังอาจส่งคนไปดับไฟสนามแข่งขันในประเทศอังกฤษโน่นก็เคยทำมาแล้ว ดังนั้น หากไม่ใช่การล็อคผล ล้มบอล ที่มาจากทั้ง 2 ทีม ก็ต้องมองไปถึงพวกพนันบอล
นอกจากนั้น ผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างเรื่องฉาวให้โผล่ขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อทำลายชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับนายกสมาคมฯคนปัจจุบันก็ยังมีสิทธิ์ถูกหยิบมาพิจารณาได้ อันนี้เพียงแค่โทรศัพท์ขึ้นห้องพักของคุณโยชิดะ แล้วเสนอสินบนมั่วๆ หมูหมาที่ไหนก็ทำได้ เห็นไหมครับ คนที่มีสิทธิ์ตกเป็นผู้ต้องหามันคือประชากรโลก 6,000 ล้านคน ลบด้วย คนไร้เดียงสา คนพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น ก็ยังมีเป็นพันล้านคน
ผมว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าของไทยหรือของสากล ย่อมมีวิธีการ เครื่องมือ กำลังคน และสรรพสิ่งอื่นๆที่จะสืบสวนสาวไปจนพบข้อเท็จจริงได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น เอเอฟซี นายกสมาคมฟุตบอลไทย ไม่ได้ทำผิดที่นำมาเปิดเผยในเมื่อมันมีผู้ติดต่อเสนอสินบนจริงๆ หากแต่ว่าผมเกรงว่า มันจะกลายเป็น ไทยตีกับไทย ให้ต่างชาติรุ่งเรือง ก็เท่านั้นเองครับ
