คดีทวงคืนทีมศรีสะเกษ เอฟซี มีอันต้องเลื่อนอีกครั้ง หลัง “บิ๊กแป๊ะ” ถิรชัย วุฒิธรรม เป็นประธานมีมติให้ “เฮียฮวด” สมบัติ เกียรติสุรนนท์ นำหลักฐานมายืนยันต่อที่ประชุมในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อนำมาประกอบคำพิจารณาตัดสินในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ จะได้ข้อสรุปสิทธิ์การทำทีมจะเป็นของศรีสะเกษเดิม หรือ อีสาน ยูไนเต็ด
เมื่อเวลา 11.00 น.มีการประชุมอนุกรรมการพิจารณากรณีทีมศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ขอทวงสิทธิ์การทำทีมกลับคืนมา โดยมี นายถิรชัย วุฒิธรรม เป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาฯ พร้อมด้วย นายธเนศ เครือรัตน์ ผู้บริหารทีมศรีสะเกษ เอฟซี และ นายสมบัติ เกียรติสุรนนท์ ประธานสโมสรอีสาน ยูไนเต็ด รวมถึงกลุ่มแฟนบอลทีมศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี รอฟังข้อสรุปจากที่ประชุม ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอรีน ในวันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
หลังการปิดห้องชุมนาน 1 ชั่วโมง “บิ๊กแป๊ะ” ถิรชัย วุฒิธรรม ออกมาเปิดเผยว่า “ทางคณะอนุกรรมการพิจารณามีความเห็นว่าให้คุณสมบัติ เกียรติสุรนนท์ นำเอกสารหลักฐานเข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมการอีกครั้งในวันที่ 12 ก.พ.นี้ เนื่องจากเรามีเอกสารทางฝั่งคุณธเนศ เครือรัตน์ เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น หากพิจารณาทันทีก็จะไม่ยุติธรรมต่ออีกฝ่าย และถือว่าพยานหลักฐานมีความสำคัญมากๆ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาเขียนคำวินิจฉัย เพื่อประกอบคำพิจารณา เพื่อตัดสินสิทธิ์การทำทีมศรีสะเกษ เอฟซี หรืออีสาน ยูไนเต็ด ในวันที่ 19 ก.พ.นี้”
ด้าน ส.ส.ธเนศ เครือรัตน์ กล่าวว่า “ตนได้รับหนังสือเชิญจากสมาคมฟุตบอลฯให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการขอทวงสิทธิ์การทำทีมของศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี แต่มีกลุ่มคนบางกลุ่มแอบปลอมลายมือชื่อโอนสิทธิ์การทำทีมให้ อีสาน ยูไนเต็ด ตนจึงแจ้งความดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมืองศรีสะเกษไปแล้ว ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ตนยังเป็นผู้บริหารของทีมศรีสะเกษ เอฟซี เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม หากสิทธิ์การทำทีมกลับไปที่ศรีสะเกษ เอฟซีอีกครั้ง ขอยืนยันว่า ทีมของตนพร้อมทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้เล่น สนามการแข่งขัน ยังเป็นสนามศรีนครลำดวน ซึ่งเป็นรังเหย้าเดิมของพวกเรา และปัจจุบันเป็นสนามของศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ในศึกเอไอเอสลีก ภูมิภาค ดิวิชัน 2”
“ทั้งนี้ ตนขอกล่าวกับแฟนกูปรี ว่า การเล่นของทีมในช่วงเริ่มแรกอาจจะไม่ประทับใจมากนัก ขอให้ดูฟอร์มการเล่นระยะยาวจะดีกว่า ซึ่งเหลือระยะเวลาอีกประมาณ 20 วันก่อนเปิดฤดูกาล 2013 ตนและลูกทีมจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” ผู้บริหารทีมศรีสะเกษ เอฟซี กล่าวต่อ
ส่วน นายสมบัติ เกียรติสุรนนท์ ประธานสโมสรอีสาน ยูไนเต็ด กล่าวหลังจบการประชุมว่า “วันนี้ตนได้เดินทางมาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงหลายๆเรื่อง ซึ่งทางเราขอยืนยันว่าเอกสารต่างๆเป็นความจริงทั้งสิ้น อยากจะขอวิงวอนสื่อว่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ตนเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และอยากให้กลุ่มแฟนบอลศรีสะเกษ เอฟซีเข้าใจในสิ่งที่เราทำ ผมทำทุกอย่างเพื่อทีมมาตลอด แต่กลับไม่มีใครมาสนับสนุนผมเลยสักคน”
สุดท้าย นายสุรินทร์ ทักษิณ ประธานแฟนคลับสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี กล่าวว่า “ตนอยากวิงวอนกับทางคณะกรรมการ ให้ตัดสินอย่างเป็นธรรมที่สุด เหมือนกับสโมสรทีโอที เอสซี และราชนาวี-ระยอง ที่เคยได้สิทธิ์การทำทีมกลับคืน ซึ่งตนมั่นใจว่าสิทธิ์ในการทำทีมจะอยู่ฝั่งศรีสะเกษ เอฟซีแน่นอน และยืนยันว่ากลุ่มแฟนบอลศรีสะเกษ เอฟซีเดิมจะกลับมาเชียร์เต็มสนามศรีนครลำดวน สเตเดียม หากไม่ได้จริงๆ ตนก็จะส่งเรื่องไปยัง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด”
