xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเวลาพิสูจน์คุณค่า กว่าจะเป็น “เมสซีเจ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เจ้าเจ” แจ้งเกิดเต็มตัว
ASTV ผู้จัดการรายวัน – ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์เลือดใหม่จากค่าย บีอีซี เทโรศาสน ด้วยผลงานส่วนตัวถือว่าสร้างความติดตาตรึงใจให้แฟนบอลพอสมควร แม้ว่าทีมชาติไทยจะไม่ประสบความสำเร็จในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 และฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 42 โดยแข้งวัย 19 ปีการันตีด้วยรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยม ไทย พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา จนทำให้หลายคนอยากรู้จักนักเตะเจ้าของความสูง 157 เซนตเมตรที่มีฉายา "เมสซีเจ" มากขึ้น เพราะแน่นอนว่ากว่าจะได้รับขนานนามเทียบแข้งระดับโลกไม่ใช่เรื่องง่าย

ชนาธิป เริ่มฝึกปรือทักษะลูกหนังตั้งแต่วัยเด็กจากการสนับสนุนของพ่อที่ตั้งความหวังเอาไว้สูงสุดคือมีธงไตรรงค์ติดที่หน้าอก จนกระทั่งเข้าสู่มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนพาณิชยการราชดำเนิน พร้อมกับฉายแววด้วยการพาทีมคว้าถ้วยพระราชทานฟุตบอลกรมพละรุ่น 18 ปี ก. ควบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำรายการมาครองในปีพ.ศ. 2554

“ผมเริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกตอน 4 ขวบ โดยต้องยอมรับว่าพ่อเป็นคนบังคับ เพราะท่านเคยเป็นนักเตะมาก่อน แม้จะเป็นเพียงแค่ระดับตำบลก็ตาม จึงฝันอยากให้ผมก้าวไปไกลกว่าถึงขั้นติดทีมชาติ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงอายุ 12 ปีฝึกหนักมาก ผมไม่ได้สุงสิงกับใครเลยซ้อมทุกวันทั้งเช้าและเย็น โดยจะเน้นเรื่องของทักษะ การเลี้ยง คลึงบอล ต่างๆ ซึ่งถ้าทำไม่ได้หรือไม่ถูกใจก็จะโดนต่อว่าบางครั้งถึงกับลงไม้ลงมือบ้างจนแอบน้อยใจหนักๆ ก็มี แต่ก็ได้แม่ที่คอยช่วยปลอบ พ่อจะศึกษาการเล่นของแข้งอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน และ ดิเอโก มาราโดนา ก่อนจะมาถ่ายทอด โดยย้ำว่าพื้นฐานต้องแน่นและเน้นการปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี พร้อมเป็นคนสอนสไตล์การเล่นที่เป็นอย่างทุกวันนี้ เนื่องจากผมตัวเล็กจึงต้องสร้างจุดแข็งด้านอื่น โดยมีเหตุผลว่าฟุตบอลสมัยใหม่ความสามารถในการทะลุทะลวงตัวต่อตัวนั้นสำคัญ” เจ เริ่มเท้าความ

ด้วยแววโดดเด่นจนไปเตะตา “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน หนึ่งในสโมสรยักษ์ใหญ่เวที ไทย พรีเมียร์ ลีก ดึงไปร่วมทัพ แม้ปีแรกจะยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าที่ควร แต่ฤดูกาลล่าสุด ชนาธิป พัฒนาฝีเท้าจนก้าวขึ้นเป็นตัวหลักมีส่วนพาต้นสังกัดจบอันดับ 3 ก่อนที่ประตูทีมชาติจะเปิดรับติดธงมาแล้วไล่ตั้งแต่รุ่น 19 ปี, 22 ปีจนสู่ชุดใหญ่เต็มตัว

ดาวรุ่งจาก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เผยถึงวินาทีแรกที่ได้รับใช้ทัพ "ช้างศึก" ว่า "ผมภูมิใจมาก ส่วนพ่อพอทราบถึงกับร้องไห้เลยทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่เขาฝันมาตลอดและโดนเพื่อนๆ พ่อเหยียดหยามอย่างหนักว่าคงไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ผมก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการที่ถูกเคี่ยวเข็นฝึกซ้อมอย่างหนักมาตลอดนั้นเห็นผลจนได้ จากนี้ก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดในศึก เอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก ซึ่งในทีมมีรุ่นพี่ที่เก่งๆ ประสบการณ์เพียบมากมาย แต่หากได้รับโอกาสก็จะทำเต็มที่แน่นอน”

ถือว่า ชนาธิป ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว เพราะมีข่าวว่าสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมผลักดันส่งตัวไปฝึกซ้อมยังถิ่น ลามาเซีย ของ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา ลีก สเปน รวมถึงถูก กัมบะ โอาซากา ทีมดังจากญี่ปุ่นตามจีบ เจ้าตัวเผยว่า “เรื่อง บาร์เซโลนา นั้นเงียบไปแล้ว ไม่มีการติดต่อใดๆ กลับมาจากทางสมาคมฯ ส่วนสโมสรญี่ปุ่นนั้น ต้องแล้วแต่ทางต้นสังกัดตัดสินใจ ซึ่งเคยได้มีการพูดคุยกันแล้ว ทางผู้บริหารก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่อยากให้ผมเล่นในประเทศไทยอีกสักระยะ บอกให้ใจเย็นๆ รอเวลาให้พร้อมกว่านี้ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่ยังมั่นใจว่าหากตอนนี้ได้โอกาสก็พร้อม เพราะผมอยากจะไปเล่นที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วและหลังจากนั้นก็เป็นความฝันต่อยอดไปยุโรป”

แน่นอนหลายคนคงอยากรู้ว่าฉายา "เมสซีเมืองไทย" นั้นได้แต่ใดมา โดยแฟนคลับตั้งให้ตาม ลิโอเนล เมสซี แข้งเบอร์ 1 ของโลกชาวอาร์เจนไตน์ เนื่องจากตัวเล็กและมีสไตล์การเล่นคล้ายกัน “ผมภูมิใจและดีใจที่กองเชียร์ให้การชื่นชม แต่ไม่เคยใช้เรียกตัวเองเลย เพราะยังเทียบไม่ได้กับระดับนั้น แม้สไตล์การเล่นจะคล้ายกันก็ตาม ผมฝึกจุดนี้มาตั้งแต่เด็ก ใช้ความคล่องตัวและเล่นด้วยสมอง แต่ก็ไม่ได้เลี้ยงพร่ำเพรื่อ บางครั้งอาจจะติดเลี้ยงผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง แต่ก็ต้องกล้าที่จะทำเพื่อเป็นการเปิดทางให้เพื่อนและโค้ชเองก็เน้นให้ผมใช้ประโยชน์จากจุดนี้ ซึ่งก็จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”

ยามอยู่นอกสนาม “เจ้าเจ” ถือเป็นคนสนุกสนาน โดยเล่าว่าสมัยเด็กเคยซนจนเกือบสูญพันธุ์มาแล้ว “สมัยเด็กๆ ผมซนมาก แต่ก็ไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครเพราะฝึกฟุตบอลทุกวัน แต่ที่สุดๆ เลยคือมีครั้งนึงปีนขึ้นไปเล่นบนเสาประตูและพลาดตกลงมา โดนตะขอเกี่ยวเข้าที่กล่องดวงใจจนเลือดไหลทะลัก พ่อเห็นเข้าก็ตกใจรีบพาไปโรงพยาบาล สุดท้ายต้องเย็บถึง 10 เข็ม แต่โชคดีที่โดนแค่ภายนอกไม่เป็นอะไรมาก”

แม้ว่าจะอายุเพียงแค่ 19 ปีแต่ก็มีแฟนคลับอุ่นหนาฝาคั่ง ทำให้มีหลายคนอยากรู้เรื่อง 4 ห้องของหัวใจ ซึ่ง "เจ" ยืนยันว่ายังโสดสนิท “ผมยังไม่มีแฟนครับ โสดเต็มร้อยและก็ไม่ได้คิดมองหาใคร เพราะอายุยังน้อยก็มีคุยๆ บ้าง แต่ยังไม่อยากผูกมัดกับใคร อยากสนุกแบบนี้มากกว่า เวลาว่างส่วนมากก็ไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า ดูหนังฟังเพลง ซื้อเสื้อผ้า กินข้าว โดยไปกับ นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม เพื่อนซี้มากที่สุด รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจนมาอยู่ บีอีซี เทโรฯ ด้วยกัน ซึ่งผมกับ ต้น ก็คอยช่วยเหลือและปรึกษากันทุกเรื่องมาโดยตลอด”

ที่ผ่านมาทั้งหมดถือเป็นเพียงแค่ก้าวแรกในวงการลูกหนังเท่านั้น จากนี้ ชนาธิป จะต้องพิสูจน์ตัวเองและต้องฝ่าฟันความกดดันเริ่มตั้งแต่ศึก เอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก นัดแรก ที่ทีมชาติไทยจะเปิด ราชมังคลากีฬสถาน รับมือ คูเวต วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์นี้
ตัวเล็กแต่ใจใหญ่
ผิดหวังจากศึก ซูซูกิ คัพ
ลีลานอกสนาม
กำลังโหลดความคิดเห็น