เอเยนซี - ตบเท้ารอบ 4 ศึก เอฟเอ คัพ แบบไม่ประทับใจ สำหรับ ลิเวอร์พูล หลังบุกเฉือน แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ จาก ดิวิชัน 5 ด้วยสกอร์บีบหัวใจ 2-1 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2556 ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ หอกตัวใหม่ที่เพิ่งย้ายจาก เชลซี ประเดิมสกอร์แรกได้ด้วย ทว่า คนที่ขโมยซีนกลับเป็น หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าร่วมค่าย ที่จังหวะพังประตูน่าจะถูกเป่าแฮนด์บอลจนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเล่นแบบตุกติกที่โดนตราหน้าเมื่อช่วงต้นฤดูกาลกลับมาอีกครั้ง
สื่ออังกฤษพาดหัวใหญ่โต โดยใช้คำค่อนข้างรุนแรง ว่า “YOU CHEAT!” ที่หมายถึงขี้โกง หลัง ซัวเรซ ยิงจังหวะแรกติดเซฟ อลัน มาร์ริอ็อตต์ ก่อนบอลเด้งมาและใช้มือประคองแล้วซ้ำให้ ลิเวอร์พูล นำ 2-0 นาที 59 ทันทีที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองแทน สเตอร์ริดจ์ เมื่อ 4 นาทีก่อน จอน แชมเปียน คอมเมนเตเตอร์ของ ESPN ผสมโรง ว่า “ถือเป็นสิ่งที่มหวาดหวั่น คือ การเล่นแบบตบตา” ส่วนแฟนบอลที่ วัน คอลล์ สเตเดียม ก็ตะโกนโจมตีหอกอุรุกวัยว่า “CHEAT!” ตลอดจนครบ 90 นาที แถมท่าดีใจยังเป็นการจูบที่ข้อมือข้างนั้นด้วย
ร้อนถึง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือถิ่น แอนฟิลด์ ต้องออกมาปกป้องลูกทีมว่า “เราได้กลับมาดูจังหวะนั้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว และแน่นอนว่า เป็นแฮนด์บอลชัดเจน แต่กรรมการไม่ได้เป่า หรือาจจะเพราะมองว่าไม่ได้เจตนา ผมคุยกับผู้ตัดสินที่ 4 ว่า แมนส์ฟิลด์ ค่อนข้างโชคร้ายกับจังหวะนี้แต่เป็นโชคดีของเรา เหนืออื่นใด ลิเวอร์พูล ก็เล่นได้ตามมาตรฐาน” เมื่อนักข่าวถามว่าทำไม ซัวเรซ ถึงไม่เข้าไปอธิบายกับเหตุการณ์กังขาดังกล่าว นายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือ เสริมว่า “ผมคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ของ ซัวเรซ และเขาก็ไม่ได้ตั้งใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินของกรรมการคนที่คุณต้องไปถาม เหนืออื่นใดผมคิดว่า อังเดร มาร์ริเนอร์ ทำงานได้ดีมาก”
ส่วน พอล ค็อกซ์ กุนซือ แมนส์ฟิลด์ ที่ตกชั้นจาก ดิวิชัน 4 หรือ ลีก ทู เมื่อปี 2008 ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด โดยเผยว่า “ผมต้องยกประโยชน์ให้ หลุยส์ เพราะเขาคือนักจบสกอร์ที่มีพรสวรรค์อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเราต้องยอมรับในจุดนี้ เพราะหากนักเตะของเราทำเช่นนั้นบ้าง ก็คงไม่อยากพูดอะไรมากนัก”
ทางด้าน ซัวเรซ ที่เคยให้สัมภาษณ์พิเศษผ่าน “เดลี เมล” สื่อดังเมืองผู้ดี ว่า ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาใครจะโจมตีหรือตราหน้าว่าเป็นนักเตะจอมตุกติก โดยจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อ ลิเวอร์พูล ซึ่งรอบ 4 เอฟเอ คัพ ถูกจับสลากออกมาแล้วจะไปเยือน โอลด์แฮม ได้โพสต์ข้อความผ่าน “ทวิตเตอร์” เครือข่ายสังคมออนไลน์ส่วนตัว ว่า “ทุกคนภายในทีมเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ผมยินดีมากและมีความสุขที่ได้ตบเท้าเข้าสู่รอบต่อไป”
นับตั้งแต่ ซัวเรซ ย้ายจาก อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ร่วมทัพ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคมปี 2011 ฤดูกาลนี้หอกวัย 26 ปี ถือว่าฟอร์มร้อนแรงมากที่สุดซัดใน พรีเมียร์ ลีก ไปแล้ว 15 ประตูแต่รวมทุกรายการยิงไปแล้ว 19 ประตูถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมอย่างแท้จริงมิเช่นนั้นอันดับอาจจต่ำกว่าที่ 8 ก็เป็นได้ โดยเมื่อช่วงออกสตาร์ทถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าล้มง่ายเพื่อจงใจเรียกจุดโทษทำให้บางครั้งกรรมการลังเลที่จะเป่าให้ “หงส์แดง” ได้เปรียบ เรื่องได้ซาไปแล้วก่อนที่จะมีประเด็นแฮนด์บอลเป็นกระแสขึ้นอีกครั้ง
ซัวเรซ มีประวัติไม่สู้ดีตั้งแต่ค้าแข้งให้ อาแจ๊กซ์ ถูกแบนยาว เพราะกัดคู่แข่งมาแล้วและถ้าจำกันได้ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ก็สร้างตำนาน “หัตถ์พระเจ้า” ใช้มือปัดบอลบนเส้นประตูนาทีสุดท้ายเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ทำให้โดนใบแดง แต่ กานา กลับยิงจุดโทษไม่เข้า จึงต้องต่อเวลาและเป็น อุรุกวัย ชนะไป 4-2 หลังเสมอ 1-1 ทำให้หอกวัย 26 ปีกลายเป็นฮีโร่ไปโดยปริยายก่อนจะถูกแบนรอบรองชนะเลิศที่ “จอมโหด” แพ้ เนเธอร์แลนด์ 2-3
โดยสไตล์การเล่นของ ซัวเรซ สามารถสร้างความได้เปรียบให้กับทีม ที่ผ่านมา ในโลกฟุตบอลก็มีนักเตะทำนองนี้หลายคนที่โดนตราหน้าว่าเป็นทั้ง “เทวดา” ของแฟนบอลตัวเอง รวมถึง “ซาตาน” ของคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็น ดิเอโก มาราโดนา, เธียร์รี อองรี หรือ คริสเตียโน โรนัลโด สุดท้ายทุกคนก็พิสูจน์ว่าเป็นแข้งระดับแนวหน้าตัวจริง ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงสีสันที่เกิดขึ้นในโลกลูกหนังและเสน่ห์ที่ขาดไม่ได้