ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด หรือ ทีพีแอล โวไม่มีปัญหาหากต้องร่วมงานกับชาวต่างชาติ หลังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง มร.เคลลี ซาทิรัจ ชาวมาเลเซีย อดีตเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย เข้ามาช่วยงาน พร้อมออกกฎเหล็กให้สโมสรปล่อยแข้งตามกฎฟีฟาเดย์
หลังจากที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง มร.เคลลี ซาทิรัจ อดีตผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมฟุตบอลมาเลเซีย และ อดีตเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ชาวมาเลเซีย เข้ามาช่วย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ในเรื่องการบริหารงานต่างๆ ในทีพีแอล
ด้านขาใหญ่ไทยลีก ออกโรงโวในการให้สัมภาษณ์หลังการประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 1/2546 เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่าไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด “ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วที่จะต้องร่วมงานกับชาวต่างชาติ เพราะที่ผ่านมาตัวผมมีประสบการณ์เคยร่วมงานกับที่ปรึกษาจากต่างประเทศมากมาย”
พร้อมกันนี้ ดร.วิชิต ยังกล่าวอีกว่า จากนี้จะเคร่งครัดกับสโมสรในการปล่อยตัวนักเตะเข้าเล่นทีมชาติ “เรากำหนดเปิดสนามฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013 ในวันที่ 2-3 ม.ค.และจะจบในวันที่ 3 พ.ย.โดยได้นำรายละเอียดของทีมชาติไทยและฟุตบอลถ้วยรายการต่างๆ มาพิจารณาจนสรุปโปรแกรมออกมาเรียบร้อย และได้เว้นช่วงตามคิว ฟีฟาเดย์ ซึ่งปีนี้ทีมชาติไทยจะได้เกมอุ่นเครื่องไม่น้อยกว่า 7 นัด รวมถึงทีมชุดซีเกมส์ที่จะอุ่นเครื่องในวันเดียวกัน”
“จากนี้ก็ต้องให้แต่ละสโมสรปล่อยตัวผู้เล่นออกมาตามกฎที่วางไว้เช่นกัน คือ ถ้าเป็นเกมกระชับมิตรในบ้าน ต้องปล่อยตัวมาร่วมทีมอย่างน้อย 48 ชม.ถ้าไม่ใช่ทัวร์นาเมนท์ 96 ชม. และถ้าเป็นทัวร์นาเมนท์รายการใหญ่ เช่น เอเชียน คัพ หรือ ซีเกมส์ อย่างต่ำต้อง 14 วัน ซึ่ง ทีพีแอล ได้วางคิวเกมลีกให้มีเกมกลางสัปดาห์ เลกละ 2 นัด แต่ถ้ามีความจำเป็นที่ต้องเลื่อนเพื่อทีมชาติไทยก็จะต้องคุยกัน โดยจะมีการหารือในวันที่ 28 มกราคมนี้” ประธานทีพีแอลกล่าว