ยุติ! “ยี” พอใจซูซูกิคัพ เมินปลด “วินนี”

“บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันผลงาน “ช้างศึก” ในศึกชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012” ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จ หลังสามารถทะลุถึงรอบชิง ปัดไม่ทราบข่าวกรณี “วินนี” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ มีปัญหากับนักข่าวไทย ชี้ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ยังอยู่ในระหว่างทำงานไม่มีการปลดแต่อย่างใด

หลังจากมีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ “วินนี” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย เนื่องจากไม่สามารถทำทีมคว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012” ที่ผ่านมา ล่าสุด ในงานแถลงข่าวฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ม.ค.2556 ณ โรงแรม โกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน (พระราม 9) วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ยืนยันผ่านผู้สื่อข่าว MGR Sport ว่า ไม่จริงแต่อย่างใด

“ผลงานใน ซูซูกิคัพ ที่ผ่านมา สำหรับผมถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะเราสามารถทะลุถึงรอบชิง เพียงแต่โชคร้ายที่ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้เท่านั้น แต่ตำแหน่งรองแชมป์ก็ยังถือว่าประสบความสำเร็จ ส่วนในเรื่องอนาคตของ เชเฟอร์ นั้น ตอนนี้ก็ยังให้ทำงานต่อไป ยังไม่มีการกำหนดเส้นตายแต่อย่างใด เจ้าตัวยังอยู่ในระหว่างทำทีม” ทั้งนี้ “บังยี” ได้ปัดชี้แจงเรื่องกรณีที่กุนซือชาวเยอรมัน ได้ให้สัมภาษณ์โจมตีนักข่าวไทยว่าให้ข่าวในแง่ลบ โดยให้เหตุผลว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

พร้อมกันนี้ นายใหญ่ลูกหนังไทย ยังเผยถึงการประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้อีกว่า “ตอนนี้ฟุตบอลลีกบ้านเรากำลังก้าวหน้าสู่ระดับเอเชีย ประเด็นหลักจึงเป็นการจะทำอย่างไรที่จะสามารถหารายได้ให้แต่ละสโมสรได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างหารือกับ เซอร์ เดวิด ริชาร์ด ประธานพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่นำมาเป็นที่ปรึกษา ในเรื่องต่างๆ เช่น จะมีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการยื่นประมูลหรือไม่ ก่อนจะมีการเปิดให้ผู้สนใจเข้ามากรอกเอกสารในปลายเดือนกุมภาพันธ์ และผมบอกได้เลยว่าไม่ได้มีแต่เฉพาะบริษัทในประเทศไทยเท่านั้น ตอนนี้มีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรป ประมาณ 2-3 แห่ง ติดต่อให้ความสนใจเข้ามาเช่นกัน”

สำหรับในส่วนของ ทีพีแอล นายวรวีร์ ยืนยันว่่ายังไว้ใจให้ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง นั่งตำแหน่งประธานต่อไป “เราต้องยกระดับบอลลีกให้สูงขึ้น ดังนั้น จึงต้องไม่ปิดกั้นที่จะนำชาวต่างชาติเข้ามาช่วยงาน ซึ่งบุคคลที่เข้ามาก็มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการเป็นเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย มาก่อน โดยจะเข้ามาช่วยเสริมในด้านการจัดการแข่งขัน และโครงสร้างลีก ในฐานะผู้จัดการทั่วไป แต่ประธานยังคงเป็น ดร.วิชิต เช่นเดิม”