“โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทยชุดรองแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2007 แนะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ให้เปลี่ยนความแค้นเป็นความมุ่งมั่นในนัดที่จะออกไปเยือน “ลอดช่อง” สิงคโปร์ ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก วันที่ 19 ธันวาคม นี้ พร้อมเน้นการควบคุมอารมณ์ให้ดูแมตช์กับ มาเลเซีย ที่ผ่านมาเป็นบทเรียน
ทัพนักเตะทีมชาติไทย มีคิวออกไปเยือนจาลัล เบซาร์ สนามหญ้าเทียม รังเหย้าของสิงคโปร์ อดีตแชมป์ 3 สมัย 1998, 2004 และ 2007 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012” รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ซึ่งเป็นการรีแมตช์อีกครั้งของทั้งคู่ หลังเมื่อปี 2007 “ช้างศึก” พลาดคว้าแชมป์อย่างน่ากังขา โดยนัดแรกบุกไปพ่ายก่อน 1-2 จากจุดโทษท้ายเกม ก่อนที่จะมาโดนลูกยิงตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเวลานัดที่สอง ทำให้สกอร์รวม แพ้ 2-3
ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทยชุดดังกล่าวได้ออกโรงแนะทัพนักเตะไทย ว่า ให้เปลี่ยนจากการล้างแค้นเป็นความมุ่งมั่น “แมตช์ระหว่าง ไทย กับ สิงคโปร์ เหมือนการรีแมตช์กันอีกครั้งจากปี 2007 ซึ่งถึงแม้ปีนั้นเราจะโดนโกง แต่ผมก็ไม่เคยแค้น เพราะเป็นเกมกีฬา และไม่อยากให้นักเตะชุดนี้คิดว่าแมตช์ที่จะถึงนี้เป็นการล้างแค้น อยากให้เปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นมากกว่า อยากให้มีสมาธิในเกม เน้นคอนโทรลอารมณ์ โดยดูตัวอย่างจากที่นักเตะมาเลเซียโดนยั่วยุจนได้ใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามในนัดที่ผ่านมาเป็นบทเรียน”
“ผมเชื่อว่า เรายังเหนือกว่า แต่นัดแรกเราต้องเล่นด้วยความอดทน เหมือนเป็นการพบกันระหว่าง ความสด กับ ความเก๋า ไทยมีนักเตะที่ใหม่กว่า และกำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม ขณะที่มาเลเซียยังคงมีตัวเก่าหลงเหลืออยู่ เช่น สองกองหน้าอย่า คาห์อิรูล อัมริ กับ อเล็กซานดาร์ ดูริค รวมถึง ราด็อจโก อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ซึ่งเปรียบเสมือนกระแสคลื่น เพราะเมื่อสมัยปี 2007 พวกเขาก็เคยสดและประสบความสำเร็จมาก่อน แต่ตอนนี้เป็นยุคของไทยที่จะขึ้นมาแทนที่แล้ว” โค้ชหรั่งกล่าว
นัดชิงฯ ไทย-สิงคโปร์ ปี 2007 คลิป
โดย farissen3