"วินนี" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ประกาศนำแชมป์เจ้าอาเซียนกลับสู่ประเทศไทยอีกครั้ง หลังห่างหายไป 10 ปี ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่จะพบกับ "ลอดช่อง" สิงคโปร์ อดีตแชมป์ 3 สมัย เท่ากับทีมไทย พร้อมมั่นใจไร้ปัญหาแม้ต้องออกไปเล่นสนามหญ้าเทียมในนัดแรก
หลังจากที่ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มสวยหรูสยบแชมป์เก่า "เสือเหลือง" มาเลเซีย 2-0 สกอร์รวมสองนัด 3-1 กรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012" ไปพบกับ "ลอดช่อง" สิงคโปร์ อดีตแชมป์ 3 สมัย ในนัดแรกวันที่ 19 ธันวาคม ก่อนที่นัดสองจะกลับมาเล่นที่สนามศุภชลาศัย ในวันที่ 22 ธันวาคม 2555
วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือช้างศึก เผยว่าทุกคนเล่นได้เหนือชั้น"เกมวันนี้ทุกคนมีความสุข ทุกคนเล่นได้เหนือชั้น แม้ช่วง 15 นาทีสุดท้ายเราก็ต้องเดินหน้าเพื่อทำประตูต่อไป ผมเชื่อมั่นในผู้เล่นชุดนี้ซึ่งเป็นชุดเดียวกับนัดแรก แต่เราไม่ได้มีแค่ 11 คนเท่านั้น แต่มี 22 คน ที่มีทีมเวิร์กที่ลงตัว
รอบต่อไปกับ สิงคโปร์ ผมคิดว่าเป็นทีมที่ดีมาก เคยได้ดูเกมที่พวกเขาพบกับ ฟิลิปปินส์ เกมที่ไปเยือนต้องได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจ ก่อนที่จะกลับมาเล่นในบ้านเรา ถึงเวลาแล้วที่เราจะคว้าแชมป์ให้ได้หลังห่างหายไปถึง 10 ปี"
ส่วนเรื่องสนามจาลัล เบซาร์ รังเหย้าของสิงคโปร์ ที่เป็นสนามหญ้าเทียม และทีมชาติไทยต้องออกไปเยือนก่อนนัดแรกนั้น "วินนี" เผยว่าไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด "เรื่องสนามฝึกซ้อมหญ้าทีม ผมได้ให้ทีมงานปรึกษากับทางบางกอกกล๊าส เอฟซี เพื่อขอเตรียมทีม ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะโดยส่วนตัวก็สนิทสนมกับทีมดีอยู่แล้ว"
ด้าน ดาโต๊ะ คริสนาซาห์มี ราชโคปาล เฮดโค้ชเสือเหลือง ยังมั่นใจว่าลูกทีมเล่นได้ดีพร้อมอวยพรให้ไทย "เป็นเกมที่ยาก ผมเชื่ออยู่แล้วว่ามาเยือนจะโดนทีมชาติไทยเข้าเพรสซิงเร็วกดดัน ครึ่งแรกเราเล่นได้ดี แต่จุดเปลี่ยนคือการโดนใบแดงและเสียประตูแรก จึงทำให้กลับสู่เกมลำบาก ซึ่งถ้าตัวผู้เล่นเท่ากันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ และคิดว่าผู้ตัดสินไม่ค่อยทันเกมเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรผมก็เชื่อว่าภาพรวมเราเล่นได้ดี แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ขออวยพรให้ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จในรอบชิงชนะเลิศ"