โจเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา กล่าวชมเชยประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ครั้งที่ผ่านมา ว่า จัดการแข่งขันได้ดี พร้อมฝากคำชมไปถึง นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเตรียมดัน กีฬาฟุตซอล เข้าบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2555 ณ โรงแรมเซนต์ รีจิส (ราชดำริ) เวลา 11.00 น.โจเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา พร้อมด้วย มานิลอัล เฟอร์นันโด ประธานคณะกรรมการฟุตซอล นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตซอลโลก 2012 ตั้งโต๊ะแถลงข่าวประเมินภาพรวมก่อนเกมการแข่งขันฟุตซอลโลกนัดชิงที่ 3 และ ชิงชนะเลิศ
โจเซปป์ แบล็ตเตอร์ ได้กล่าวชมเชยประเทศไทย ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ แม้เป็นครั้งแรกที่เพิ่มจำนวนทีมเป็น 24 ทีม แต่ก็ทำได้อย่างดี “การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกครั้งที่ผ่านมา ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพแม้จะเจอปัญหาหลายๆ ด้าน แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ซึ่งภาพรวมที่มีทีมเล็กๆ เข้าแข่งขันแต่ก็สามารถสู้กับทีมระดับใหญ่ๆ ได้ ในอนาคตการแข่งขันรายการนี้จะยังมี 24 ทีมเช่นเดิม โดยครั้งต่อไปในปี 2016 มี 6 ประเทศที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ประกอบด้วย ฝรั่งเศส, อิหร่าน, โคลอมเบีย, สาธารณรัฐเช็ก, เปอร์โตริโก และ สเปน โดยจะมีการตัดสินในเดือนพฤษภาคมปีหน้า”
“พร้อมกันนี้ ผมยังเสนอบรรจุฟุตซอลเข้าไปในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งครั้งต่อไปที่ บราซิล เป็นเจ้าภาพ ปี 2016 มีกีฬาเพิ่มเข้าไปใหม่ 8 ประเภท ผมจึงพยายามที่จะดันฟุตซอลให้เข้าไปแข่งขัน แต่ยังมีอุปสรรคอยู่ที่จำนวนทีมที่เข้าแข่งขันของฟุตบอล ทั้งทีมชายและทีมหญิง ทำให้ครั้งหน้าที่บราซิลอาจจะยาก แต่โอลิมปิกครั้งต่อๆ ไป น่าจะมีโอกาส รวมถึงรายการฟุตซอลชิงแชมป์โลก ของทีมหญิงด้วยเช่นกัน”
ด้าน สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานจัดการแข่งขันฯ เผยว่า “ต้องขอขอบคุณ ฟีฟา ที่ให้โอกาสเราจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ของประเทศไทยค่อนข้างประสบความสำเร็จได้รับคำชมจากฟีฟ่า ว่า เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้ดี และเมื่อการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกสิ้นสุดลง จะเป็นการปลุกกระแสกีฬาให้กับประเทศไทย พร้อมเสริมสร้างภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือในการลงทุนและการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่สำคัญเป็นพื้นฐานในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกอื่นๆ รวมถึงเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลก เช่น การประชุมคองเกรสของฟีฟา”
สุดท้าย วรวีร์ มะกูดี กล่าวว่า นายใหญ่ลูกหนังโลก ได้ฝากไปถึง นายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ว่า การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ของไทยสมควรยกย่องและชมเชยหลังจัดการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม “ฟีฟา ได้ฝากคำชมเชยไปถึง ท่านนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ นอกจากนี้ ฟีฟา ได้มีโครงการสำคัญ คือ “ฟุตบอลฟอร์โฮป” (Football for hope) โดยมีเป้าหมาย คือ การใช้กีฬาเข้ามาเป็นตัวเชื่อมความสามัคคีในประเทศ และเราก็มีข้อดีในจุดนั้น เพราะฟุตบอลลีกบ้านเรามีการแข่งขันทุกภูมิภาค โดยเฉพาะ 3 จังหวัดในภาคใต้ และในสงขลาบางอำเภอที่มีปัญหา ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยกีฬาฟุตบอล”