นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ออกโรงจี้รัฐบาล ติดตามผลตรวจสอบหลังจากสนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีนา (หนองจอก) ไม่ได้รับการอนุมัติจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ให้จัดแข่งขันศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก ประจำปี 2012 ที่ประเทศไทยได้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 1-18 พฤศจิกายน 2555
เมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ออกแถลงการณ์ไม่อนุญาตให้สนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีนา ที่หนองจอก จัดการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย รวมถึงรอบตัดเชือกและชิงชนะเลิศ ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 เนื่องจากความไม่พร้อม ทั้งยังหวั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของแฟนๆ ที่จะเข้าไปชม พร้อมกับให้โยกโปรแกรมรอบก่อนรองชนะเลิศไปเตะที่สนามนิมิบุตร เกมตัดเชือกกับรอบชิงที่ 3 และรอบชิงแข่งขันที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก
ด้าน นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธาน กมธ.สว. ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport หลังทราบว่าสนามหนองจอกไม่ได้ใช้แข่งฟุตซอลโลกครั้งนี้ "ถือเป็นเรื่องเสียหายในวงกว้าง เพราะฟีฟามีแถลงผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการทำงานอย่างโปร่งใส ส่วนประเทศไทยถือว่าเสียหน้าแน่นอน ส่วนที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บอกว่าฟีฟาพอใจกับการเป็นเจ้าภาพของเรา เรื่องสนามหนองจอกไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทางเราก็อยากถามกลับว่าทำไมตอนแรกฟีฟาถึงปฏิเสธ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ในการเป็นสนามพิธีเปิด-ปิดการแข่งขัน สำหรับใครที่มองไม่เสียหาย ทว่าเรามองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นผลเสียไม่น้อย"
"ทั้งนี้ กมธ.สว.มีความปรารถนาดี อยากให้ทุกคนยืดอกรับผิด เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียน ยังสามารถนำมาปรับปรุงสำหรับทัวร์นาเมนต์ต่อๆ ไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเสียโอกาสไปแล้วสำหรับการใช้สนามหนองจอกช่วยโปรโมตการแข่งขัน คงต้องดูว่ารัฐบาลจะมีการติดตามผลอย่างไร ในเมื่อพิจารณามอบหมาย แจกงบกันไปแต่ทำไม่ได้ตามหมายงาน ในเรื่องมติคณะรัฐมนตรีก็ต้องมาดูว่ามีความผิดพลาดตรงไหน ใครต้องรับผิดชอบบ้าง ถ้าไม่ทำอะไรเลย ถือว่ารัฐบาลละเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางเรามีหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งที่โปร่งใสและไม่โปร่งใส ให้รัฐบาลผู้ตรวจสอบพิจารณา หากไม่นำมาพิจารณาคงต้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ" เจ๊มล กล่าวต่อ
"ส่วนสนามหนองจอก กมธ.สว.ยังเห็นว่ามีประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า แต่คงต้องจัดสร้างให้เรียบร้อย กทม.ต้องทำงานกันให้หนักมากขึ้น สำหรับกรณีวันที่ 29 พฤศจิกายน เตรียมเรียนเชิญ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาชี้แจง ก็เป็นไปตามเดิม เราต้องการข้อมูลเป็นกรณีศึกษา ทั้งเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรื่องของสนามและการจัดการแข่งขัน" ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ทิ้งท้าย
เมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ออกแถลงการณ์ไม่อนุญาตให้สนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีนา ที่หนองจอก จัดการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย รวมถึงรอบตัดเชือกและชิงชนะเลิศ ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 เนื่องจากความไม่พร้อม ทั้งยังหวั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของแฟนๆ ที่จะเข้าไปชม พร้อมกับให้โยกโปรแกรมรอบก่อนรองชนะเลิศไปเตะที่สนามนิมิบุตร เกมตัดเชือกกับรอบชิงที่ 3 และรอบชิงแข่งขันที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก
ด้าน นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธาน กมธ.สว. ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport หลังทราบว่าสนามหนองจอกไม่ได้ใช้แข่งฟุตซอลโลกครั้งนี้ "ถือเป็นเรื่องเสียหายในวงกว้าง เพราะฟีฟามีแถลงผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการทำงานอย่างโปร่งใส ส่วนประเทศไทยถือว่าเสียหน้าแน่นอน ส่วนที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บอกว่าฟีฟาพอใจกับการเป็นเจ้าภาพของเรา เรื่องสนามหนองจอกไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทางเราก็อยากถามกลับว่าทำไมตอนแรกฟีฟาถึงปฏิเสธ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ในการเป็นสนามพิธีเปิด-ปิดการแข่งขัน สำหรับใครที่มองไม่เสียหาย ทว่าเรามองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นผลเสียไม่น้อย"
"ทั้งนี้ กมธ.สว.มีความปรารถนาดี อยากให้ทุกคนยืดอกรับผิด เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียน ยังสามารถนำมาปรับปรุงสำหรับทัวร์นาเมนต์ต่อๆ ไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเสียโอกาสไปแล้วสำหรับการใช้สนามหนองจอกช่วยโปรโมตการแข่งขัน คงต้องดูว่ารัฐบาลจะมีการติดตามผลอย่างไร ในเมื่อพิจารณามอบหมาย แจกงบกันไปแต่ทำไม่ได้ตามหมายงาน ในเรื่องมติคณะรัฐมนตรีก็ต้องมาดูว่ามีความผิดพลาดตรงไหน ใครต้องรับผิดชอบบ้าง ถ้าไม่ทำอะไรเลย ถือว่ารัฐบาลละเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางเรามีหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งที่โปร่งใสและไม่โปร่งใส ให้รัฐบาลผู้ตรวจสอบพิจารณา หากไม่นำมาพิจารณาคงต้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ" เจ๊มล กล่าวต่อ
"ส่วนสนามหนองจอก กมธ.สว.ยังเห็นว่ามีประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า แต่คงต้องจัดสร้างให้เรียบร้อย กทม.ต้องทำงานกันให้หนักมากขึ้น สำหรับกรณีวันที่ 29 พฤศจิกายน เตรียมเรียนเชิญ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาชี้แจง ก็เป็นไปตามเดิม เราต้องการข้อมูลเป็นกรณีศึกษา ทั้งเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรื่องของสนามและการจัดการแข่งขัน" ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ทิ้งท้าย