คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
หลายต่อหลายครั้งที่พบว่านักกอล์ฟเสียสโตรคหรือก่อความผิดพลาดจากการเล่นในหลุมบังเกอร์โดยไม่ตั้งใจ แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วก็คงจะรู้พื้นฐานของการเล่นลูกจากทรายเป็นอย่างดี แต่ ณ สถานการณ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นความกดดันจากคู่แข่งร่วมก๊วน หรือจากตัวนักกอล์ฟเอง ก็อาจจะทำให้เราลืมเรื่องเบสิคเหล่านั้นไปอย่างไม่ตั้งใจด้วยเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้วหลักการตามตำราที่ง่ายต่อการเข้าใจที่สุดเมื่อเล่นลูกจากทรายก็คือ "เปิดหน้าเหล็กเล็กน้อย แล้วตีลงไปที่ด้านหลังลูกประมาณ 2 นิ้ว" เป็นสูตรสำเร็จที่ใช้กันมาอย่างยาวนานเพื่อให้ลูกขึ้นออกมาจากอุปสรรค แต่สำหรับนักกอล์ฟบางท่านที่เข้าสู่ระดับแอดวานซ์ กล่าวคือเริ่มบังคับลูกให้มีสปิน ต้องการให้ลูกลอยสูงออกไปตกหยุดข้างๆ หลุม หรือต้องการให้ออกไปต่ำแล้วไหลเข้าไลน์ สิ่งเหล่านี้ก็จะมีเทคนิคการตีจากทรายที่แตกต่างกันออกไป เช่นต้องการสปินมาก สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือความแม่นยำในการลงเหล็กใกล้ลูกและตีด้วยความมั่นใจไม่ลังเล สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เป็นตัวกำหนดว่าจะสปินมากหรือน้อยก็คือสปีดของหน้าไม้ขณะเข้ากระทบลูก แบบต่อมาหากท่านต้องการให้ลูกลอยออกไปในมุมสูงชัน การเปิดหน้าเหล็กให้มากที่สุดและสวิงด้วยมุมที่ชันขึ้นจบวงสูงก็เป็นสิ่งที่จะตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี แบบต่อมาคือไม่ต้องเปิดหน้าเหล็กมาก ลงเหล็กไปที่หลังลูกโดยมีระยะห่างจากลูกตามสมควร จบสวิงต่ำๆ ผลที่ได้ลูกก็จะลอยออกไปไม่โด่งและไม่มีสปินมากนัก ทำให้ไหลเข้าไลน์ที่กำหนดเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
รูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการตีที่แตกต่างกันเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ ก็คือ "ความนิ่งของช่วงล่าง" นั่นเอง เราต้องไม่ลืมว่าพื้นทรายที่เรายืนอยู่เป็นพื้นนุ่ม เมื่อลงไปยืนแล้วเท้าก็จะสามารถขยับเขยื้อนได้อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ง่ายๆ โดยการพยายามฝังเท้าลงไปให้มั่นคง ให้รู้สึกว่าเท้าขยับเขยื้อนได้ยากขึ้น ทั้งนี้เพราะไม่ว่าจะเร่งสปีดตีใกล้ลูก เปิดหน้าเหล็กสวิงชันขึ้น หรือตีหลังลูกจบต่ำ ล้วนจะได้ผลงานตามที่ต้องการก็ต่อเมื่อมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง ความนิ่งของร่างกายช่วงล่างทำให้ท่อนบนทำหน้าที่ได้อย่างง่ายและสบายขึ้น แต่ถ้าวันใดที่ช่วงล่างเราเริ่มอ่อนแอ ไม่แข็งแรง ก็จะส่งผลต่อการทำงานของร่างกายท่อนบนโดยทันทีนั่นเอง
หลายต่อหลายครั้งที่พบว่านักกอล์ฟเสียสโตรคหรือก่อความผิดพลาดจากการเล่นในหลุมบังเกอร์โดยไม่ตั้งใจ แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วก็คงจะรู้พื้นฐานของการเล่นลูกจากทรายเป็นอย่างดี แต่ ณ สถานการณ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นความกดดันจากคู่แข่งร่วมก๊วน หรือจากตัวนักกอล์ฟเอง ก็อาจจะทำให้เราลืมเรื่องเบสิคเหล่านั้นไปอย่างไม่ตั้งใจด้วยเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้วหลักการตามตำราที่ง่ายต่อการเข้าใจที่สุดเมื่อเล่นลูกจากทรายก็คือ "เปิดหน้าเหล็กเล็กน้อย แล้วตีลงไปที่ด้านหลังลูกประมาณ 2 นิ้ว" เป็นสูตรสำเร็จที่ใช้กันมาอย่างยาวนานเพื่อให้ลูกขึ้นออกมาจากอุปสรรค แต่สำหรับนักกอล์ฟบางท่านที่เข้าสู่ระดับแอดวานซ์ กล่าวคือเริ่มบังคับลูกให้มีสปิน ต้องการให้ลูกลอยสูงออกไปตกหยุดข้างๆ หลุม หรือต้องการให้ออกไปต่ำแล้วไหลเข้าไลน์ สิ่งเหล่านี้ก็จะมีเทคนิคการตีจากทรายที่แตกต่างกันออกไป เช่นต้องการสปินมาก สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือความแม่นยำในการลงเหล็กใกล้ลูกและตีด้วยความมั่นใจไม่ลังเล สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เป็นตัวกำหนดว่าจะสปินมากหรือน้อยก็คือสปีดของหน้าไม้ขณะเข้ากระทบลูก แบบต่อมาหากท่านต้องการให้ลูกลอยออกไปในมุมสูงชัน การเปิดหน้าเหล็กให้มากที่สุดและสวิงด้วยมุมที่ชันขึ้นจบวงสูงก็เป็นสิ่งที่จะตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี แบบต่อมาคือไม่ต้องเปิดหน้าเหล็กมาก ลงเหล็กไปที่หลังลูกโดยมีระยะห่างจากลูกตามสมควร จบสวิงต่ำๆ ผลที่ได้ลูกก็จะลอยออกไปไม่โด่งและไม่มีสปินมากนัก ทำให้ไหลเข้าไลน์ที่กำหนดเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
รูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการตีที่แตกต่างกันเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ ก็คือ "ความนิ่งของช่วงล่าง" นั่นเอง เราต้องไม่ลืมว่าพื้นทรายที่เรายืนอยู่เป็นพื้นนุ่ม เมื่อลงไปยืนแล้วเท้าก็จะสามารถขยับเขยื้อนได้อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ง่ายๆ โดยการพยายามฝังเท้าลงไปให้มั่นคง ให้รู้สึกว่าเท้าขยับเขยื้อนได้ยากขึ้น ทั้งนี้เพราะไม่ว่าจะเร่งสปีดตีใกล้ลูก เปิดหน้าเหล็กสวิงชันขึ้น หรือตีหลังลูกจบต่ำ ล้วนจะได้ผลงานตามที่ต้องการก็ต่อเมื่อมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง ความนิ่งของร่างกายช่วงล่างทำให้ท่อนบนทำหน้าที่ได้อย่างง่ายและสบายขึ้น แต่ถ้าวันใดที่ช่วงล่างเราเริ่มอ่อนแอ ไม่แข็งแรง ก็จะส่งผลต่อการทำงานของร่างกายท่อนบนโดยทันทีนั่นเอง