โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ กุนซือของ เชลซี เผยตนรู้สึกว่าลูกทีมตกเป็นเป้าหมายของ “สิงห์เชิ้ตดำ” อย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างสโมสร และผู้ตัดสิน กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ หลังความพ่ายแพ้ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา
จากการส่งหนังสือร้องเรียนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เกี่ยวกับ มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก เปาซึ่งลงทำหน้าที่ในศึก พรีเมียร์ชิป หับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกี่ยวกับการใช้วาจาไม่เหมาะสมกับ จอน โอบี มิเกล ทำให้ กุนซือชาวอิตาเลียน รู้สึกว่า ทีมจากถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่ได้รับการปกป้องจากกรรมการ ต่างจากทีมอื่นๆ
ข้อโต้แย้งดังกล่าว เกิดจาก แคลตเทนเบิร์ก ชักใบแดงไล่ 2 บรานิสลาฟ อิวาโนวิข และ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ออกจากสนาม ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองในรอบ 1 ปีเศษที่ผ่านมา ที่เคยเกิดขึ้นกับ ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ที่ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 9 คน ตั้งแต่พ่ายต่อ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส 0-1 เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2011 และเป็นแมตช์เดียวกันกับ จอห์น เทอร์รี ถูกแบนจากการเพยียดผิว แอนทอน เฟอร์ดินานด์
อดีตเทรนเนอร์ เวสต์บรอมฯ กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เราถูกไล่ออก 2 คนใน 1 เกม ที่คิวพีอาร์ คนหนึ่งถูกต้อง และอีกคนหนึ่งอาจไม่ถูกต้อง และเมื่อวันอาทิตย์ คนหนึ่งคิดว่า มันเข้มงวด และอีกคนหนึ่งคิดว่า มันไม่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ บางทีนั่นคือบางอย่างที่เราต้องคิดถึงมัน”
“เราต้องการแค่การตัดสินที่เป็นธรรมจากทุกคน ไม่มีใครพูดถึงจังหวะแฮนด์บอลในครึ่งหลัง (แคปิตอล วัน คัพ) เมื่อเราสมควรได้จุดโทษ ผมคิดว่ากรรมการควรลงสนามด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม พวกเขาทำได้ คุณรู้ไหม เราอยู่ภายใต้ความกดดันที่นี่ นักเตะ, ทีมงานผู้ตัดสิน, สตาฟฟ์โค้ช ต่างต้องการทำผลงาน และผมไม่คิดว่ามันมีอคติจากประเด็นนั้น” ดิ มัตเตโอ ทิ้งท้าย
